คอนโดไทยเจอพิษ'ซีโร่โควิด'
จีนเริ่มหยุดผ่อนบอกเลิกสัญญา
ต่างชาติสบช่องบาทอ่อนกดราคา
พิษซีโร่โควิดกระทบชิ่งอสังหาไทย ‘ลูกค้าจีน’ เริ่มทิ้งดาวน์-เลิกสัญญา ด้าน ‘บาทอ่อน’ ซ้ำเติม กระตุ้นต่างชาติกดราคาซื้อโรงแรม-ช้อปคอนโด ด้าน ‘ออริจิ้น’ ทุ่ม 3 พันล้าน เร่งปิดดีลพัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ รองรับภาคท่องเที่ยวฟื้น
นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกรณีจีนเริ่มปฏิเสธจะจ่ายค่าผ่อนบ้าน ว่า อาจส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทย และแรงจูงใจมาซื้อน้อยลง เมื่อเทียบกับช่วง 3-4 ปีเป็นยุคทองคอนโดมิเนียม ที่ชาวจีนเข้ามาซื้อจำนวนมาก เพราะราคาอสังหาฯในจีนแพงกว่าไทยมาก แต่ด้วยการเกิดการระบาดของโควิด-19 และล็อกดาวน์ประเทศมานาน ทำให้รายได้ของคนลดลง ในส่วนของเพอร์เฟ็กต์ ตั้งแต่ปลายปี 2564 มีชาวจีนซื้อคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ระดับราคา 3-4 ล้านบาท ขณะนี้หยุดผ่อนและยกเลิกสัญญาแล้ว 1-2% สำหรับผลจากเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง มีต่างชาติมาซื้อคอนโดที่หัวหินของบริษัทมากขึ้น หลังโควิดระบาดเงียบไป 2 ปี ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มยุโรปตะวันตกและสแกนดิเนียเวีย และจีนน้อยลงมากเพราะยังปิดประเทศ
“ครึ่งหลังปีนี้ คาดว่ากำลังซื้อตลาดอสังหาฯจะชะลอตัวลง เนื่องจากมีปัจจัยที่ยังเป็นข้อกังวลต่อผู้ซื้อ เช่น อัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้ หากดอกเบี้ยปรับขึ้น จะกระทบทั้งผู้ประกอบการที่มีต้นทุนพัฒนาโครงการสูงขึ้น ก็ต้องบริหารสต๊อกและต้นทุนให้ดี รวมถึงกระทบต้นทุนการเงินจากการออกหุ้นกู้ ซึ่งเดือนสิงหาคมกันยายนนี้ บริษัทจะออกหุ้นกู้ 1,000 ล้านบาท หนีไม่พ้นได้รับผลกระทบบ้าง ส่วนผลกระทบต่อลูกค้า หากเป็นลูกค้าเก่าค่าผ่อนบ้านจะเพิ่มขึ้น และลูกค้าใหม่อาจชะลอตัดสินใจซื้อ” นายวงศกรณ์กล่าว
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และนายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า กรณีจีนเริ่มหยุดผ่อนบ้านนั้น ผลจากโควิดระบาดและปิดประเทศ จึงเกิดหนี้เสียหรือเอ็นพีแอลเพิ่ม ซึ่งเป็นกันทุกประเทศ รวมถึงไทยด้วย โดยอาจส่งผลต่อตลาดอสังหาฯของไทยในแง่ของชะลอโอน โดยในส่วนของออริจิ้นมีคนจีนยกเลิกการซื้อขายแล้ว 15% นับจากเกิดโควิด แต่ไม่ค่อยน่าห่วง เพราะชาวจีนวางเงินดาวน์สูง 25% แม้ยกเลิกพอมีกำไร ในส่วนดอกเบี้ยขาขึ้น กระทบต่อตลาดอสังหาฯบ้าง แต่ไม่น่ากังวลมากในส่วนของผู้ประกอบการ เพราะโครงการเมื่อสร้างเสร็จ จะมีดอกเบี้ยไม่เกิน 2% เช่น คอนโดราคา 1 ล้านบาท ต้นทุนเพิ่มไม่เกิน 20,000 บาท แต่ส่งผลต่อคนผ่อนบ้านอยู่แล้ว ขณะที่บาทอ่อนค่าทำให้ต่างชาติมาซื้ออสังหาฯในไทยมากขึ้น เช่น ยุโรป ตะวันออกกลาง แต่ยังไม่มาก เมื่อเทียบลูกค้าหลัก อย่าง จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยและปล่อยเช่า
“บาทอ่อนยังกระตุ้นต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยและในหลากหลายธุรกิจมากขึ้น ตอนนี้เห็นได้ว่ากลุ่มทุนรายกลางและรายใหญ่ เช่น สิงคโปร์มาซื้อโรงแรมขนาดกลาง หรือขนาดเล็กในไทย โดยเฉพาะ เมืองท่องเที่ยว อย่าง ภูเก็ต พัทยา เพราะช่วงนี้ได้ราคาถูก และธุรกิจโรงแรมเริ่มฟื้นตัว ถ้ารอซื้อปีหน้าราคาสูงขึ้น ปีนี้ออริจิ้นเร่งปิดดีลซื้อโรงแรมอีก 2-3 แห่งที่พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ ใช้เงิน 1-3 พันล้านบาท รองรับท่องเที่ยวฟื้นตัว” นายพีระพงศ์กล่าว
นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ จำกัด บริษัทที่ปรึกษาลงทุนอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ตลาดโรงแรมเริ่มดีขึ้น แต่ส่วนใหญ่ดีในกลุ่มโรงแรม 4-5 ดาวในเมืองท่องเที่ยว เพราะค่าห้องยังถูก จากลูกค้าต่างชาติยังน้อย และกำลังมีการเปลี่ยนมือการเป็นเจ้าของโรงแรม เพราะโควิดทำให้โรงแรมปิดตัวแยะ จึงมีทุนไทยและต่างชาติเข้าซื้อจำนวนมาก เช่น พัทยา ภูเก็ต แต่กดราคาซื้อลง 50% มักเกิดกับโรงแรมเล็ก โรงแรมขนาดใหญ่ยังไม่ยอมขายกัน
“กำลังซื้อต่างชาติต่ออสังหาฯไทย ต้องรอคนจีนกลับมา คาดใช้เวลา 1-2 ปี เพราะจีนยังเปิดประเทศและเข้มงวดมาตรการซีโร่โควิด ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว ตลาดอสังหาฯเริ่มมีปัญหา ผู้ประกอบการหยุดสร้าง คนซื้อไม่จ่ายค่างวด ตอนนี้ส่วนใหญ่ที่ซื้อและโอนเป็นคนไทย” นาย สุรเชษฐกล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน