SCโชว์ยอดขาย1.9 หมื่นล้าน เล็งจัดอีเวนต์ใหญ่ครบรอบ 20 ปี 19-23 ต.ค.นี้
นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 19-23 ตุลาคมนี้ บริษัทเตรียมจัดงานอีเวนต์พิเศษครบรอบ 20 ปีที่สยามพารากอน ซึ่งจะเป็นงานเอ็กซ์ซิบิชั่น (Exhibition)ใหญ่ที่สุดตั้งแต่บริษัทเคยทำมา โดยจะเป็นการรวมเรื่องราวของ SC ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งไปสู่การเติบโตในอนาคต ซึ่งไฮไลต์ คือ การเปิดตัวโครงการโค้บบ์ เกษตร-ศรีปทุม เป็นคอนโดมิเนียม 0 เมตรจากรถไฟฟ้า และอีกหนึ่งไฮไลต์ คือ การเริ่มทดลองเปิดใช้ Utility Token (ยูทิลิตี้โทเคน) ครั้งแรกของ SC ซึ่งในปี 2567 บริษัทจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการและนำมาใช้ภายในบริษัทด้วย ขณะที่เชื่อว่าภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2566 จะดีกว่าปี 2565 คาดว่าจะเติบโตไม่เกิน 5% และจะดีขึ้นต่อเนื่องไปในปี 2567 หลังท่องเที่ยวฟื้น การเมืองมีความชัดเจนมีรัฐบาลใหม่ และนโยบายต่าง ๆ ที่จะทยอยออกมาในอนาคต
นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร SC เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทมียอดขาย (Presale)อยู่ที่ประมาณ 18,000-19,000 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 65% ของเป้าหมายยอดขายปี 2566 ที่ตั้งไว้ 28,000 ล้านบาท และอีก 4 เดือนจากนี้ (กันยายน-ธันวาคม) เตรียมเปิดตัวอีกกว่า 10 โครงการ จากปี 2566 ที่มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 25 โครงการ มูลค่ารวมมากกว่า 40,000 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทเปิดไปแล้ว 10 โครงการ มูลค่าประมาณ 19,000-20,000 ล้านบาท ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนเปิดตัวอีก 15 โครงการใหม่ มูลค่ารวมประมาณ 22,000-23,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 13 โครงการ และคอนโดมิเนียมอีก 2 โครงการ
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 4/2566 บริษัทมองว่าภาพรวมตลาดอสังหาฯ จะฟื้นตัวดีขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจอสังหาฯ เชื่อว่าผู้ประกอบการทุกรายจะเร่งจัดแคมเปญทางการตลาด เพื่อกระตุ้นยอดขาย ประกอบกับการออกมาตรการฟรี
วีซ่าของภาครัฐจะช่วยเอื้อให้ต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยสะดวกขึ้น ซึ่งถือเป็นปัจจัยเสริมที่จะทำให้เกิดโอกาส Traffic จากลูกค้าต่างชาติเข้ามาเสริมในช่วงปลายปีด้วย
สำหรับตลาดบน (ระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป) ยังคงมีความต้องการ ส่งผลให้ตลาดนี้เติบโตต่อเนื่อง โดยสัดส่วนของตลาดบนในปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 20% ของตลาดรวม ขณะที่พอร์ตสินค้าของ SC มีสัดส่วนสินค้าในกลุ่มระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป คิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของพอร์ตรวม ซึ่งตลาดในกลุ่มระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป เป็นลูกค้าไม่ได้รับผลกระทบจากการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน หรือมียอดปฏิเสธสินเชื่อน้อยกว่ากลุ่มระดับราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งโครงการส่วนใหญ่ของ SC จะอยู่ในโซนกรุงเทพตะวันตกและกรุงเทพตะวันออกเป็นหลัก ซึ่งทั้งสองโซนยังคงมีความต้องการสินค้าในกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง
Reference: หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น