ORI ปี 64 ยอดขายนิวไฮ 3 หมื่นล้าน ปี 65 เตรียมประกาศเมกะโปรเจกต์ ก.พ.-มี.ค.นี้
“ออริจิ้น” ตอกย้ำครองใจคนซื้อบ้าน-คอนโดฯ โชว์ผลงานปี 64 โกยยอดขายทะลุเป้าแตะ 30,250 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ (New High) พร้อมแย้มปี 65 เตรียมแผนใหญ่พลิกเกมอสังหาฯ ผุดเมกะโปรเจกต์ช่วงก.พ.-มี.ค.นี้
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า ภาพรวมยอดขาย (Presales) โครงการที่อยู่อาศัยของบริษัทตลอดทั้งปี 2564 อยู่ที่ประมาณ 30,250 ล้านบาท ปรับตัวสูงกว่าเป้าหมายทั้งปีที่วางไว้ที่ 29,000 ล้านบาท หรือเติบโตจากช่วงเดียวกันของปี 2563 ถึง 17% และยังเป็นสถิติใหม่สูงสุด (New High) ของบริษัท โดยยอดขายรวม แบ่งเป็น ยอดขายจากกลุ่มบ้านจัดสรรในสัดส่วน 28% และกลุ่มคอนโดมิเนียมในสัดส่วน 72% ซึ่งหากแบ่งตามสถานะโครงการจะมีสัดส่วนยอดขายจากโครงการพร้อมอยู่ (Ready to move) ในสัดส่วน 65% และกลุ่มโครงการที่เพิ่งเปิดขาย หรืออยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง (Ongoing) ในสัดส่วน 35%
ทั้งนี้ในปี 2564 นับเป็นปีที่ไม่ง่ายสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยภายนอกหลายอย่างเกิดขึ้นต่อเนื่องตลอดปี ทั้งการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอก 2-3 และมาตรการล็อกดาวน์ มาตรการปิดแคมป์ก่อสร้าง ดังนั้น Key Success ของบริษัทจึงยังคงเป็นเรื่องความเข้าใจใน Customer Insight และความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับทุกสถานการณ์
“เราสร้างลูกเล่นใหม่ ๆ ในการเข้าถึงและตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ยังคงมองหาที่อยู่อาศัยใหม่ เช่น การจัดมหกรรมคอนโดออนไลน์ในรูปแบบ Property Live การเจาะเซกเมนต์ใหม่ ๆ ส่งผลให้ทั้งโครงการพร้อมอยู่และโครงการเปิดตัวใหม่ยังตอบสนองดีมานด์ได้อย่างดี จนทำยอดขายทั้งปีได้สูงกว่าเป้าหมาย” นายพีระพงศ์ กล่าว
ขณะที่บริษัทได้เปิดตัวคอนโดมิเนียมหลากหลายแบรนด์ใหม่อย่างต่อเนื่องในปี 2564 อาทิ บริกซ์ตัน (Brixton) เจาะตลาดเฉพาะกลุ่มในราคาที่เข้าถึงได้ (Affordable Niche) เช่น คอนโดมิเนียมสำหรับคนรักสัตว์เลี้ยง คอนโดมิเนียมสำหรับนักศึกษา ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play) เจาะตลาดกลุ่มสตาร์ทอัพ ออริจิ้น เวลเนส เรสซิเดนซ์ เจาะตลาดกลุ่มผู้สูงวัย (Silver Age) และแฮมป์ตัน (Hampton) ประกอบด้วยหลากซับแบรนด์สำหรับเจาะกลุ่มนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน (Investment Property) โดยทุกแบรนด์ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันโครงการบ้านจัดสรรภายใต้บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) ก็สามารถสร้างยอดขายระดับ All Time High ได้ต่อเนื่องทุกปี ตามแผนเติบโตของบริษัท
สำหรับภาพรวมปี 2565 บริษัทยังคงมีหลากหลายสถานการณ์ที่ยังต้องจับตาอย่างใกล้ชิด อาทิ การแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอน และสายพันธุ์ใหม่ ๆ ที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐที่อาจตามมาจากการแพร่ระบาด COVID-19 และสถานการณ์เงินเฟ้อ ทั้งในระดับประเทศ และระดับโลก อย่างไรก็ดีประเมินว่าภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะยังมีโอกาสเติบโตได้มากกว่าปี 2564
อย่างไรก็ดี บริษัทได้เตรียมแผนใหญ่ไว้หลายด้านตลอดปี 2565 รวมถึงจะมี “เมกะโปรเจกต์” ที่จะมาพลิกเกมการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และสร้างอีกระดับของการใช้ชีวิตให้แก่ผู้บริโภค เบื้องต้นคาดว่าจะเปิดเผยรายละเอียดต่าง ๆ ได้ในช่วงปลาย ก.พ.-กลาง มี.ค. 2565 นี้
ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น
