ALLศึกษาเหรียญDOGEซื้อขายอสังหายุคดิจิทัล
ALL ศึกษาออกเหรียญ DOGE เพื่อนำมาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ชี้เป็นเหรียญที่ได้รับความนิยม และมีสภาพคล่องสูง พร้อมกางแผนพุ่งเป้าขายทาวน์โฮม เจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่ตั้งบริษัทอยู่ในไทย ลั่นอสังหาพ้นจุดต่ำสุด เชื่อผลงานดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป โชว์แบ็กล็อกแน่น 9 พันล้านบาท พร้อมโอนปีนี้ 4-5 พันล้านบาท
นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL ผู้ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยหลากหลายประเภท ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่มแบบครบวงจร เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างศึกษาเหรียญ DOGE Coin เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อขายบ้าน และคอนโด มิเนียมผ่านสกุลเงินดิจิทัล โดย DOGE Coin ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีสภาพคล่องสูง และราคาเหรียญอยู่ในระดับที่ดี
ศึกษาออกเหรียญ
ความป๊อบปูลาร์ ที่จะนำมาออก ซึ่งตอนนี้ราคา ”ปัจจุบันเราอยู่ระหว่างศึกษาเหรียญที่มีเหรียญค่อนข้างแกว่ง เมื่อถึงเวลาต้องนำมาแลกเป็นอสังหา กลัวว่าจะมีปัญหาในภายหลัง เราจึงอยากเลือกเหรียญที่มีความนิยมมากๆ อย่างเหรียญ DOGE ซึ่งวัยรุ่น และคนส่วนใหญ่นิยมใช้ จึงมีสภาพคล่องสูง” นายธนากร กล่าว
สำหรับกลุ่มลูกค้าอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นต่างชาติ ปัจจุบันเริ่มกลับมา ซึ่งจะเป็นต่างชาติที่อยู่ในเมืองไทย และเปิดบริษัทในไทย โดยบริษัทเริ่มเปิดขายทาวน์โฮม และทาวน์เฮาส์ มากขึ้น เนื่องจากมีความต้องการซื้อ โดยเฉพาะจากลูกค้าต่างชาติที่จะซื้อในนามบริษัท
ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลังบริษัทเตรียมเปิดโครงการแนวราบเพิ่มขึ้น ซึ่งในไตรมาส 4/2564 จะมี 2-3 โครงการ เป็นส่วนของบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม อยู่ในโซนราชพฤษ-บางนา ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้ปรับให้มีความหลากหลายมากขึ้น
ส่วนคอนโดมิเนียมยังขายได้เรื่อยๆ ซึ่งพฤติกรรมผู้บริโภคจะเปลี่ยนไปจะต้องเป็นโครงการที่สร้างแล้วเสร็จ และสามารถเข้าอยู่ได้เลย ถือว่าตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ และราคาคอนโดปรับตัวลดลง
อสังหาพ้นจุดต่ำสุด
“ทิศทางครึ่งปีหลังเราเริ่มดีขึ้น มองอสังหา ลงต่ำสุดแล้วในช่วงที่ผ่านมา ตอนนี้บ้านถูก ดอกเบี้ยถูกสุดในรอบ 10 ปี และมีโครงการเร่งระบายสต๊อกมากขึ้น ถือว่าผู้ซื้อปัจจุบันเป็นเรียลดีมานด์ ส่วนพวกนักลงทุนเก็งกำไรไม่น่าจะมีแล้ว ขณะที่คอนโดในเมืองราคา 2 ล้านก็สามารถซื้อได้แล้ว ซึ่งคอนโดเราราคาไม่เกิน 3 ล้านยังมีอยู่ และได้รับอานิสงส์โครงการรัฐ 1% ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการซื้ออสังหาในตอนนี้” นายธนากร กล่าว
สำหรับทิศทางผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง น่าจะปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป เนื่องจากที่ผ่านมามีการเลื่อนโอน ขณะที่ยอดขายทั้งปีเชื่อว่าจะเป็นไปตามเป้าที่ 4,000-5,000 ล้านบาท โดยมียอดรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 9,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถโอนได้ในปีนี้ 4,000-5,000 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทเตรียมเปิดพรีเซลโครงการใหม่โครงการ “ไรส์ เจริญนคร ลักซ์ นีโอ คลาสสิค” เจาะกลุ่มลูกค้าย่านไอคอน สยาม แนวรถไฟฟ้าสายสีทอง เริ่มต้นที่ 3.49 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ซึ่งได้ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น เจอาร์ คิวชู (JR Kyushu) คาดว่าจะเปิดขายได้ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้
Reference: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น