CK จ่อรับแสนล้าน BEM ขอเซ็นสีส้ม
BEM เตรียม ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติลงนามร่วมทุน รถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงตะวันตก 28 พฤศจิกายนนี้ พร้อมจ้าง CK มูลค่า 1.09 แสนล้านบาท ด้าน CK เจรจา พันธมิตรเริ่มงานวางระบบมั่นใจ จัดหาขบวนรถทันกำหนดให้บริการสีส้มตะวันออก ย้ำชัด บริหารจัดการแรงงาน-วัสดุ ก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2565 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2565 ให้กำหนดวันประชุมวิสามัญ ผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2565 ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อพิจารณาเข้าทำสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มูลค่า โครงการ 139,127 ล้านบาท กับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ภายหลัง จากคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XM หรือวันที่ไม่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมวันที่ 31 ตุลาคม 2565
และพิจารณาว่าจ้าง บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เป็นผู้บริหารและก่อสร้างงานโยธา (ช่วงตะวันตก) และผู้ออกแบบ จัดหา ติดตั้ง ทดสอบอุปกรณ์งานระบบ และทดลองเดินรถไฟฟ้า (ช่วงตะวันออกและตะวันตก) ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ในลักษณะจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ (Lump Sum Turnkey) มีค่าตอบแทนรวม 109,216 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เบื้องต้น บริษัทคาดว่าจะใช้แหล่งเงินทุนจากภายนอก ทั้ง จากการกู้ยืมสถาบันการเงิน และ/หรือการออก หุ้นกู้ รวมถึงการใช้แหล่งเงินทุนภายในจากกระแส เงินสดจากการดำเนินงาน และเงินสนับสนุนที่ได้รับจาก รฟม. สำหรับงานโยธาช่วงตะวันตก ซึ่งแหล่งเงินทุนข้างต้นมีความเพียงพอต่อการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มโดยไม่ต้องเพิ่มทุนแต่อย่างใด
CK พร้อมดำเนินงาน
ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เปิดเผยว่า บริษัทมีความพร้อม ดำเนินงานโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย (ช่วงตะวันตก) รวมถึงมีความพร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการภาครัฐ เพื่อเติมปริมาณงานในมือ (Backlog) ตามความเหมาะสม
เบื้องต้น บริษัทได้เตรียมวางแผนการดำเนินงานร่วมกับพันธมิตร รวมถึงเตรียมสั่งซื้อขบวนรถไฟฟ้าเพื่อให้สามารถเข้าพื้นที่ส่วนงานวางระบบรถไฟฟ้าส่วนตะวันออกได้ทันที เพื่อให้สามารถโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ส่วนตะวันออกเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ในกรอบเวลาที่กาหนด
“ปกติระยะเวลาสั่งต่อขบวนรถจะเฉลี่ยที่ประมาณกว่า 3 ปี แต่บริษัทได้ประสานงานกับพันธมิตรให้ช่วยเร่งงานให้อยู่ในระยะเวลาประมาณ 2 ปี สำหรับงานโยธาโครงการส่วนตะวันตกนั้น บริษัทก็สามารถดำเนินงานต่อเนื่องได้ทันทีที่รับมอบพื้นที่ เนื่องจากงานโยธาโครงการส่วนตะวันออกก็จะเสร็จในระยะเวลาใกล้เคียงกัน”
สำหรับราคาวัสดุก่อสร้าง ซึ่งเป็นต้นทุน หลักปัจจุบันบริษัททยอยเจรจาสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างหลัก อาทิ ปูนซีเมนต์, เหล็ก เพื่อบริหารความเสี่ยง และป้องกันราคาผันผวนในอนาคตไว้ระดับหนึ่ง
“ปัจจุบันวัสดุก่อสร้างหลายรายการ อาทิ เหล็ก และปูนซีเมนต์มีแนวโน้มอ่อนตัวลง ซึ่งสอดคล้องกับขั้นตอนการดำเนินงานโครงการขนาดใหญ่ 2 โครงการที่ใกล้เข้าพื้นที่งานโยธา ประกอบด้วย 1.โครงการ รถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย เชียงของ และ 2.รถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนใต้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ใน ขั้นตอนการออกแบบ และการเตรียมเข้าพื้นที่ โดย หากมีโครงการขนาดใหญ่เข้ามาเพิ่มเติม บริษัทจึงทยอยเจรจาสั่งซื้อ ล็อกราคาในจังหวะที่เหมาะสม ไว้เพื่อป้องกันความผันผวนในอนาคตไว้ระดับหนึ่ง ทั้งนี้การก่อสร้างแต่ละโครงการมีระยะเวลาเฉลี่ย 3-5 ปีบริษัทจึงมั่นใจว่าจะสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ในระดับที่เหมาะสม”
Reference: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น
