แสนสิริเต็งแชมป์อสังหา
กำไรพุ่ง162% - เปิดอีก39โครงการ เดินหน้าจ่ายเงินปันผลระหว่างการ สะท้อนผลประกอบการที่ดีในอนาคต
นายวิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ผลประกอบการรอบ 6 เดือน ปี 2566 แสนสิริมีกำไรสุทธิ 3,203 ล้านบาท ซึ่งนับว่าสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในขณะนี้ เติบโตก้าวกระโดดไปถึง 162% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยมีกำไรสุทธิ เฉพาะไตรมาสที่ 2/2566 อยู่ที่ 1,621 ล้านบาท โตขึ้น 77% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา อัตรากำไรสุทธิรอบ 6 เดือนสูงถึง 17.3% ของรายได้รวมปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากจากอัตรากำไรสุทธิ 9.3% ของรายได้รวมจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แสดงถึงความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่รายได้รวมรอบ 6 เดือน อยู่ที่ 18,493 ล้านบาท โตขึ้น 42% จากรอบ 6 เดือนของปีก่อน แบ่งเป็นรายได้รวมในช่วงไตรมาสแรก 8,505 ล้านบาท และรายได้รวมไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ 9,988 ล้านบาท โต 27% ผลงานมาจากรายได้จากการขายโครงการที่โดดเด่นในทุกกลุ่มที่อยู่อาศัย ส่งผลให้เติบโตทั้งในรอบ 6 เดือนและรายไตรมาส ผลงานความสำเร็จ มาจากการได้รับการตอบรับที่ดีในโครงการ แนวราบครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์
นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานที่โดดเด่นในรอบครึ่งปี ยังมาจากโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ Ready to Move ที่ได้รับการตอบรับที่ดีและเป็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีของตลาดคอนโดมิเนียม จากการที่คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่นับเป็นตัวชี้วัดที่ดีในตลาด Real Demand เนื่องจากกลุ่มลูกค้าซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองหรือปล่อยเช่า โดยคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าในทุกเซ็กเมนต์เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ แสนสิริยังมีผลงานยอดขายที่โดดเด่น โดยล่าสุดสร้างยอดขายรวมไปได้ถึง 27,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 50% จากเป้าหมายยอดขาย 55,000 ล้านบาท โดยในครึ่งปีหลัง แสนสิริยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีก 39 โครงการ มูลค่ารวม 56,700 ล้านบาท ไฮไลต์โครงการที่เตรียมเปิดตัวในไตรมาส 3/2566
โดยมีการเปิดตัวโครงการสำคัญ อาทิ “บูก้าน พัฒนาการ” บ้านเดี่ยวรูปแบบ Luxury Private Villa ที่มาพร้อมฟังก์ชันพิเศษในสังคมคุณภาพเพียง 17 ยูนิต ราคา 65-115 ล้านบาท เตรียมเปิดตัวในช่วงปลายเดือนก.ย. และการเปิดตัว New Luxury Condominium หนึ่งในโครงการไฮไลต์ของแสนสิริในปีนี้ ทำเล “ราชเทวี” จ่อคิวเปิดตัวเดือน ส.ค.นี้
”ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล (Interim dividend) จากผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.2566 ซึ่งเป็นที่น่าพึงพอใจ ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น สะท้อนให้เห็นถึงปัจจัยพื้นฐานและผลประกอบการที่ดีของแสนสิริในอนาคต”
Reference: หนังสือพิมพ์ข่าวสด