เซ็นทรัลทุ่ม1.4หมื่นล. สยายปีกเมืองรอง นครสวรรค์-นครปฐม
ปั้นฮับเชื่อมศูนย์-โลจิสติกส์
การประกาศยุทธศาสตร์ก้าวสู่ Retail-Led Mixed-Use Development ของ “เซ็นทรัลพัฒนา"โดยทุ่มงบกว่า 1.2 แสนล้านบาทในการลงทุนสร้าง Sustainable Ecosystem สยายปีกครอบคลุมกว่า 30 จังหวัดทั่วประเทศตามแผนธุรกิจ 5 ปี ทั้งเซ็นทรัล อยุธยา, ศรีราชา, จันทบุรี ฯลฯ ล่าสุด เซ็นทรัลพัฒนา ต่อยอดแผนดังกล่าว ด้วยการเดินหน้าบุกหัวเมืองรองทุ่มงบอีกกว่า 1.4 หมื่นล้านบาทลงทุน 2 โครงการมิกซ์ยูสใหม่ “เซ็นทรัล นครสวรรค์” และ “เซ็นทรัล นครปฐม”
นายชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล Chief Development and Commercial Officer บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเดินหน้าลงทุนของเซ็นทรัลพัฒนา จะมุ่งเน้นที่จุดแข็งของบริษัทคือ การเล็งเห็นศักยภาพและเจาะเมืองเศรษฐกิจใหม่ได้อย่างแม่นยำ ล่าสุดบริษัทจึงมุ่งการลงทุนไปที่ 2 เมืองที่ศักยภาพและเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจในย่านนั้นๆ ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์และนครปฐม พร้อมพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูสแห่งใหม่ภายใต้ชื่อ “เซ็นทรัล นครสวรรค์” และ “เซ็นทรัล นครปฐม"โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างเมืองใหม่
เจาะกลุ่มรายได้สูงมีไลฟ์สไตล์แบบคนเมือง และขยายโอกาสธุรกิจเพื่อคู่ค้า
โดยการลงทุน 2 โปรเจ็กต์มิกซ์ยูสแห่งใหม่นี้จะใช้เงินลงทุนกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น 1. โครงการเซ็นทรัล นครสวรรค์ บนที่ดิน 42 ไร่ มีมูลค่าโครงการ 5,800 ล้านบาท ภายใต้แนวคิด The Elevating Gateway to the North ปั้นเมืองเศรษฐกิจแห่งใหม่ ตอบโจทย์ Multi-Generation Community ประกอบด้วยศูนย์การค้า GFA 76,000 ตร.ม. เปิดให้บริการช่วงไตรมาส 1 ปี 2567 นอกจากนี้ยังมีโรงแรม 175 ห้อง, คอนโดมิเนียม 400 ยูนิต และ Urban Park ขนาดใหญ่ 2 ไร่ นอกจากนี้ ยังมี Neighbouring Component อย่างโรงพยาบาลชั้นนำที่เชื่อมโยงอยู่บน Master Plan ของโครงการ
“จังหวัดนครสวรรค์ถือเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งภาคเหนือตอนล่าง เป็นประตูสู่ภาคเหนือ ตั้งอยู่บนแนวพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจแนวเหนือ-ใต้ (North-South Economic Corridors : NSEC) มีแผนเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐ เช่น รถไฟความเร็วสูงสายเหนือ, รถไฟทางคู่สายนครสวรรค์-แม่สอด และส่วนต่อขยายของทางรถไฟสายเหนือ ซึ่งการลงทุนที่นี่จะกลายเป็น Logistic Hub และเป็นจุดศูนย์กลางเชื่อมโยงโครงการของเซ็นทรัลพัฒนาในภาคกลางและภาคเหนือได้ด้วย จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ให้กับคู่ค้าผู้เช่า ในการขยายโอกาสทางธุรกิจ”
2. โครงการเซ็นทรัล นครปฐม บนที่ดินเกือบ 100 ไร่ มีมูลค่าโครงการ 8,200 ล้านบาท ภายใต้แนวคิด The Emerging Eco City สร้างเมืองใหม่ ศูนย์กลางการใช้ชีวิตขนาดใหญ่ Sustainability Mixed-Use Development เมืองคนรุ่นใหม่ ใส่ใจความยั่งยืนและพื้นที่ Co-Creation ประกอบด้วยศูนย์การค้า GFA 69,000 ตร.ม. เปิดให้บริการช่วงไตรมาส 2 ปี 2567 นอกจากนี้ยังมีโรงแรมขนาด 200 ห้อง, คอนโดมิเนียม 3 อาคารรวม 1,097 ยูนิต, หมู่บ้านจัดสรร 192 ยูนิต และ Urban Park ขนาดใหญ่ 4 ไร่
“เซ็นทรัล นครปฐม จะเป็น Center of Satellite City เมืองใหม่ ที่จะมาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต ด้วยทำเลที่ตั้งของจังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็น Strategic Move ในการขยายไปภาคตะวันตกโดยมีนครปฐมเป็น ประตูเชื่อมไปยังจังหวัดใกล้เคียงคือราชบุรี และกาญจนบุรี รายล้อมไปด้วยมหาวิทยาลัยและสถานที่สำคัญ สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้โดยไม่ต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เดินทางสะดวกด้วยมอเตอร์เวย์ บางใหญ่-กาญจนบุรี และมอเตอร์เวย์ ชลบุรี-สระบุรี-นครปฐม
นครปฐมถือเป็นเมืองที่มีกลุ่มเป้าหมายชัด เมืองคนรุ่นใหม่ และมีรายได้สูง ติดอันดับ 10 จังหวัดที่มี GPP (ผลิตภัณฑ์จังหวัดต่อหัว) สูงกว่า 3.75 แสนบาท มีความเติบโตทางเศรษฐกิจ รายได้ครัวเรือน 3.4 หมื่นบาทต่อเดือนและมีอัตราการเติบโตสูง 5% มีตัวเลขนักท่องเที่ยวกว่า 4 ล้านคนต่อปี แบ่งเป็นคนไทย 97%, ต่างชาติ 3%”
นายชนวัฒน์ กล่าวอีกว่า เซ็นทรัลพัฒนา มุ่งยกระดับโครงการมิกซ์ยูสโมเดลใหม่ ด้วยการเดินหน้า The Upscaling of Retail-Led Mixed-Use Development ทั้งในส่วนของการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ การเชื่อมโยงกับชุมชน และการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ชัดเจนมากขึ้น ผ่านแนวทางใหม่ ทั้งการผสมผสาน Sustainability ที่จะเป็นมาตรฐานของการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ต่อจากนี้ และการสร้าง Master Plan ที่เชื่อมโยงไปสู่ Neighbouring Component ใกล้เคียง แลนด์มาร์คสำคัญในเมืองและชุมชนโดยรอบ
ทั้งนี้ทุกครั้งที่ขยายโครงการใหม่ ได้เล็งเห็นถึงกำลังซื้อและไลฟ์สไตล์ โดยใช้ Data-Driven Customer Insight ทั้งข้อมูลจาก The 1 และการลงทุนต่างๆ ของภาครัฐและเอกชน ทำให้สร้างสรรค์โครงการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้ในเชิงลึก และช่วยให้พันธมิตรคู่ค้า Offer Merchandise-Mix ได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ขยายโอกาสสร้างความเติบโตทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังมีซินเนอร์ยีกลุ่มเซ็นทรัลเองก็มีการพัฒนาคอนเซ็ปต์ใหม่ๆ ให้สอดคล้องไปกับโครงการด้วย
ดังนั้นทั้ง 2 มิกซ์ยูสใหม่จะมีร้านค้าแบรนด์ชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ ทั้งห้างเซ็นทรัล ซูเปอร์สปอร์ต เพาเวอร์บาย ท็อปส์ บีทูเอสออฟฟิตเมท ฯลฯ รวมทั้งโซน Food Destination, Chinese Market, Authentic Cafe, Pathom Samosorn, Pathom Club : Sport Fashion Destination เป็นต้น
ที่มา: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ