อสังหาโค้งท้ายกำไรเด้ง AP-SPALI-LH-ORI ติดโผ
จับตาหุ้นอสังหากาไรไตรมาส 4/2564 โต 41.5% QoQ, และ 6% YoY หนุนจากยอดโอนกรรมสิทธิ์โครงการ แนวราบ พร้อมฟันธงปี 2565 อสังหา เป็นทั้ง “หุ้นเติบโตเร็ว” (Growth Stock) และหุ้น “คุณค่า” (Dividend Play) ชู AP, SPALI และ LH เป็นดาวเด่น
นายสรพงษ์ จักรธีรังกูร ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์ คาดการณ์ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/2564 ของ 11 บริษัทอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มทำสถิติสูงสุดของปี 2564 โดยการสำรวจพบว่าผู้ประกอบการทั้ง 11 บริษัทสามารถโอนโครงการให้กับลูกค้าได้ในระดับที่ดี เบื้องต้นคาดกำไรสุทธิรวมทั้ง 11 บริษัทงวดไตรมาส 4/2564 ที่ประมาณ 9,402.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.5% เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 3/2564 ที่มีกำไร 6,646 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 4/2563 ที่ 8,870 ล้านบาท
และคาดว่าบริษัทที่สามารถทำกำไรได้ดีจะยังคงเป็น AP, LH, SPALI, ORI และ SC หนุนจากยอดโอนกรรมสิทธิ์โครงการแนวราบ เบื้องต้นคาดยอดขายรวมทั้ง 11 บริษัทประมาณ 226,0000 ล้านบาท สูงกว่ายอดเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งปี 2564 ที่ 148,000 ล้านบาท หนุนจากความสามารถในการขายโครงการเดิมที่สร้างเสร็จแล้ว (ระบายสต๊อกโครงการ)
กำไรดีต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้คาดการณ์กำไรสุทธิกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ทั้งปี 2565 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นประมาณ 10-20% YoY หนุนจาก 1.ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่อนเกณฑ์การกำกับดูแล สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อ อื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือมาตรการ LTV 2.ประชาชนในประเทศเริ่มกลับเข้าสู่ระบบการจ้างงาน หนุนศักยภาพการขอสินเชื่อ 3.อัตราดอกเบี้ย ในประเทศทรงตัวในระดับต่ำ
“ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ใน ปี 2565 ประเมินว่าผู้ประกอบการจะเร่งเปิดตัวโครงการใหม่รวมมูลค่าหลายแสนล้านบาท โดยยังคงเน้นพัฒนาโครงการแนวราบ ซึ่งยังมีความต้องการสูงต่อเนื่องในระยะ 3 ปี (2565-2567) ควบคู่การเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม เฉพาะทำเลศักยภาพ เพื่อเตรียมไว้เพิ่มยอดขาย-ยอดโอนกรรมสิทธิ์โครงการในอนาคต เบื้องต้นประเมินว่าปริมาณโครงการคอนโดมิเนียมในปัจจุบันยังมีปริมาณมาก ดังนั้นจึงยังต้องใช้เวลาในการระบายโครงการเดิมก่อน “
อย่างไรก็ตาม วิวัฒนาการของวัคซีนและยารักษาโควิด-19 จะสร้างความมั่นใจให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตกันอย่างปกติ จะเป็นปัจจัยหนุนให้ความต้องการโครงการคอนโดมิเนียมในประเทศทยอยฟื้นตัวกลับมาโดยลดการพึ่งพาแรงซื้อจากต่างประเทศลงได้อย่างมีนัยสำคัญในอนาคต
ชู AP-SPALI-LH
เชื่อว่าหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ยังเป็นกลุ่มที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลในระดับที่สูงเฉลี่ย 6% (3.5-8.2%) ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบัน จึงถือเป็นหุ้นที่น่าลงทุนทั้งนักลงทุนที่ต้องการลงทุนใน “หุ้นเติบโตเร็ว” (Growth Stock) และหุ้น “คุณค่า” (Dividend Play) โดยเลือก AP, SPALI และ LH เป็นหุ้นเด่น
ทั้งนี้ SPALI มีฐานที่แข็งแกร่งทั้งโครงการแนวราบ และคอนโดมิเนียม อีกทั้งเป็นผู้ประกอบการที่สามารถขยายฐานออกต่างจังหวัดได้อย่างแข็งแกร่ง ราคาเหมาะสมปี 2565 ที่ 24.60 บาท คาดอัตราการจ่ายเงินปันผลปี 2564 ที่ 5% และปี 2565 ที่ 5.1% ขณะที่ AP จะยังคงช่วงชิงตลาดแนวราบบนทำเล ศักยภาพจากผู้ประกอบการรายอื่นได้อย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งยังมีแผนการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม มาช่วยหนุนยอดขายอีกด้วย ราคาเหมาะสม 10.70 บาท
สำหรับ LH คาดว่าจะเป็นหุ้นที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งทั้งรายได้รวม และกำไรสุทธิ เนื่องจากธุรกิจทั้งโรงแรม, ศูนย์การค้า, อสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า, การพัฒนาอสังหาเพื่อขาย, และการ กลับมาขายสินทรัพย์เข้ากองรีทส์ กลับมา ทำรายได้อย่างแข็งแกร่งในปี 2565 ราคาเหมาะสมปี 2565 ที่ 10.40 บาท คาดอัตราการจ่ายเงินปันผลปี 2564 ที่ 5.6% และปี 2565 ที่ 6.8%
ที่มา: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น