ลลิลฯ โชว์ยอดขาย Q1แตะ2,000 ลบ. เดินหน้าขยายพอร์ตเปิดบ้านเดี่ยวพรีเมียม
ไชยยันต์ ชาครกุล มั่นใจประเทศไทยแข็งแกร่ง ท่องเที่ยวหนุน แม้ส่งออกจะซวนเซบ้าง ย้ำฐานะการเงินแบงก์มั่นคง เงินสำรองสูงกว่าเกณฑ์ถึง 19-20% ด้าน “ชูรัชฏ์ ชาครกุล” เผยไตรมาสแรกกวาดยอดขายกว่า 2,000 ล้านบาท พร้อม เดินหน้ารุกตลาดบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียม เปิดโครงการใหม่ทำเลวงแหวนฯลำลูกกาคลอง 6
นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงสถานการณ์ที่เป็นปัจจัยมีผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจและต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2566 ว่า ยังมีทิศทางในเชิงบวก โดยเรื่องที่น่ายินดีคือ เรื่องการท่องเที่ยว ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปรับประมาณการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเยือนประเทศไทยเพิ่มสูงถึง 28 ล้านคน เป็น Good View ของประเทศไทย ส่วนเรื่องภาคการส่งออกก็ยังต้องติดตาม เนื่องจากประเทศคู้ค้าที่นำเข้าสินค้าเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัวลง ซึ่งอาจจะมีผลต่อจีพีดีที่ปีนี้จะยังเติบโตได้ประมาณ 3.6 และส่งออกปีนี้จะติดลบประมาณ 5% เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในโลก เรื่องแรงงาน ก็ยังเป็นอะไรที่กลับไม่เต็มที่ ทำให้หน้างานก่อสร้างโครงการมีปัญหา ซึ่งไม่เพียงแต่ธุรกิจอสังหาฯเท่านั้น เรื่องแรงงานกับภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ก็ยังขาดแคลนอยู่
“ประเทศไทยโชคดีที่อยู่ทำเลศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชีย เป็นแหล่งผลิตหลายๆสินค้าที่เป็นต้องการในตลาดโลก ขณะที่ค่ายรถยนต์แบรนด์ดังระดับโลก กำลังมา รวมถึงอุตฯ อื่นกำลังมา ประเทศไทยกำลังมีอนาคต คาดว่าปี 2567 จะค่อยๆดีขึ้น และหากไปมองประเทศอื่นๆ ตอนนี้ธนาคารขนาดใหญ่ ซึ่งในอดีต เชื่อมั่นว่าจะมั่นคงทั้งเรื่องการเมืองและเศรษฐกิจ แต่ตอนนี้ไปแล้ว ท่ามกลางที่ไม่มีข่าวดีรอบโลก สหรัฐฯ และยุโรป ก็เซๆ แต่ไทยแข็งแกร่ง ธนาคารของไทยมีเงินทุนสำรองเกินกว่ามาตรฐานของโลกมาอยู่ระดับร้อยละ 19-20 มั่นคง ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินฝาก เมื่อเทียบกับเมืองนอก“นายไชยยันต์ กล่าว
นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิลฯ กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาสแรกปี 2566 (ม.ค.มี.ค.) ว่า ภาพรวมฟื้นตัวแต่ยังอ่อนแออยู่ เนื่องจากตัวเลขหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับที่สูง ซึ่งจะมีผลต่อการซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่เป็นทรัพย์ชิ้นใหญ่ที่มีระยะยาว ส่วนแนวโน้มในไตรมาส 2 นั้น น่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น ยิ่งในช่วงเดือนเมษายน การท่องเที่ยวใน 8 จังหวัดจะได้รับอานิสงส์ที่ดีขึ้น
สำหรับเป้าหมายการลงทุนในปีนี้ ทางลลิลฯยังเดินหน้าตามแผนเปิด 10-12 โครงการแนวราบ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา โดยในช่วงต้นปี บริษัทฯจะเปิดโครงการ บ้านลลิล The Prestige ในกลุ่มแบรนด์บ้านพรีเมียมระดับราคา 5-8 ล้านบาท ซึ่งเป็นดีไซน์ที่พลิกโฉมการพัฒนาใหม่ในทุกส่วน เพื่อเจาะตลาดกำลังซื้อระดับบนโดยเฉพาะ ทั้งนี้ ได้อัปเกรดวัสดุตกแต่งก่อสร้างให้พรีเมียมยิ่งขึ้นและพัฒนาระบบสาธารณูปโภคส่วนกลาง ให้รองรับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยในปัจจุบัน ที่มุ่งเน้นด้านการอยู่อาศัยร่วมกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยได้พัฒนา 2 โครงการแรกในย่านประชาอุทิศ-สุขสวัสดิ์ และย่านวงแหวนฯลำลูกกา คลอง 6 รวม 446 ยูนิต มูลค่า 2,100 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 โครงการ ได้รับการตอบรับที่ดี
“ยอดขายในช่วงไตรมาสแรกปี 66 ทำได้ราว 2,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นไปตามที่บริษัทคาดหวังไว้ แม้ว่าบริษัทเปิดโครงการใหม่เพียง 2 โครงการ มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท แต่ก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี รวมถึงการนำโครงการไปออกบูทในงาน มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44 ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้สามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมาย”
ล่าสุด ลลิลฯ ได้พัฒนาโครงการบ้าน ลลิล The Prestige ขึ้น บนทำเลที่มีศักยภาพอย่างกรุงเทพฯโซนเหนือ ทำเลวงแหวนฯลำลูกกา-คลอง 6 ที่ถือเป็นบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียม ในรูปแบบ French Colonial Style แบบที่หรูหราในสไตล์ฝรั่งเศล ภายใต้แนวคิด “Beyond Luxury Of Living” บนอาณาจักรส่วนตัว โดยโครงการตั้งอยู่บนเนื้อที่ 46 ไร่ รวม 265 ยูนิต ราคา 4-7 ล้านบาท ซึ่งนอกจากมีแบบบ้านเดี่ยวแล้ว ยังได้ดีไซต์ส่วนของบ้านแฝด รองรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เริ่มต้นการทำงานและต้องการมีบ้านในขนาดพื้นที่ที่เหมาะสม
ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา