คอนโดกรุงเทพฯพีคสุดสะพัดแสนล้าน
‘กรุงธนบุรี-กัลปพฤกษ์’ แชมป์ทำเลฮิต
แค่3เดือนเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่ม331%
ตลาดคอนโดมิเนียมกรุงเทพฯเปิดตัวคึกคัก ไตรมาส 2 ผุด 16 โครงการ เพิ่มขึ้น 331% ทำเลนอกเมืองแนวรถไฟฟ้าราคาไม่เกิน 1 แสนบาท/ตร.ม. ยอดฮิต คาดทั้งปี’65 มูลค่ากลับมาแตะ 1 แสนล้านบาทอีกครั้งในรอบ 2 ปี
นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ไตรมาส 2/2565 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง มีการเปิดขายใหม่ 16 โครงการ รวม 10,668 ยูนิต มูลค่ากว่า 30,026 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 8,197 ยูนิต หรือเพิ่ม 331.7% ส่วนใหญ่เป็นผู้พัฒนารายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ รวม 6,053 ยูนิต หรือสัดส่วน 56.7% มูลค่า 16,866 ล้านบาท และนอกตลาดหลักทรัพย์ 4,615 ยูนิต หรือเพิ่ม 43.3% มูลค่า 13,160 ล้านบาท
นายภัทรชัยกล่าวว่า โครงการเปิดขายตั้งในพื้นที่นอกเมืองด้านทิศตะวันตกกรุงธนบุรี-กัลปพฤกษ์ มากสุด 3,098 หน่วย คิดเป็น 29% ตามด้วยพื้นที่ย่านรัชดาภิเษกและพหลโยธิน 2,481 หน่วย คิดเป็น 23.3% ส่วนพื้นที่เมืองชั้นในสาทร สีลม สุขุมวิทตอนต้น มีเพียง 1 โครงการคือ 125 สาทร ด้านราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 87,720 บาท/ตารางเมตร (ตร.ม.) เพิ่มขึ้น 12.9%
จากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากโครงการที่เปิดขายประมาณ 40.7% อยู่ในกรุงเทพฯชั้นนอก และมากกว่า 41.6% หรือ 5,866 หน่วย เป็นคอนโดมิเนียมราคาต่ำกว่า 50,000 บาท/ตร.ม. และพบว่าผู้พัฒนาส่วนใหญ่เลือกเปิดตัวบนทำเลที่ค่อนข้างมั่นใจในกำลังซื้อและคู่แข่งน้อย เช่น ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายใหม่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง สถานศึกษา แหล่งงาน และพยายามหาจุดขายใหม่ หรือบริการอื่นเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาโครงการ เช่น การบริการทางการแพทย์
“คอนโดที่เปิดขายในพื้นที่กรุงเทพฯ ราคาขายเฉลี่ยต่ำกว่า 50,000 บาท/ตร.ม. ในพื้นที่บริเวณสุขุมวิท บางนา และพื้นที่นอกเมืองด้านทิศตะวันตก กรุงธนบุรี-กัลปพฤกษ์ ได้รับความสนใจจากกลุ่ม ผู้ซื้อทั้งในประเทศและต่างชาติ ทำให้ปีนี้มีผู้พัฒนา รายใหญ่บางรายปรับตัวพัฒนาโครงการเจาะตลาดระดับกลาง-ล่าง เฉลี่ยต่ำกว่า 100,000 บาท/ตร.ม. ในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นนอก และพื้นที่รอบใจกลางเมือง เพื่อดึงดูดกำลังซื้อลูกค้าเรียลดีมานด์ และนักลงทุนที่ซื้อปล่อยเช่าในราคาที่เข้าถึงง่าย ในภาวะที่กำลังซื้อยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ” นายภัทรชัยกล่าว
นายภัทรชัยกล่าวว่า ขณะนี้กำลังซื้อต่างชาติคงเป็นกลุ่มเป้าหมายของผู้พัฒนารายใหญ่ และตั้งในพื้นที่สุขุมวิท พระราม 9 และรัชดาภิเษก ซึ่งเป็นพื้นที่ศูนย์กลางเขตธุรกิจ แม้ว่าหลายรายสามารถขายโครงการในแนวรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างให้กับชาวต่างชาติ ส่วนใหญ่ขายผ่านเอเยนต์และแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยเฉพาะชาวจีนที่ยังไม่สามารถเดินทางเข้าไทยได้ปกติ ตลาดที่คาดกลับมาคึกคักอีกครั้งครึ่งหลังปีนี้คือยุโรป และเอเชียบางประเทศ หลังช่วงครึ่งแรก 2565 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยแล้วกว่า 2 ล้านคน สร้างรายได้ท่องเที่ยวกว่า 1 แสนล้านบาท
“ครึ่งหลังปี 2565 คาดว่าจะมีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในพื้นที่ กทม.กว่า 16,000 ยูนิต มูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท ส่งผลให้ปี 2565 อาจมีจำนวนยูนิตเปิดขายใหม่สูงกว่า 40,000 ยูนิต มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่กระจายตัวอยู่ในพื้นที่รอบใจกลางเมืองและกรุงเทพฯชั้นนอก ระดับราคา 50,000-100,000 บาท/ตร.ม. และราคาเฉลี่ยต่อยูนิต 1.2-1.4 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง สายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี และสายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค หรือในทำเลรอบใจกลางเมือง จึงมองว่าตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯปีนี้จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง” นายภัทรชัยกล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน