แสนสิริ ผนึกแบงก์ใหญ่สกรีนกู้ซื้อคอนโดฯ จัด เครดิตเดย์'แต่งตัวลูกค้าป้องกันรีเจกต์เรต
“แสนสิริ” ผนึกแบงก์ใหญ่ สกรีนฐานะลูกค้าซื้อคอนโดฯ เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยง กู้ไม่ผ่าน กับโปรแกรม เครดิตเดย์ ส่งผล ยอดรีเจกต์เรตปรับสูงขึ้นไม่มากระดับ 15% ลั่นปีนี้ พรีเซลคอนโดฯ ทะลุ 16,000 ล้านบาท พร้อมเปิดตัว ดีคอนโด ไฮด์เวย์ ตอบโจทย์เรียลดีมานด์ ใกล้มหา’ลัย
นายปิติ จารุกำจร รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการแนวสูงและบริหารกลยุทธ์โครงการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแนวทางการลงทุนของ บริษัทฯว่า ปัจจุบันแสนสิริ ยังมีที่ดินรอการพัฒนาอีกหลายแปลง ซึ่งแต่ละแปลงมีการศึกษาไว้เพื่อเตรียมพร้อมพัฒนาโครงการหากสถานการณ์และภาพรวมของตลาดและความต้องการซื้อปรับตัวดีขึ้น
สำหรับสถานการณ์เรื่องการบริหารสินเชื่อให้กับลูกค้าในการขอสินเชื่อกับธนาคารพาณิชย์นั้น ทางแสนสิริ ได้มีการทำหลายๆ อย่างร่วมกัน โดยเฉพาะในกลุ่มของคอนโดมิเนียม เรามีการให้คำปรึกษาและแต่งตัวให้กับลูกค้า ซึ่งเราทำมาหลายปี แต่รอบที่จะเห็นชัดเจน จะเป็นปีที่ผ่านมาและปีนี้ ที่แสนสิริจับมือพันธมิตร 4 ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์, กรุงเทพ, กรุงไทย และกสิกรไทย จัดงาน เครดิตเดย์ โดยมีฝ่ายสินเชื่อและลูกค้ามาพบ เพื่อรับข้อเสนอพิเศษ แนะนำเรื่องความสามารถในการซื้อโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นวิธีการบริหารลูกค้าล่วงหน้า 4-5 เดือน
“ภาพรวมของเรา ตัวเลขปฎิเสธสินเชื่อยังอยู่ในระดับต่ำ เพียงแต่มีการปรับขึ้นบ้าง จากระดับ 10 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มเป็น 15 เปอร์เซ็นต์ โดยการจัดงาน เครดิตเดย์ จะเป็นวิธีในการช่วยลดความเสี่ยงและการเพิ่มขึ้นของรีเจกต์เรตจากสถาบันการเงิน” นายปิติ กล่าว
ในด้านภาพรวมของยอดขายคอนโดมิเนียมช่วง 7 เดือนแรก สามารถทำได้ 11,000 ล้านบาท จากเป้า 16,000 ล้านบาท ซึ่งแนวโน้มแล้ว ตัวเลขยอดขายคอนโดมิเนียมอาจเกิดเป้าหมายที่วางไว้ ขณะที่ยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่จะมีผลต่อรายได้คาดว่าทั้งปีจะทำได้ตามเป้า 42,000 ล้านบาท โดยในส่วนขอ งการเปิดโคร งการคอนโดมิเนียมในครึ่งปีหลัง ในเบื้องต้นเปิด 2 โครงการ ได้แก่ โครงการดีคอนโด ไฮด์เวย์ (โครงการที่ 4 ของแบรนด์ดีคอนโด) และโครงการ เดอะ เบส อีส-บางแค ส่วนโครงการที่รามคำแหง ยังไม่มีอยู่ในแผนที่จะเปิดโครงการปีนี้
สำหรับโครงการดีคอนโด ไฮด์เวย์ มีมูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท อยู่ใกล้ โซนรังสิต ใกล้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โครงการอยู่บนเนื้อที่ 10 ไร่ จำนวน 3 อาคาร 800 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท ซึ่งในรอบ VVP มียอดพรีเซลไปแล้ว 190 ยูนิต (คิดเป็น 24% ของยูนิตรวม) มูลค่าการขาย 320 ล้านบาท โดยวางเป้าสิ้นปีจะมียอดขายให้ได้ 50%
“ภาพรวมคอนโดมิเนียมในโซนรังสิต สินค้าคงค้างมีประมาณ 15,000 หน่วย และเราคิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหา เนื่องจากเรามีการดูเรื่อง แพกเกจราคา แบรนด์ของ แสนสิริ เป็นที่ยอมรับของลูกค้า ซึ่งราคา 1.59 ล้านบาท เป็นราคาที่เหมาะสมในภาวะปัจจุบัน” นายปิติ กล่าว
ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา