เดินรถไฟสีเขียวอีก4สถานี ปลายปี63เชื่อม3จังหวัด53กม.
กทม.ประกาศดีเดย์ 3 มิ.ย.นี้ เป็นต้นไป รถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียว จะเปิดให้บริการส่วนต่อขยายเพิ่มอีก 4 สถานี จากหมอชิตถึงวัดพระศรีมหาธาตุ ส่วนปลายปี 63 จะเปิดให้บริการไปจนถึงคูคต เชื่อมการ เดินทาง 3 จังหวัด 53 กม. จากปทุมธานีผ่านกรุงเทพฯ ไปสมุทรปราการด้วยเวลาเพียง 1.30 ชม.
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย.2563 เป็นต้นไป รถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียวจะเปิดให้บริการส่วนต่อขยายจากสถานีหมอชิตถึงสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ โดยการเปิดให้บริการ เพิ่มนี้ จะขยายเส้นทางจากเดิมออกไปอีก 4 สถานี ได้แก่ สถานีกรมป่าไม้ สถานีบางบัว สถานีกรมทหารราบที่ 11 และสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ รวมระยะทาง 4.3 กม. เพื่อเพิ่มโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนให้เชื่อมโยงทั่วกรุงเทพฯ และรองรับการเดินทางจากชานเมืองและปริมณฑลเข้าสู่ใจกลางเมือง
“กทม. ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงข่ายระบบการคมนาคมขนส่ง เพื่อบรรเทาปัญหาด้านการจราจรและอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่พี่น้องประชาชน จึงได้เร่งรัดการดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ ให้สามารถทยอยเปิดให้บริการในเส้นทางที่มีความพร้อมก่อน ซึ่งรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่เปิดให้บริการเพิ่มเติมนี้ เป็นที่ตั้งของสถานศึกษา สถานที่ราชการ และชุมชนขนาดใหญ่ อีกทั้งในพื้นที่ยังมีถนนสายหลักที่เป็นเส้นทางเข้าเมืองหลายเส้นทาง ดังนั้น การเร่งเปิดให้บริการระบบขนส่งมวลชนที่มีความพร้อมจะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ได้เป็นอย่างดี”
นอกจากนี้ สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ยังเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนของพื้นที่กรุงเทพฯ ด้านเหนือในอนาคต โดยเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู แครายมีนบุรี ซึ่งเป็นระบบขนส่งมวลชนสายรองที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งรองรับการเดินทางของประชาชนในแนวตะวันออก-ตะวันตกจากย่านแคราย ปากเกร็ด และทางด้านคันนายาว มีนบุรี หนองจอก ให้สามารถเดินทางเข้าสู่ระบบหลักได้อย่างสะดวกรวดเร็วด้วย
พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว จะขยายเส้นทางเปิดให้บริการไปจนถึงสถานีปลายทางที่คูคตตามแผน ที่กำหนดไว้ เพื่อให้การเดินทางระหว่าง 3 จังหวัด จากปทุมธานี ผ่านกรุงเทพฯ ไปยังสมุทรปราการ เชื่อมต่อกันอย่างไร้รอยต่อ ตลอดระยะทาง 53 กม. ด้วยเวลาเพียง 1 ชั่วโมง 30 นาทีเท่านั้น
“แม้ว่าปัจจุบัน จะอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเมือง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน ยังคงต้องเดินหน้าต่อไป เพื่อที่เมื่อวันที่วิกฤตนี้ผ่านพ้นไปแล้ว กรุงเทพฯ จะพร้อมสำหรับการฟื้นฟูและก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างไม่สะดุด แล้วเราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน ในวันที่กรุงเทพฯ กลับมาเป็นเมืองแห่งรอยยิ้ม และมหานครที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งเอเชียเช่นเดิมครับ” พล.ต.อ.อัศวินกล่าว
ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา