SF เล็งศบค.คลายปมโควิดดันพื้นที่เช่ากลับมาฟื้น Q3
ทันหุ้น - SF ลุ้นศบค. ผ่อนปรนมาตรการป้องกันโควิด-19 มองอัตราค่าเช่าพื้นที่ฟื้นตัว กลับสู่ภาวะปกติ ภายในไตรมาสที่ 3/2564 คาดสามารถปรับค่าเช่าเพิ่มในช่วง 3-5 ปี ที่ระดับ 14-15% ลุยพัฒนาโครงการมาร์เก็ตเพลส 2 แห่งใหม่ เชื่อยังมีดีมานด์ของผู้ใช้บริการในการเข้าห้างสรรพสินค้า
นายกิตตินันท์ สำรวจรวมผล กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SF ผู้นำในธุรกิจด้านการพัฒนาและบริหารศูนย์การค้าแบบเปิดของประเทศไทย กล่าวว่าจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นเป็นระลอกใหม่ ทำให้มีร้านค้าบางร้าน ที่ต้องปิดให้บริการ สิ่งที่บริษัททำก็คือการละเว้นค่าเช่าออกไปก่อน ในช่วงเดือน มกราคม-กุมภาพันธ์ 2564 หากทางศูนย์ บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบค.) มีการผ่อนปรน และสามารถเปิดให้บริการได้ ก็จะทำให้การเก็บค่าเช่ากลับมาเป็นปกติ และบริษัทคาดว่าภายในไตรมาสที่ 3/2564 อัตราค่าเช่าน่าจะกลับสู่ภาวะปกติได้ และเดินหน้าเข้าสู่ซึ่งไตรมาสที่ 4 ซึ่งจะเป็น ไฮซีซันของธุรกิจ
ด้านอัตราค่าเช่าในปี 2563 บริษัทไม่ได้มีการปรับขึ้น โดยค่าเช่าที่เมกะบางนา บริษัทมีการต่อสัญญากับร้านค้า ซึ่งทำให้ใน 3-5 ปี บริษัทสามารถจะปรับเพิ่มขึ้น 14-15% แต่ก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของร้านค้าว่าจะสะดวกปรับขึ้นในช่วงปีไหน
ด้านผู้เช่าใหม่ที่ เมกะบางนา บริษัทได้เซ็นสัญญาเช่าไปแล้วจำนวน 2 ราย โดยเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ และเซ็นทรัลดีพาร์ตเมนต์สโตร์ ซึ่งเป็น การเพิ่มพื้นที่เดิม โดยทั้ง 2 รายที่เข้ามาใหม่นั้นคาดว่า พื้นที่เช่ารวมน่าจะเพิ่มขึ้นเกิน 1 หมื่นตารางเมตร
เดินหน้าโครงการ
นอกจากนี้ อยู่ระหว่างพัฒนาโครงการมาร์เก็ตเพลส กรุงเทพกรีฑา บนที่ดิน 9 ไร่ รวมพื้นที่เช่า 5,000 ตารางเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการ ในช่วงไตรมาสที่ 3/2564 ปัจจุบันก่อสร้างไปแล้วกว่า 70% และประเมินว่าอัตราการเช่าพื้นที่เริ่มต้นจะ อยู่ที่ประมาณ 80% จากปัจจุบันสามารถขายพื้นที่เช่าได้แล้วกว่า 60% และโครงการมาร์เก็ตเพลส ทองหล่อ เป็นโครงการมิกซ์ยูส (Mixed-Use) โดยจะพัฒนาออฟฟิศและรีเทล ซึ่งบริษัทร่วมทุนกับ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการ ในช่วงปลายปี 2565
สำหรับ New Normal ที่เกิดขึ้นในยุค “โควิด-19” ที่ผลักให้ผู้คนทั่วโลกเข้าสู่ “ความปกติรูปแบบใหม่” ในทุกๆ ด้าน ทั้งไลฟ์สไตล์ ธุรกิจ สาธารณสุข จะทำให้กลัวเรื่องการช็อปปิ้งหรือไม่ แต่จากที่เห็นในปี 2563 มีมาตรการผ่อนปรนมากขึ้น
ในช่วงไตรมาสที่ 3 - 4 ที่ 2563 ก็ทำให้เห็นว่าไลฟ์สไตล์ของคนไทย หรือคนทั้งโลกก็ยังชอบที่จะเดินห้างสรรพสินค้า ไม่ว่าจะเป็นการทานอาหาร เสพบรรยากาศต่างๆ ซึ่งบริษัทมองว่าธุรกิจยังมีดีมานด์ที่ไปต่อได้ เคาะเป้า 6.50 บาท
สำนักวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุว่า SF มีผลการดำเนินงาน 2563 ดีกว่าคาด จากกำไร Fair Value โครงการอสังหาริมทรัพย์ (มีการปรับ Discount Rate และกำไรจากการต่อสัญญาเช่าที่ดิน และโครงการปรับปรุงพื้นที่) และ Profit Share จากการลงทุนใน Mega Bangna และคาด Mega Bangna จะช่วยหนุนกำไรรวมกว่า 50%
การระบาดของ โควิด-19 และการล็อคดาวน์ในหลายจังหวัดในช่วง 2563 ทำให้รายได้ในปีที่ผ่านมาลดลง 27% แต่เพิ่มขึ้น 3% ในไตรมาสที่ 4/2563 เนื่องจากผลประกอบการที่ดีมากของ Mega Bangna มีอัตรากำไรขั้นต้น เพิ่มขึ้นเป็น 61% จาก 58% เทียบกับปีก่อน เนื่องจากการลดต้นทุน โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 2/2563 โดยอัตรากำไรอยู่ที่ 59.6% ในช่วงไตรมาสที่ 4/2563 เพิ่มขึ้นจาก 57.1%
อีกทั้งยังคงประเมินอัตรากำไรขั้นต้น และ SG&A/sSales ปี 2564-2565 ที่ 60% และ 15% แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงได้แก่ ห้างสรรพสินค้าเปิดให้บริการล่าช้า, การฟื้นตัวแย่กว่าคาด และการต่อสัญญาเช่าล้มเหลว แนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสมที่ 6.50 บาท
Reference: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น