2บิ๊กอสังหาฯมั่นใจธุรกิจฟื้น

25 ก.พ. 2564 377 0

          “วัคซีนโควิด” หนุนเศรษฐกิจกำลังซื้อ

          “บิ๊กอสังหาฯ” มั่นใจธุรกิจฟื้นตัว จากวัคซีนโควิด “ศุภาลัย” ตั้งเป้ารายได้ปีนี้นิวไฮ แตะ 2.8 หมื่นล้าน โต 33% จากปีก่อนที่ 2 หมื่นล้าน เดินหน้าเปิดโครงการใหม่ 31 โครงการ เน้นแนวราบ เล็งออกหุ้นกู้ปีนี้ 4 พันล้าน รีไฟแนนซ์หุ้นกู้เดิมครบกำหนด ด้าน “อนันดา” คาดครึ่งปีหลังยอดโอนฟื้นหวังลูกค้าต่างชาติกลับมา ดันยอด โอนปีนี้ 1.6 หมื่นล้าน  เล็งเปิดโครงการใหม่ 5 โครงการ มูลค่า 2.4 หมื่นล้าน

          นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI เปิดเผยว่า คาดตลาดรวมอสังหาริมทรัพย์ปีนี้จะฟื้นตัวจากปี2563 ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดแล้ว เพราะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยคาดว่ายอดการยกเลิกซื้อ และยอดปฏิเสธสินเชื่อในปีนี้จะปรับตัวดีขึ้น จากปีที่ผ่านมาอย่างมีนัยสำคัญจากสถานการณ์โควิด-19 มีทิศทางดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา

          ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้อยู่ที่ 28,000 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) เพิ่มขึ้น33.53%จากปีก่อนอยู่ที่ 20,969 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีโครงการสร้างเสร็จและเตรียมที่จะโอนในปีนี้ 16,192 ล้านบาท จาก backlog ที่มี 37,564 ล้านบาท  ซึ่งส่วนใหญ่ จะโอนในช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ซึ่งถือเป็นไตรมาสที่มียอดโอนสูงสุดของปีนี้ โดยในไตรมาส1คาดว่าจะมียอดโอนไม่มาก เพราะลูกค้าเร่งการโอนในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าปีนี้จะสูงกว่าปีก่อน

          รวมถึงบริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ปีนี้ 31 โครงการ มูลค่า 34,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นโครงการแนวราบ 83% และ 17% เป็นโครงการแนวสูง  โดยในไตรมาส1ปี 2564 บริษัทมีแผนเปิดโครงการจำนวน 6 โครงการ มูลค่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดว่าปีนี้จะมียอดขายที่ 27,000 ล้านบาท

          สำหรับปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนซื้อที่ดิน 8,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ที่ใช้ 3,600 ล้านบาท เพราะราคาที่ดินได้ปรับลดลงจากปีที่ผ่านมา ขณะที่บริษัทคาดว่าจะใช้งบลงทุนในการก่อสร้างอยู่ที่ 13,000 ล้านบาท โดยแหล่งเงินทุนก็จะมาจากเงินที่ลูกค้ามีการโอนกรรมสิทธิ์โครงการในปีนี้ และยอดขายโครงการ

          “ปีนี้บริษัทมีการเปิดโครงการคอนโดเพียง 4 โครงการ จากที่เปิดโครงการใหม่ทั้งหมดปีนี้ 31 โครงการ เพราะ มองว่า ตลาดคอนโดแม้จะฟื้นแต่ยังไม่ดีเท่ากับ3-5 ปี ที่ผ่านมา เพราะ ดีมานด์จากนักลงทุนจีน ยังไม่ดี  ซึ่งส่วนตัวมองว่าคอนโดระดับราคา 5-6 หมื่นบาทต่อตารางเมตรยังมี แนวโน้มเติบโตดีจากกำลังซื้อของคนไทยเพื่ออยู่อาศัยเองในกลุ่มระดับกลางบนและกลางล่าง แต่ต้องเป็นทำเลที่ดีเดินทางสะดวก ส่วนคอนโดที่เป็นลักชัวรีคาดว่ากว่าจะ ฟื้นตัวต้องใช้เวลานานกว่า”

          อย่างไรก็ตามปีนี้บริษัทมีหุ้นกู้ ที่ครบกำหนด 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดในเดือนมี.ค. จำนวน 3,000 ล้านบาท โดยบริษัทจะมีการออกหุ้นกู้ทดแทน ในเดือนดังกล่าว และอีก 1,000 ล้านบาทครบกำหนดในเดือนก.ค.

          นายชัยยุทธ ชุณหะชา ประธาน เจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN เปิดเผยว่า คาดยอดโอนคอนโดมิเนียม ฟื้นตัวขึ้นช่วงครึ่งปีหลัง 2564 หลังประเทศไทยเริ่มทยอยฉีดวัคซีนให้กับประชาชนครึ่งแรก ขณะที่ภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียมฟื้นเช่นกัน สะท้อนผ่าน 2 ปัจจัยบวกคือ 1.ซัพพลายในตลาดลดลง เนื่องจากปีก่อนบริษัทไม่มีเปิด โครงการใหม่ๆ ออกมา รวมทั้งผู้ประกอบการ  อสังหาฯ รายอื่นๆ ไม่มีเปิดโครงการ หรือเปิดโครงการใหม่น้อยมาก และ 2.ดีมานด์ลูกค้าสูง โดยเฉพาะลูกค้าชาวจีนต้องการซื้ออสังหาฯ ในไทยจำนวนมาก แต่ตอนนี้ติดปัญหาเข้ามาไทยไม่ได้ ซึ่งลูกค้าชาวจีนเป็นสัดส่วนเบอร์ 1 ของบริษัท โดยปีก่อนแม้มีโควิด-19 แต่บริษัทมียอดโอนลูกค้าต่างชาติคิดเป็น 21%

          “ปีนี้เชื่อว่าวัคซีนโควิด-19 ทำให้เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ที่คาดกำลังซื้อฟื้นตัว เป็นความหวังทำให้การท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวและกำลังซื้อจากลูกค้าชาวต่างชาติโดยเฉพาะลูกค้าชาวจีนที่มีความต้องการซื้อสูง ที่เรียกได้ว่าเป็น Mega Trend ของทั่วโลก จะเป็นตัวช่วยให้แนวโน้มและความมั่นใจกลับมาดีขึ้น“นายชัยยุทธ กล่าว

          โดยในปีนี้ตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่ 5 โครงการ มูลค่าราว 24,422 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพและใกล้รถไฟฟ้า ได้แก่ ทองหล่อ, สุรวงศ์, สะพานควาย, สุขุมวิท 38 และลำสาลี พร้อมแนวคิดใหม่ ดีไซน์การออกแบบใหม่ เพื่อตอบโจทย์วิถีการใช้ชีวิตแบบใหม่ หลังจากปีก่อนบริษัทไม่ได้เปิดโครงการใหม่

          โดยในปีนี้ตั้งเป้ายอดโอน 16,008 ล้านบาท มาจากโครงการคอนโดมิเนียม 14,311 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 89% และจากโครงการ แนวราบ 1,697 ล้านบาท คิดเป็น 11% ขณะที่ ยอดขาย 18,570 ล้านบาท เติบโต 6% จาก ปีก่อนที่มียอดขาย 17,945 ล้านบาท แบ่งเป็น ยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียม 16,762 ล้านบาท และจากโครงการแนวราบ 1,808 ล้านบาท ส่วนยอดขายรอโอน (Backlog) ในมือทั้งสิ้น 18,316 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง

          นอกจากนี้ ปีนี้บริษัทตั้งเป้าลด ค่าใช้จ่ายในการบริหาร 20% หรือ 300 ล้านบาท จากปีก่อนที่ลดค่าใช้จ่ายไป 10-20%

ที่มา:

คลิกเครื่องหมาย เพื่อเพิ่มลงตะกร้าเก็บทรัพย์ที่สนใจ หรือกดอีกครั้งเพื่อลบออก
คลิกเพื่อเลือก บ้านที่ต้องการแล้วกดปุ่ม "เปรียบเทียบ" ได้เลย