รวมมิตร บริษัทใหญ่ในไทย ที่เปิดรับชำระเงินด้วย คริปโต ท่ามกลางข้อกังวลเรื่องภาษี
ในช่วงปีที่ผ่านมา นับเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของวงการเงินดิจิทัล หรือ ‘คริปโตเคอเรนซี’ เมืองไทยเลยก็ว่าได้ ทั้งในแง่จำนวนนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ความแรงของเทรนด์ Defi, NFT และ Metaverse
เหล่านี้จุดกระแสให้บรรดาบริษัท ห้างร้านใหญ่ๆ เริ่มประกาศรับชำระเงินด้วยคริปโตฯ กันแพร่หลายมากขึ้นในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ตั๋วหนัง ตั๋วเครื่องบิน กาแฟและเครื่องดื่ม ยันซื้อบ้าน และคอนโดฯ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของแนวทางการจัดเก็บ ‘ภาษี คริปโตฯ’ จากกรมสรรพากร และธนาคารแห่งประเทศไทย ยังออกมาประกาศว่า ไม่สนับสนุนการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้ชำระค่าสินค้าและบริการ เพราะราคามีความผันผวนสูง มีความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรมทางไซเบอร์
ประเดิมด้วย ‘ตั๋วหนัง’
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือน มี.ค. 2021 เจ้าใหญ่อย่าง Major Cineplex สร้างเสียงฮือฮาด้วยการเปิดโครงการ ‘ทดลองรับแลกตั๋วหนังด้วยสกุลเงินดิจิทัล’ รายแรกของไทย ผ่านการจับมือกับ Zipmex แพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล และ Rapidz ผู้ให้บริการระบบรับแลกสินค้าและบริการด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล
เริ่มต้นด้วยสกุลเงินคริปโตฯ เบอร์หนึ่งอย่าง Bitcoin และกำลังจะเพิ่มสกุลเงินคริปโตฯ อื่นๆ เช่น Ethereum และ ZMT (สกุลเงินของ Zipmex) โดยให้บริการที่เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สาขารัชโยธินเป็นที่แรก ตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค. 2021 และกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาสาขาต่อไป
แบรนด์อสังหาฯ ให้ซื้อบ้าน-คอนโดฯ ด้วย ‘คริปโตฯ’
ตามมาติดๆ กับกลุ่ม ‘อสังหาริมทรัพย์’ ภาคธุรกิจรายแรกๆ ที่พาเหรดกันเปิดให้ใช้คริปโตฯ ซื้อบ้านและคอนโดมิเนียมได้ มากมายหลายแบรนด์
ในเดือน เม.ย. 2021 อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ มาพร้อมกับ Bitkub แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในไทย เปิดช่องทางการชำระเงินโดยนำคริปโตฯ มาใช้ชำระเงินสำหรับการซื้อโครงการบ้านและคอนโดมิเนียม ‘ทุกโครงการ’ ของอนันดา เบื้องต้นเปิดรับ 3 สกุลเงินดิจิทัล คือ Bitcoin, Ethereum และ Tether (USDT)
จากนั้นไม่นาน แสนสิริ ได้ร่วมมือกับ XSpring และ Bitazza นายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker) ของไทย เปิดรับคริปโตฯ สำหรับซื้อบ้านและคอนโดฯ รวมไปถึงสามารถ ‘จ่ายค่า ส่วนกลาง’ ได้ทุกโครงการ เบื้องต้นเปิดรับ 4 สกุลเงินดิจิทัล คือ Bitcoin, Ethereum, USDC และ Tether (USDT) ผ่าน Bitazza โดยเริ่มต้นอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา
ด้าน ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จับมือ Bitkub ให้ซื้อขายบ้านและคอนโดมิเนียมทุกโครงการในเครือด้วยสกุลเงินดิจิทัล โดยเบื้องต้นเปิดรับ 3 สกุลเงิน ได้แก่ Bitcoin, Ethereum และ Tether (USDT)
เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ก็ร่วมกับ Bitkub เปิดรับสกุลเงินดิจิทัลในการจอง วางเงินดาวน์ และชำระเพื่อโอนกรรมสิทธิ์ คอนโดฯ ผ่าน 3 สกุลเงินดิจิทัล ได้แก่ Bitcoin, Ethereum และ Tether (USDT) โดยไม่มีค่าธรรมเนียม
ฝั่ง เจ้าพระยามหานคร ร่วมกับ Zipmex เพิ่มช่องทางซื้อขายบ้านและคอนโดฯ ด้วยสกุลเงินดิจิทัลทุกสกุลเงินที่อยู่บนแพลตฟอร์ม Zipmex
ส่วน เอสซี แอสเสท ก็จับมือ Zipmex เช่นกัน โดยเปิดซื้อบ้านและคอนโดฯ ผ่าน 5 สกุลเงินดิจิทัล ได้แก่ BTC, ETH, ZMT, Tether (USDT) และ USDC เพื่อรองรับการขยายฐานกลุ่มลูกค้าอนาคตทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยเริ่มมาวันที่ 1 ธ.ค. 2021
ใกล้ตัวขึ้นอีก เมื่อเปิดให้ชอปของในห้างฯ
เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ของธุรกิจศูนย์การค้าในปีที่ผ่านมา เมื่อ The Mall Group และ Bitkub ประกาศร่วมทุนจัดตั้ง Bitkub M Company Limited เพื่อร่วมลงทุนและบริหาร BITKUB M SOCIAL ซึ่งตั้งอยู่ที่ ดิ เอ็มควอเทียร์ บนพื้นที่กว่า 2,000 ตร.ม. เป็นคอมมูนิตี้สำหรับสมาชิกที่สนใจในคริปโตเคอเรนซีและเศรษฐกิจดิจิทัลแห่งแรกของไทย
รวมถึงเปิดให้ใช้คริปโตฯ 7 สกุลเงิน ได้แก่ Bitkub Coin, Bitcoin, Ethereum, Tether (USDT) , Ripple, Stellar Lumens และ JFIN Coin แลกซื้อสินค้า-บริการ หรือสิทธิประโยชน์ต่างๆ จาก The Mall Group
นอกจากนี้ ยังจะมีการทำการตลาดผ่านโปรโมชันและสิทธิพิเศษ ด้วย NFT (Non-fungible Token) และ Gamification เพื่อดึงดูดให้คนมาใช้บริการกับศูนย์การค้าด้วยภาพความร่วมมือของ จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้ง บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป
โฮลดิ้งส์ จำกัด (ซ้าย) และศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร
บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด (ขวา)ด้านแบรนด์รองเท้าในตำนาน อย่าง นันยาง ปรับตัวรับ กระแสเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ขยายตลาดเจาะคนรุ่นใหม่ โดยเพิ่มช่องการให้ลูกค้านำคริปโตฯ 3 สกุลเงินได้แก่ Bitcoin, Ethereum และ Dogecoin มาติดต่อขอแลกซื้อสินค้าได้ผ่านทางเพจเฟซบุ๊กของนันยาง และรอรับสินค้าไม่เกิน 3 วันทำการ
เตรียมซื้อตั๋วเครื่องบินด้วย ‘คริปโตฯ’
พุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการสายการบิน ‘บางกอกแอร์เวย์ส’ ประกาศในงานแถลงดีลระหว่าง The Mall Group และ Bitkub ว่า สายการบินกำลังวางแผนเปิดให้ลูกค้าสามารถนำสกุลเงินดิจิทัลมาชำระค่าโดยสารได้ โดยจะเริ่มขายบัตรโดยสารที่สำนักงานใหญ่เป็นแห่งแรก ภายในเดือน ม.ค. 2021 นี้ โดยกำลังอยู่ระหว่างการเร่งประสานกับ Bitkub เพื่อจัดการระบบหลังบ้าน และจะขยายสู่ช่องทางออนไลน์ในอนาคต
จ่ายค่าอาหาร-กาแฟ
ขยับมาทางฝั่งยักษ์ใหญ่ด้านพลังงาน อย่าง บางจาก ที่เปิดรับชำระเงินด้วยคริปโตฯ เริ่มใช้ที่ร้านกาแฟ “อินทนิล” ก่อนขยายไปธุรกิจ “คาร์แคร์-ปั๊มน้ำมัน” โดยร่วมมือกับ Bitazza สร้างการใช้งานจริงของคริปโตฯ ในชีวิตประจำวัน มีโซลูชันในการแปลง คริปโตเคอเรนซีเป็นเงินบาทได้ทันที
บางจากฯ เริ่มรับชำระด้วยคริปโตเคอเรนซีที่ “ร้านกาแฟอินทนิล” ด้วยสกุลเงินอย่าง Bitcoin, Ethereum และ Tether (USDT) มาตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2021 จำนวน 21 สาขาและเพิ่มอีก 100 สาขา ในวันที่ 1 ม.ค. 2022 ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล จากนั้นวางแผนจะขยายไปทั่วประเทศให้ได้ภายในไตรมาส 2 ปีนี้
ส่วนเชนร้านกาแฟชื่อดังของคนไทยอย่าง Class Cafe ก็เปิดให้ซื้อกาแฟด้วย Bitcoin และเหรียญคริปโตฯ อื่นๆ ได้ตั้งแต่ 26 ธ.ค. 2021 เป็นต้นไป แบบไม่มีค่าธรรมเนียม
รวมไปถึงมีคาเฟ่ใหม่ๆ ที่เป็นคอมมูนิตี้ของคนที่สนใจ ในสินทรัพย์ดิจิทัลเกิดขึ้นมาเพื่อเจาะลูกค้าตลาดนี้โดยตรง อย่าง The Moon : Crypto & NFT Cafe และ HIP Coffee & Restaurant นอกจากความเคลื่อนไหวของบริษัทใหญ่แล้ว ยังมีร้านอาหารและร้านกาแฟแบรนด์ขนาดกลาง-เล็ก เข้าร่วมเทรนด์การรับคริปโตฯ แทนเงินบาท กันอย่างคึกคัก
จะเห็นได้ว่าความเคลื่อนไหวในฝั่งเอกชนไทย พร้อมเปิดรับสกุลเงินดิจิทัลในการซื้อของมากขึ้น และดูจะเป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังอยู่ในความสนใจของผู้คน แต่อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายด้วยคริปโตฯ ก็ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับ ‘ภาษีคริปโตฯ’ ที่กำลังถูกพูดถึงกัน อย่างมากในขณะนี้ ว่าแท้จริงแล้วจะมีการคำนวณอย่างไร ลูกค้าอาจเป็นฝ่ายที่ต้องเสียภาษีหรือไม่ ต้องติดตามแนวทาง ‘ที่ชัดเจน‘ของกรมกรมสรรพากร และหน่วยงานกำกับฯ ที่เกี่ยวข้องต่อไป.หมายเหตุ : การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูง นักลงทุนควรศึกษาและตัดสินใจลงทุนอย่างรอบคอบ
ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา