สนข.เร่งศึกษาโลจิสติกส์ อีอีซี-ระนอง
รายงานข่าวจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า สนข.ได้สัมมนาโครงการศึกษาการจัดทำ แผนโลจิสติกส์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การขนส่งสินค้าเชื่อมโยงฐานการผลิต ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กับ ประตูการค้าในพื้นที่ภาคใต้ จ.ระนอง โดยเริ่ม ศึกษาความต้องการของประชาชนใน ภาคตะวันออกเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2563
ทั้งนี้ สนข.ยืนยันถึงวัตถุประสงค์ของ การจัดทำแผนโลจิสติกส์ดังกล่าว เป้าหมายหลัก เพื่อจัดทำแผนโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ ตอบสนองต่อการลดต้นทุน ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าเชื่อมโยงฐานการผลิตในพื้นที่ EEC กับประตูการค้าในพื้นที่ภาคใต้ รวมทั้งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งในพื้นที่ภาคใต้ที่เชื่อมโยงสองฝั่งทะเล (อ่าวไทย-อันดามัน)
นอกจากนี้ยังเป็นการนำเสนอข้อมูลเพิ่มประสิทธิภาพระบบโครงข่ายการขนส่งสินค้าเชื่อมโยงระหว่าง EEC และประตูการค้าในพื้นที่ภาคใต้ จ.ระนอง ให้สอดคล้องกับความต้องการและสภาพ ข้อเท็จจริง ซึ่งโครงการจัดทำแผนโลจิสติกส์ ที่ สนข. เร่งศึกษาครั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยช่วยยกระดับประเทศ เปลี่ยนผ่าน ประเทศไทยจากประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ เชื่อมโยงขนส่งระหว่างฝั่งทะเลด้านอ่าวไทย และฝั่งทะเลด้านอันดามัน
รวมทั้งแนวคิดพัฒนาเส้นทางการขนส่ง เชื่อมอีอีซี กับประตูการค้าจังหวัดระนอง สนข.กำหนดใช้โครงข่ายคมนาคมหลาย รูปแบบ โดยในช่วงที่ 1 จะพัฒนาเส้นทาง การขนส่งเชื่อมโยงทางทะเลระหว่างท่าเรือใน EEC กับท่าเรือฝั่งอ่าวไทยใน SEC ซึ่งรัฐบาลมีโครงการพัฒนาขีดความสามารถของท่าเรือชุมพร เป็นท่าเรือน้ำลึก รองรับตู้สินค้าขนาดใหญ่
หลังจากนั้นแผนพัฒนาช่วงที่ 2 จะพัฒนา เส้นทางการขนส่งเชื่อมโยงทางบก ระหว่างท่าเรือฝั่งอ่าวไทยกับท่าเรือฝั่งอันดามัน โดยมี โครงข่ายทางถนนและรถไฟเชื่อมต่อเนื่อง ระหว่างท่าเรือทั้งสองฝั่ง ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลมีนโยบายพัฒนาโครงข่ายรถไฟเส้นทางใหม่ เชื่อมต่อท่าเรือชุมพร และท่าเรือระนอง รวมทั้ง ยังมีโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายชุมพร-ระนอง
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ