CHEWAพร้อมขาย1.62หมื่นล. ลุยเปิดโครงการใหม่-อัพงบบวก

20 ก.ค. 2563 496 0

          CHEWA โชว์สต๊อกพร้อมขาย 1.62 หมื่นล้านบาท บิ๊กบอส “บุญ ชุน เกียรติ” สั่งลุยเปิดโครงการใหม่ 1.36 พันล้านบาท  มองอสังหาระยะสั้นไปต่อ ดีมานด์ที่อยู่อาศัยเพียบ ตุนแบ็กล็อก 2.4 พันล้านบาท จ่อบุ๊กเข้ากระเป๋าปีนี้ 1.5 พันล้านบาท ใส่เกียร์ดันผลงานพลิกบวก

          นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA เปิดเผยว่า บริษัทประเมินภาพอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ระยะสั้นยังเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งบริษัทมีโครงการพร้อมขายในมือจำนวนมาก และมีโครงการรอโอนไปจนถึงปี 2565 โดยช่วงไตรมาส 2/2563 หรือเดือนเมษายนจำนวนผู้เข้าชมโครงการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เพราะผู้บริโภคเริ่มมองหาที่อยู่อาศัย ที่มีพื้นที่ หรือมีสัดส่วนสำหรับการอยู่อาศัยที่ชัดเจน

          สินค้าพร้อมขาย

          สำหรับโครงการพร้อมขายในปัจจุบัน มี 14 โครงการ ประกอบไปด้วย โครงการ คอนโดมิเนียม 7 โครงการ ได้แก่ ชีวาทัย เรสซิเดนท์ อโศก, ชีวาทัย เพชรเกษม 27, ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค จรัญฯ 13, ชีวาทัย เกษตร-นวมินทร์, ชีวาทัย เรสซิเดนท์ ทองหล่อ, ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค ลาดพร้าว โชคชัย 4  เฟส 1, ชีวาทัย ปิ่นเกล้า

          ทั้งนี้เป็นโครงการพร้อมอยู่ทั้งหมด 4 โครงการ ได้แก่ ชีวาทัยเรสซิเดนท์ อโศก, ชีวาทัย เพชรเกษม 27, ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค จรัญฯ 13, ชีวาทัย เรสซิเดนท์ ทองหล่อ มูลค่ารวม 9.07 พันล้านบาท ขณะที่โครงการแนวราบที่อยู่ระหว่างพร้อมขาย ซึ่งเป็นโครงการแนวราบ 7 โครงการ พร้อมอยู่ทั้งหมด ได้แก่ ชีวาโฮมวงแหวน-ลำลูกกา, ชีวาโฮมสุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศ, ชีวาโฮมปิ่นเกล้าสาทร, ชีวารมย์ นครอินทร์, ชีวาบิซโฮม, ชีวาโฮมกรุงเทพฯ-ปทุม, ชีวาโฮมรังสิต-ปทุม มูลค่าโครงการ 7.14 พันล้านบาท มูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น 1.62 หมื่นล้านบาท

          ลุยเปิดโครงการใหม่

          ขณะที่ในไตรมาส 3/2563 บริษัทจะเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการมูลค่า 1.36 พันล้านบาท ได้แก่ โครงการชีวาโฮมรังสิต-ปทุม มูลค่า 1.09 พันบ้านบาท โดยบริษัทเปิดตัวไปตั้งแต่วันที่ 11-12 กรกฎาคม และได้รับกระแสตอบรับดี และคาดจะรับรู้รายได้เข้ามาภายในไตรมาส 3/2563 ทันที และโครงการฮาร์ท สุขุมวิท 36 (บริษัทถือหุ้น 70%)

          ขณะเดียวกันบริษัทมอง ภาพระยะกลาง และยาว บริษัท ประเมินยาก เนื่องจากต้องเกาะติด สถานการณ์ การแพร่ระบาด โควิด-19 อย่างใกล้ชิด หากสถานการณ์จบเร็ว และมีวัคซีนสำหรับรักษาโรค คาดจะช่วยให้สถานการณ์ภายในประเทศคลี่คลาย และจะส่งผลดีต่อทุกกลุ่มอุตสาหกรรม

          อีกทั้งบริษัทหวังให้ภาครัฐมี นโยบายกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม จากช่วงต้นปีที่ได้รับการสนับสนุนสำหรับการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย คาดจะช่วยให้ภาพอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ต่อจากนี้กลับมาคึกคักอีกครั้ง สำหรับภาพรวมผลประกอบการปีนี้ บริษัทคาดทิศทางจะกลับมาเป็นบวกได้ เมื่อเทียบกับปีก่อนขาดทุน 55.06 ล้านบาท และในไตรมาส 1/2563 ขาดทุน 25.86 ล้านบาท

          รอโอน 1.5 พันล้าน

          โดยบริษัทมียอดรอโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 1/2563 อยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท คาดจะโอน ภายในปีนี้ 1.5 พันล้านบาท โดยส่วนใหญ่จะเป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/2563 และส่วนที่เหลือจะโอนต่อเนื่องไปจนถึงปี 2565

          และบริษัทมั่นใจรายได้ปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 2 พันล้านบาท จากปีก่อนที่ 1.15 พันล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/2563 จะเหลือยอดโอนที่บริษัทต้องเปิดโครงการใหม่ หรือหายอดโอนเพิ่มเติมอีกเพียง 160 กว่าล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดยอดโอนที่เกิดขึ้นเพิ่มเติมจะมาจากโครงการที่เปิดในครึ่งปีหลัง และโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและพร้อมรับรู้ รายได้

ที่มา:

คลิกเครื่องหมาย เพื่อเพิ่มลงตะกร้าเก็บทรัพย์ที่สนใจ หรือกดอีกครั้งเพื่อลบออก
คลิกเพื่อเลือก บ้านที่ต้องการแล้วกดปุ่ม "เปรียบเทียบ" ได้เลย