คาดดอกเบี้ยแตะ1-1.25%
ชี้อย่าสร้างหนี้ภาระเพิ่มแน่
รายงานข่าวจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 10 ส.ค. นี้ คาดว่ากนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 0.75% จาก 0.5% ในปัจจุบัน หลังจากเศรษฐกิจไทยยังเจอแรงกดดันเงินเฟ้อที่สูง แม้เงินเฟ้อทั่วไปเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาลดจากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 7.61% และราคาน้ำมันโลกเริ่มทรงตัว โดยคาดว่ากนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องจนสิ้นปีนี้ โดยดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 1-1.25% ซึ่งต้องติดตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจและเงินเฟ้อช่วงต่อไปว่าเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด
อย่างไรก็ตาม ในระยะข้างหน้าเศรษฐกิจไทยยังเจอปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจสหรัฐ และจีน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยวของไทยได้ ส่วนสหรัฐเจอความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย อาจส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยและการจ้างงาน และเงินเฟ้อสหรัฐ ที่มีแนวโน้มที่จะย่อตัวลงในระยะข้างหน้า ส่งผลให้เฟดอาจหยุดการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า ในขณะที่ดอกเบี้ยนโยบายของ ไทยยังอยู่ในระดับต่ำอยู่ และยังมีส่วนต่างกับดอกเบี้ยเฟดอยู่มาก ดังนั้น ทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของไทยในปีหน้ายังคงขึ้นอยู่กับทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และเสถียรภาพภายนอกประเทศ ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้น
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า สัปดาห์นี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเศรษฐกิจไทย ยุคดอกเบี้ยต่ำเตี้ยติดดิน ที่เกิดขึ้นมาหลายปี ก็จะจบยุค เป็นจุดเริ่มต้นของการปรับขึ้นดอกเบี้ยกลับไปสู่ปกติที่ผู้ฝากเงิน โดยเฉพาะผู้เกษียณอายุ กินดอกเบี้ยจะเริ่มยิ้มได้ ส่วนผู้กู้ยืมต้องเริ่มบริหารต้นทุนด้านการเงิน ต้องระมัดระวังในการสร้างหนี้ เพราะหนทางข้างหน้าจะท้าทายขึ้น ภาระหนี้ของทุกคนจะเริ่มเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้คงต้องรอว่า กนง.จะตัดสินใจอย่างไรในเรื่องดอกเบี้ยไทยจะขึ้นที่เท่าไร โดยต้องติดตามแนวโน้มของเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ต้องแข่งกันปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วง 6 เดือนแรก ก็เพราะเงินเฟ้อ สำหรับไทยในช่วงต่อไป ก็เช่นกัน ภาระดอกเบี้ยของทุกคนจะเพิ่มแค่ไหน ขึ้นกับว่า เงินเฟ้อสูงแค่ไหน ซึ่งต้องถือว่าเป็นข่าวดีที่ไทยกำลังจะปรับขึ้นดอกเบี้ย ในช่วงเงินเฟ้อกำลังแผ่วลงบ้าง
“การที่เงินเฟ้อทั่วไปของไทยปรับตัวดีขึ้น ไม่พุ่งทะยาน ลดลงเล็กน้อย และมีแนวโน้มลดลงในช่วงต่อไป จะช่วยให้การขึ้นดอกเบี้ยของแบงก์ชาติสามารถทำแบบค่อยเป็นค่อยไปได้ สามารถคอยดูสถานการณ์ ไม่ต้องเร่งร้อน ถูกกดดันเหมือนกับเฟด หรือธนาคารกลางประเทศอื่น ๆ”
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
