เผยเทรนด์ สุขภาพ-รักษ์โลก มาแรง ดีดีฯชี้หนุนดีมานด์ที่อยู่อาศัยแบบยั่งยืน

25 ส.ค. 2564 321 0

         ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เผยผลสำรวจความต้องการที่อยู่อาศัยผู้บริโภคยุคใหม่ ระบุเทรนด์ “สุขภาพรักษ์โลก” มาแรงหนุนดีมานด์บ้านคอนโดประหยัดพลังงาน ชี้ผู้บริโภคกว่า 9 ใน 10 หรือกว่า 93% ให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยแบบยั่งยืน ที่ช่วยผสมผสานไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเข้ากับบ้านที่เป็นสถานที่พักผ่อนได้อย่างลงตัว พร้อมนวัตกรรมในการดูแลสุขภาพ

          นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทยของดีดีพร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า “วิกฤตการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการปรับพฤติกรรมการเดินทาง การกิน การอยู่ การใช้จ่าย การทำงาน การเรียน หรือการพบแพทย์ ถือเป็นช่วงเวลาที่ท้าทาย ทำให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพไปพร้อมๆ กับเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ส่งสัญญาณชัดขึ้นจากสถานการณ์ภัยพิบัติทั่วโลก

          การพัฒนาอย่างยั่งยืนกลายเป็นคำตอบในการใช้ชีวิตของผู้บริโภคยุคนี้ ทุกคนหันมาตระหนักถึงผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทำให้แนวคิดเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) เข้ามามีอิทธิพลในการดำเนินชีวิต และชัดเจนขึ้นจากการปรับตัวของภาคธุรกิจต่าง ๆ เพื่อรับเทรนด์นี้ จากผลสำรวจ Global Consumer Insights Pulse Survey ของ PwC เผยว่า 76% ของผู้บริโภคชาวไทยต้องการซื้อสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือใช้บรรจุภัณฑ์น้อยที่สุด ขณะที่ 78% เลือกซื้อเฉพาะผลิตภัณฑ์จากบริษัทที่มีจิตสำนึกและสนับสนุนการปกป้องสิ่งแวดล้อมเท่านั้น เห็นได้ชัดถึงแนวโน้มการเติบโตของแนวคิดรักษ์โลกที่มีอิทธิพลชัดเจนยิ่งขึ้นในทุกธุรกิจ

          ขณะที่ความต้องการที่อยู่อาศัยก็มีทิศทางการเติบโตในเทรนด์นี้ เช่นกัน โดยผลสำรวจ DDproperty’s Thailand Consumer Sentiment Study พบว่าผู้บริโภคกว่า 9 ใน 10 คิดเป็น 93% ให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยแบบยั่งยืน ที่จะช่วยผสมผสานไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเข้ากับบ้านที่เป็นสถานที่พักผ่อนได้อย่างลงตัว ที่อยู่อาศัยในอุดมคติจึงต้องมาพร้อมกับการออกแบบภายใต้แนวคิดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างความยั่งยืนในการอยู่อาศัยในระยะยาว ผู้พัฒนาอสังหาฯ จึงต้องหันมาให้ความสำคัญกับการออกแบบฟังก์ชันที่อยู่อาศัยทั้งในส่วนพื้นที่พักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลางภายใต้แนวคิดการใช้ชีวิตที่ยั่งยืนและรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และสร้างจุดต่างในการดึงดูดผู้บริโภคมากกว่าการแข่งขันสงครามราคาที่อาจจะดูฉาบฉวยในสายตาผู้ซื้อตอนนี้

          นอกจากนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อตลาดที่อยู่อาศัย โดยพบว่า เทรนด์ที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคในยุค Next Normal เพื่อยกระดับการใช้ชีวิตอย่างราบรื่นและยั่งยืนในระยะยาว ประกอบด้วย

          1. เทรนด์รักษ์โลกส่งเสริมการใช้ชีวิตประหยัดพลังงาน การ Work from Home ทำให้บ้านกลายมาเป็นสถานที่ทำงาน/เรียนออนไลน์ รวมถึงออกกำลังกายดูแลสุขภาพ กิจกรรมเหล่านี้ทำให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้บริโภคหันมาเลือกที่อยู่อาศัยที่มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานภายใต้แนวคิด ช่วยประหยัดพลังงาน โดยกว่า 62% ต้องการบ้าน/คอนโดฯ ที่มีระบบหลังคาโซลาร์เซลล์ เพื่อสร้างพลังงานทางเลือกทดแทนการใช้ไฟฟ้า และยังให้ความสำคัญกับบ้าน/ คอนโดฯ ที่มีระบบระบายความร้อน 58% และฟังก์ชันดูดซับมลพิษภายในบ้าน 48% เพื่อช่วยให้การใช้ชีวิตภายในบ้านมีความสะดวกสบายและมั่นใจยิ่งขึ้น เมื่อต้องรับมือปัญหาภาวะโลกร้อนที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศอยู่เรื่อยๆ

          2. ต้องการที่อยู่อาศัยที่มี นวัตกรรมในการดูแลสุขภาพ ซึ่งเป็น การเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมที่ชัดเจนที่สุดหลังเผชิญวิกฤตการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งทำให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรรมมาช่วยยกระดับการดูแลสุขภาพให้ง่ายขึ้นแม้ในช่วงที่ยังต้องเว้นระยะห่างทางสังคม ผ่านบริการดูแลสุขภาพแบบออนไลน์ รวมไปถึงการแพทย์ทางไกล 3. ต้องการพื้นที่ใช้สอยที่รองรับ Work from Home ระยะยาว โดยเน้นที่สภาพแวดล้อมที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก 65% ตามมาด้วยการมีระบบถ่ายเทความร้อนและประหยัดพลังงานภายในห้อง 49% และมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงรองรับการทำงานที่ลื่นไหล 48% ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ไม่ได้จำกัดเพียงการทำงานที่บ้านเท่านั้น แต่ยังอำนวยความสะดวกให้คนในครอบครัวสามารถใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์ได้อย่างราบรื่นอีกด้วย

ที่มา:

คลิกเครื่องหมาย เพื่อเพิ่มลงตะกร้าเก็บทรัพย์ที่สนใจ หรือกดอีกครั้งเพื่อลบออก
คลิกเพื่อเลือก บ้านที่ต้องการแล้วกดปุ่ม "เปรียบเทียบ" ได้เลย