แห่ซื้อบ้านตากอากาศ หัวหิน
โควิดยืดเยื้อ เวิร์กฟรอมโฮมยาวนาน ดันคนไทยโหยหาธรรมชาติ บ้านตากอากาศยอดขายพุ่ง ‘หัวหิน’นำโด่งขึ้นเทรนด์ยอดนิยม แห่ซื้อทะลุ 64%
รายงานข่าวจากซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส ที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ และเดลิเวอร์ริ่ง เอเชีย คอมมิวนิเคชั่นส์ บริษัทด้านการตลาดและการประชาสัมพันธ์สำหรับอุตสาหกรรมการบริการ การท่องเที่ยว และอสังหาริมทรัพย์ ได้เปิดเผยข้อมูลว่า จากข้อมูลผู้ชื้ออสังหาฯชาวไทยในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมาที่เกิดการระบาดของโควิด-19 พบว่าอุปสงค์ในประเทศพุ่งสูงขึ้น คนไทยซื้อบ้านตากอากาศ หรือบ้านหลังที่สองมากขึ้น โดยข้อมูลที่เผยแพร่โดย ฟาสวาส เว็บไซต์อสังหาฯชั้นนำของไทยระบุว่า หัวหิน คือพื้นที่รีสอร์ตชายทะเลยอดนิยมมียอดซื้อเพิ่มขึ้นมาก จากตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2563 ถึงกลางปีนี้ หัวหินมียอดซื้อบ้านตากอากาศคิดเป็น 64% ของยอดซื้อบ้านตากอากาศในไทย รองลงมา ได้แก่ ภูเก็ต สมุย และพัทยา
ขณะที่บริษัท โบ๊ทพัฒนา โดยนายบุญ ยงสกุล ประธานกรรมการบริษัท ให้ข้อมูลว่าที่ผ่านมาลูกค้าของบริษัทจะเป็นผู้ซื้อจากต่างประเทศในอสังหาฯที่เป็นรีสอร์ตลักชัวรี่ แต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา เห็นผู้ซื้อในกรุงเทพฯเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่โครงการ ลากูน่า ภูเก็ต และพบว่าพฤติกรรมคนไทยเปลี่ยนไป ต้องการอยู่อาศัยในรีสอร์ต มีคุณภาพชีวิตและพื้นที่กลางแจ้ง จากเมื่อ 5 ปีก่อนอสังหาฯบนเกาะเน้นคอนโดมิเนียม แต่ปัจจุบันเน้นบ้านเดี่ยวมากขึ้น โดยหัวหินเป็นตลาดบ้านตากอากาศชั้นนำของของไทยในหมู่ผู้ซื้อชาวไทย
รายงานข่าวระบุอีกว่า ยังมีความเห็นจาก นายเชิ้ท คว้อนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บันยัน ไทยแลนด์ กรุ๊ป ระบุว่ามีแนวโน้มที่ผู้ซื้อต้องการรีเซตไลฟ์สไตล์ โดยมีความชัดเจนคือที่หัวหิน เพราะพบว่ามีผู้ซื้อจำนวนมากขึ้นที่ต้องการหลีกหนีจากเมืองกรุง และเพลิดเพลินกับวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีและกระฉับกระเฉงมากขึ้น ส่วนตัวคิดว่าสิ่งนี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักสำหรับครอบครัวและคู่รัก และผู้ที่กำลังมองหาบ้านหลังที่สองที่ไม่ใช่กรุงเทพฯ
นายบิล บาร์เน็ต กรรมการผู้จัดการ ซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส ให้ข้อมูลเพิ่มว่า ปัญหามลพิษที่เลวร้ายลงของกรุงเทพฯ มีส่วนในมูลค่าการซื้ออสังหาริมทรัพย์ อีกประการหนึ่งคือเทรนด์การทำงานจากที่บ้าน (เวิร์กฟรอมโฮม) ที่ยาวนานขึ้น “นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กำลังเผชิญกับรสนิยมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปสำหรับชีวิตที่ยืดหยุ่นได้และมีพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ”
Reference: หนังสือพิมพ์มติชน
