อสังหาฯทะลวงกำลังซื้อไตรมาส2อัดแคมเปญหนักสู้ คลัสเตอร์โควิด
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเคส “คลัสเตอร์ทองหล่อ” แหล่งบันเทิงชื่อดังของกรุงเทพฯ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวยามราตรี รวมถึงบุคคลสำคัญระดับ VIP ไม่ว่าจะเป็น นักการเมือง ผู้บริหารระดับสูงในองค์กรของรัฐ และตำรวจ มีความเสี่ยงจากโควิด-19 และกลายเป็น คลัสเตอร์ที่ส่งผลให้เกิดการะบาดต่อเนื่องไปยังต่างจังหวัด
ซึ่งการระบาดรอบใหม่ ได้บั่นทอนเศรษฐกิจไทยที่มีความอ่อนไหว ให้ย่ำแย่ลงไปอีก จากเดิมที่คาดว่าจะมีการเติบโตระดับ 4% คาดว่าต้องปรับลดประมาณการลงอย่างแน่นอน สิ่งที่ต้องจับตามองอย่างมาก คือ การเปิดประเทศในเดือนกรกฎาคมนี้ ภาครัฐจะมีการทบทวนนโยบายดังกล่าวหรือไม่ ขณะที่ธุรกิจโรงแรมและภาคบริการต่างๆ ซึ่งรอความหวังการเปิดประเทศและมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา คงต้อง “ก้มหน้า” รันธุรกิจ ภายใต้สถานการณ์ที่ยังคงมีความเสี่ยงทั้งจากไวรัส เศรษฐกิจที่ต้องใช้ระยะเวลาการฟืนตัวอย่างชัดเจน ภาคอุตสาหกรรม และภาคธุรกิจต่างๆ รวมถึงกำลังซื้อภายในประเทศ ที่ยังคงอ่อนแรงจากการถูกผลกระทบจากโควิด-19 ครั้งแรก ขณะที่ รายรับของรัฐ การจัดเก็บภาษี ไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้
อสังหาฯ รายใหญ่เร่งปั๊มยอดขายไตรมาส 2
สำหรับตลาดที่อยู่อาศัย ช่วงปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการทุกค่าย เน้นระบายสต๊อกสินค้า ผ่านกลยุทธ์เรื่องสงครามราคา โปรโมชันที่นำเสนอแต่ละค่ายรุนแรง ทั้งการมอบส่วนลดเงินสด (ในบางยูนิต) อยู่ฟรีนานสูงสุด 24-36 เดือน การเจรจากับสถาบันการเงินในการนำเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษในระยะ 1-2 ปี การจูงใจเรื่องค่าตอบแทนให้กับพนักงานทุกฝ่ายในการเป็น นักขาย เป็นต้น
ล่าสุด ตั้งแต่ไตรมาสแรกที่ผ่านมา กลยุทธ์เรื่อง “ราคา” ยังคงเป็นเครื่องมือที่ผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่ รายกลางและเล็ก นำมาสร้างเป็นจุดขายเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อและโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยเร็วขึ้น ส่งผลให้ยอดขายในไตรมาส 1 ออกมาค่อนข้างดี
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการ ผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไตรมาส 2 (เม.ย.-มิ.ย.) เชื่อว่า ซัปพลายการเปิดตัวสินค้าใหม่ยังคงเกิดจากผู้เล่นรายใหญ่ไม่กี่รายในตลาดดังที่ผ่านมา สินค้าคอนโดมิเนียม คาดว่าเซนติเมนต์น่าจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง แต่คงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะฟืนตัวกลับไปเหมือนก่อนเผชิญสถานการณ์โควิด-19 ด้าน สินค้าแนวราบ ยังคงเป็นซูเปอร์สตาร์ต่อเนื่องไปอีกปี โดยในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายได้มากถึง 7,966 ล้านบาท จากอสังหาริมทรัพย์เครือ เอพีที่กระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 113 โครงการ (Exiting Projects) เพิ่มขึ้น 32% หากเทียบกับยอดขายไตรมาส 1 ของปี 2563 ที่ 6,045 ล้านบาท
โดยเป็นยอดขายที่มาจากสินค้าแนวราบมากถึง 7,293 ล้านบาท สะท้อนภาพความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีต่อสินค้าบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮมเครือเอพี ที่กระจายครอบคลุมในพื้นที่เขต กทม. หรือการขยายตลาดใหม่ไปใน 5 จังหวัด อย่างขอนแก่น ระยอง นครศรีธรรมราช อยุธยา และเชียงราย จนสามารถสร้างการเติบโตด้านยอดขายได้อย่างโดดเด่นที่สุดท่ามกลางสภาวะตลาดผันผวน เช่นนี้
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษาเรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS กล่าวว่า ในไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวโครงการบ้านหลายแห่ง โดยได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าในแต่ละทำเลอย่างดี สะท้อนถึงดีมานด์ที่อยู่อาศัยที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง เช่น บ้านพฤกษา รังสิต อเวนิว และบ้านพฤกษา ลาดกระบัง ฉลองกรุง ซึ่งทั้ง 2 โครงการสามารถทำยอดขายสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 200% และ 118% ตามลำดับ
สำหรับในไตรมาส 2 เพื่อเป็นการสนับสนุนให้คนไทยมีบ้านได้ง่ายขึ้น จึงได้จัดแคมเปญแรงต่อเนื่อง “พฤกษา คุ้ม จบทุกดีล” โดยบริษัทฯ ได้คัดเลือกโครงการที่อยู่อาศัยมากถึง 131 โครงการ มาให้ลูกค้าได้เลือกสรร โดยลูกค้าที่จองตั้งแต่วันนี้-30 มิ.ย. 64 และโอนกรรมสิทธิ์ภายใน 31 ก.ค.64 จะได้รับสิทธิพิเศษรับฟรีสูงสุดถึง 3 รายการ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถย้ายเข้าอยู่ได้อย่างรวดเร็ว และลดความกังวลกับภาระต่างๆ ได้นานสูงสุดถึง 3 ปีเลยทีเดียว โดยสิทธิพิเศษที่มอบให้ได้แก่ 1. อยู่ฟรีสูงสุด 36 เดือน 2. ฟรีค่าส่วนกลางสูดสุด 36 เดือน และ 3. ฟรีค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์ นอกจากนี้ ยังมีส่วนลดเงินสดเพิ่มเติมให้อีก มูลค่ารวมทั้งหมดสูงถึง 48 ล้านบาททีเดียว
โดยทาง พฤกษา วางเป้ายอดขายจากรายการส่งเสริมการขาย “พฤกษา คุ้ม จบทุกดีล” ไว้ที่ 5,400 ล้านบาท ขณะที่ ในไตรมาสแรก บริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย “Pruksa Free Fest” ช่วยผลักดันและสร้างยอดขายจากแคมเปญไปได้มากกว่า 1,600 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ากว่า 5,300 ล้านบาท จึงส่งผลให้ยอดขายในไตรมาส 1 ของบริษัทรวมประมาณ 7,000 ล้านบาท ทั้งนี้ มีความมั่นใจ ยอดขายทั้งปีจะได้ตามเป้าที่ 32,000 ล้านบาท
บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN ส่งมอบเอกสิทธิ์พิเศษแห่งการใช้ชีวิตเหนือระดับ ภายใต้แนวคิดโครงการ Livable Simple Luxury House เรียบง่ายแต่พิถีพิถันกับทุกรายละเอียดและให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยจริง พบกับข้อเสนอสุดพิเศษ ให้แก่ผู้ที่จองซื้อ “บ้าน 365 พระราม 3” (BAAN 365 RAMA III) ภายในเดือนเมษายนนี้ ได้ร่วมสัมผัสและเป็นเจ้าของโครงการบ้านหรูพร้อมอยู่ ใจกลางเมือง จองบ้านวันนี้ พร้อมรับรถหรูป้ายแดงTHE NEW BMW 5 SERIES หรือ THE BMW X7 มูลค่าสูงสุดกว่า 6 ล้านบาท* (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด) ตั้งแต่วันที่ 1-30 เมษายน 2564
ในส่วนของตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนและการอยู่อาศัย แม้ขณะนี้ตลาดยังอยู่ในช่วงของการฟืนตัว โดยคาดว่าเมื่อเปิดประเทศแล้ว กำลังซื้อจะไหลกลับมา โดยนายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯได้เสิร์ฟโปรโมชันร้อนแรงแห่งปี ต้อนรับซัมเมอร์ ‘Summer Hot Deals’ กับ 4 โครงการคอนโดฯลักชัวรี ที่ออกแบบมาเพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์แห่งการใช้ชีวิตเหนือระดับ ครบครันด้วยฟังก์ชัน ดีไซน์อันทันสมัย บนทำเลศักยภาพใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ได้แก่ โครงการวาลเด้น อโศก (Walden Asoke) โครงการวาลเด้น สุขุมวิท 39 (Walden Sukhumvit 39) โครงการวาลเด้น ทองหล่อ 8 (Walden Thonglor 8) และโครงการเพื่อการลงทุนใจกลางพัทยาเหนือ อย่างโครงการ รามาด้า มิร่า นอร์ท พัทยา (Ramada Mira North Pattaya)
สำหรับลูกค้าที่จอง และชำระเงินทำสัญญาซื้อขาย มอบส่วนลดสูงสุด 400,000 บาท* รับฟรี! ทองคำแท่ง 1 บาท พร้อม VOUCHER ที่พักโรงแรมสุดหรูแบรนด์ X2* (ครอสทู) และโครงการ วาลเด้น ทองหล่อ 8 ราคาเริ่มต้น 8.9 ล้านบาท* สำหรับลูกค้าที่จองภายในวันนี้ และชำระเงินทำสัญญาซื้อขาย มอบส่วนลดสูงสุดถึง 1 ล้านบาท* ฟรี! ทองคำแท่ง 1 บาท พร้อม VOUCHER ที่พักโรงแรมสุดหรูแบรนด์ X2* (ครอสทู)
DHOUSE รับกำลังซือแนวราบ เปิด “U PARK” ไตรมาส 2
นายพงศ์พจน์ เลิศรุ้งพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีเฮ้าส์พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ DHOUSE ผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ช่วงไตรมาส 1/64 ลูกค้าให้ความสนใจเข้าเยี่ยมชมโครงการจำนวนมาก ส่งผลให้มียอดขายเพิ่มขึ้น โดยบริษัทมี Backlog ประมาณ 40 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ไตรมาส 2/64 ทั้งหมด
ขณะที่ช่วงไตรมาส 2/64 บริษัทเตรียมลงทุนโครงการ U PARK บ้านจัดสรร บนพื้นที่ 40 ไร่ ใกล้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จำนวนรวม 249 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 607.07 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดโอนได้ภายในปีนี้
สำหรับการจัดตั้งบริษัทย่อย บริษัท ดีกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด โดย DHOUSE เข้าถือหุ้น 99.99% เพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทให้เช่า ธุรกิจค้าปลีก หรือลงทุนในธุรกิจอื่น ได้ทำการเข้าซื้อกิจการบริษัท ดี เอนเนอร์จี แอนด์ รีเทล จำกัด ในสัดส่วน 99.98% เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นขอเป็นผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ประเภทสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง และเตรียมขยายธุรกิจร้านค้าภายในสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ในพื้นที่ Mix Use เพื่อสร้างรายได้ประจำ อีกทั้งเป็นการกระจายที่มาของรายได้ เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตให้แก่บริษัทในระยะยาว โดยบริษัทตั้งเป้าหมายปี 64 เติบโต 30-40%
เครือ MJD ตังทีม ฉก.บุกตระเวนตรวจโควิดถึงโครงการ
นายธนา ต่อสหะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มดีพีซี จำกัด MDPC Expertise Meets Excellence ในเครือเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ในฐานะผู้บริหารจัดการโครงการที่อยู่อาศัยและดูแลลูกบ้านกว่า 30,000 ยูนิต กล่าวว่า ทางบริษัทได้ยกระดับความเข้มข้นขึ้น โดยจัดตั้งทีมเฉพาะกิจ นำโดยผู้บริหารจากส่วนกลาง ตระเวนเสริมมาตรการดูแลคุณภาพชีวิตและสุขอนามัยของผู้พักอาศัยอย่างเร่งด่วน พร้อมกำชับพนักงานระดับปฏิบัติการให้ทำตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อลดโอกาสการระบาดของเชื้อไวรัสภายในโครงการภายใต้ความดูแลของ MDPC ทุกโครงการ โดยอิงตามประกาศจากทางกรุงเทพฯและกระทรวงสาธารณสุข พร้อมจัดตั้งทีมงานเฉพาะกิจ นำโดยผู้บริหารระดับสูงขององค์กร ลงพื้นที่ตรวจสอบการปฏิบัติตามมาตรการของเจ้าหน้าที่ในแต่ละโครงการเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกบ้านภายใต้การดูแลของ MDPC แต่ยังคงรักษาประสิทธิภาพการบริการให้ได้คุณภาพตามมาตรฐาน ISO 9001: 2015 ซึ่งเป็นมาตรฐานของระบบบริหารคุณภาพ (Quality Management System) ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา