คณิศ ปูทางแผนอีอีซี5ปี ส่งไม้ต่อเลขาธิการคนใหม่
คณิศ เตรียมแผนการลงทุนอีอีซี 5 ปีข้างหน้า ดึงลงทุน 2.2 ล้านล้านบาท ส่งไม้ต่อเลขาธิการ สกพอ. คนใหม่
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ว่า การลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาค ตะวันออก (อีอีซี) ระหว่างปี 2561-2565 ดึงกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10 กลุ่ม S-Curve เข้ามาลงทุนในอีอีซี คิดเป็นสัดส่วน 70% จากเงินลงทุนที่อนุมัติ แล้วทั้งหมด จากทั้งภาครัฐและเอกชนกว่า 1.84 ล้านล้านบาท และในกลุ่ม 5 อุตสาหกรรม New S-Curve คิดเป็น 36% โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 มีสัดส่วนการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 49%
“ในขณะนี้ไทยกำลังอยู่ในช่วงของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์ไว้ที่ 3.6% โดยลงทุนภาคอุตสาหกรรมในอีอีซีจะดันเศรษฐกิจเติบโตก้าวกระโดดในอีก 5 ปีข้างหน้า (2566-2570)”
ทั้งนี้ อีอีซี มีปัจจัยสนับสนุนสำคัญ 3 ด้าน คือ
1.โครงสร้างพื้นฐาน 5G ที่มีความครอบคลุมและรวดเร็วที่สุดในภูมิภาคอาเซียน นำหน้าประเทศเพื่อนบ้าน 2 ปี ทำให้ดึงดูดบริษัทด้านดิจิทัลทั้งจากจีน สหรัฐ ญี่ปุ่น ในการลงทุนด้านธุรกิจดิจิทัลและดาต้าเซ็นเตอร์
2.การผลักดันนโยบายส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) และแสดงจุดยืนการเป็นฐานผลิตรถยนต์ของอาเซียน สร้างความเชื่อมั่นให้บริษัทรถยนต์ทั่วโลกตัดสินใจมาลงทุนในอีอีซีตลอดทั้งซัพพลายเชน ตั้งแต่การผลิตแบตเตอรี่ ระบบไฟฟ้าและชิ้นส่วนยานยนต์ โดยจะมีการลงทุนจากบริษัท บีวายดี ค่ายรถอีวียักษ์ใหญ่จากจีน เตรียมยื่นขอบัตรส่งเสริมการลงทุน 30,000 ล้านบาทในปีนี้
3.การวางระบบการแพทย์ทันสมัยต่อยอดสู่การลงทุนในธุรกิจเวลเนส ซึ่งจะเป็นโอกาสธุรกิจครั้งใหญ่ โดยการ เปิดฉากลงทุนการแพทย์จีโนมิกส์ ทำให้เอกชนหลายประเทศสนใจร่วมลงทุนด้านการแพทย์ครบวงจรจากจีนและยุโรป ขยายผลสู่การเติบโตของธุรกิจเวลเนส อาทิ เวชสำอาง ศูนย์พักพิง โรงแรม ธุรกิจโรงแรมเพื่อการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และ การแพทย์ อุตสาหกรรมยา อุปกรณ์การแพทย์
นอกจากนี้ โครงสร้างพื้นฐาน 4 โครงการ หลักจะเข้าสู่ระยะก่อสร้างปลายปีนี้ โดยโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และสนามบินอู่ตะเภา จะส่งมอบหนังสือ เริ่มงานในเดือน ต.ค.นี้ คาดเสร็จปี 2568-2569 ซึ่งจะทำให้ก้าวสู่ระยะการขยายตัวสำคัญตั้งแต่ปี 2569
“เมื่อผมครบวาระการดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สกพอ.จะดำรงตำแหน่งเป็น ที่ปรึกษาให้กับ สกพอ.เพื่อช่วยให้ คำเสนอแนะการทำงานให้สำเร็จ ส่วน การสรรหาคาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 2 เดือน”
เมื่อผมครบวาระการตำแหน่งเลขาธิการอีอีซีแล้ว ยังคงเป็นที่ปรึกษาเพื่อช่วยเสนอแนะงานต่างๆ
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ