อสังหาแนะตั้งตลาดรองอุ้มหนี้เสีย
“นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า หากเข้าไตรมาสสี่ปีนี้ สถานการณ์กำลังซื้อ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19ยังไม่ฟื้น ธุรกิจอสังหาฯจะอยู่ลำบาก แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาจะไม่ได้รับผลกระทบหนักเหมือนธุรกิจกลุ่มโรงแรมและภาคการท่องเที่ยวที่ต้องปิดตัวทันที แต่พบว่ากำลังซื้อภาพรวมลดลง สะท้อนจากยอดขายซบเซาในช่วงไตรมาสแรกของปีของหลายค่าย อสังหาฯหดตัวชัดเจน บางโครงการจัด โปรโมชั่นลดราคาถึง 50% เพื่อผลักดัน ยอดขาย ส่วนขายได้ แล้วโอนได้หรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง ขณะที่การก่อสร้างโครงการบางจังหวัดหยุดลง
“ผู้ประกอบการอสังหาฯรายเล็ก ทำไม่ได้เหมือนรายใหญ่ หากภายใน 3-4 เดือน ไม่มียอดโอนฯ ขายไม่ออก ไม่มีทางอยู่ได้ ทางสมาคมฯหวังมาตรการช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐ มาช่วยเหลือเพื่อไม่ให้เกิดภาพเลย์ออฟเอาคนออกในบริษัทขนาดกลาง ขนาดเล็ก หรือ รายใหญ่บางรายที่ประสบปัญหา สภาพคล่อง เช่นการตั้งบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่เคยใช้เมื่อวิกฤติปี 2540 โดยการโยกเงินจากธนาคารพาณิชย์ ไปใส่ในบรรษัท คอยรับซื้ออสังหาฯ ที่มีปัญหาและดูแลลูกค้าต่อแทน ขณะที่ธนาคารนั้นๆ ก็จะกล้าปล่อยสินเชื่อ มากขึ้น”
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลกระทบจากโควิดที่มี กับตลาดอสังหาฯภาพรวมในแง่กำลังซื้อและอารมณ์ซื้อ ส่วนความรุนแรงจะมากน้อยขนาดไหนขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทว่าปัญหามากน้อยขนาดไหน ในส่วนของแอสเซทไวส์ ไม่มีนโยบายที่ปลดพนักงาน ส่งผลให้กลางปีที่ผ่านมายอดขายเพิ่มขึ้น ซึ่งหากก่อนหน้านี้บริษัทปลดพนักงานคงจะไม่สามารถทำยอดขายได้ขนาดนี้
แต่อย่างไรก็ตามวิธีการบริหารจัดการ ของแต่ละบริษัทไม่มีอะไรผิดอะไรถูก แต่ที่นี่เลือกที่จะไม่ปลดพนักงานออก ต่อให้ผลกระทบจากโควิดจะลากยาวถึง ปีหน้า ส่วนภาพรวมในตลาดขึ้นอยู่นโยบายของแต่ละบริษัท บางบริษัท อาจปลดพนักงาน แต่บางบริษัทรับเพิ่ม โดยแนวทางการบริการจัดการหลักๆ ในช่วงเวลานี้คือการลดหนี้กำเงินสด ส่วนการเปิดโครงการใหม่ต้องรอจังหวะในการเปิดตัว
Reference: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ