คลังเปิดรอบสอง คนละครึ่ง 11พ.ย.
”คลัง” เตรียมเปิด ลงทะเบียนมาตรการ “คนละครึ่ง” รอบสอง 11 พ.ย.นี้ หากมีผู้สละสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ ทำให้ผู้ร่วมโครงการไม่เต็ม 10 ล้านคน พร้อมสรุปยอด ที่จะเปิดให้ลงทะเบียน 10 พ.ย.นี้
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า กระทรวงการคลังมีนโยบายที่จะเปิดให้มีการ ลงทะเบียนรอบสอง ในวันที่ 11 พ.ย.2563 สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งของรัฐบาล หากผู้ที่ลงทะเบียนในรอบแรกสละสิทธิ์ที่จะเข้าร่วมโครงการ ทำให้ยอดผู้เข้าร่วมโครงการไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ 10 ล้านคน
สำหรับขณะนี้เรายังไม่ทราบจำนวน ที่ชัดเจน ว่าจะมีผู้สละสิทธิ์เข้าร่วมโครงการในจำนวนเท่าใด โดยจะต้อง รอให้ผู้ลงทะเบียนวันสุดท้ายครบกำหนด ที่จะใช้สิทธิภายใน 14 วันหลังลงทะเบียนก่อน ซึ่งคาดว่า จะเป็นวันที่ 10 พ.ย.นี้ ดังนั้น ในวันดังกล่าวเราจะทราบจำนวนสละสิทธิ์ทั้งหมด
”นโยบายของเราตอนนี้ คือ เราจะเปิด ให้ลงทะเบียนรอบสอง เพื่อให้จำนวน ผู้เข้าร่วมโครงการเต็ม 10 ล้านคน แต่เราต้อง รอตัวเลขยอดผู้สละสิทธิ์เข้าร่วมโครงการก่อนว่า จะมีจำนวนเท่าใด เพื่อให้รู้ว่า เราจะเปิดให้มีการลงทะเบียนได้อีกจำนวนเท่าใด ซึ่งในวันที่ 10 พ.ย.นี้ จะรู้ยอดทั้งหมด จึงจะเปิดให้ลงทะเบียนในวันที่ 11 พ.ย.”
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนร่วมโครงการ คนละครึ่งจะต้องใช้สิทธิหรือใช้จ่าย ภายใน 14 วันหลังจากที่ได้มีการลงทะเบียน หากไม่มีการใช้จ่าย จะถือว่าสละสิทธิ์ โดยปริยาย อย่างไรก็ตามผู้ที่สละสิทธิ์สามารถที่จะเข้าร่วมโครงการช้อปดีมีคืน เพื่อนำรายจ่ายมาหักลดหย่อนภาษีได้ ในวงเงินไม่เกิน 3 หมื่นบาท
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้าน เศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจ การคลัง กล่าวว่า โครงการคนละครึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าครองชีพของ ประชาชนและกระจายรายได้ให้กับ ร้านค้ารายย่อยโดยเฉพาะหาบเร่แผงลอย ให้มีรายได้จากการขายสินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้โครงการได้รับกระแสตอบรับ เป็นอย่างดี โดยข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 5 พ.ย.2563 เวลา 14.00 น. มียอด ใช้จ่ายสะสมประมาณ 7 พันล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 51% ล้านบาท และรัฐช่วยจ่ายอีก 49% ล้านบาท จึงขอความร่วมมือประชาชนและร้านค้า ให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ของโครงการ อย่าให้มีการดำเนินการ ไปในทางมิชอบ เพื่อมิให้ทำลายบรรยากาศ ของการดำเนินโครงการคนละครึ่ง สำหรับยอดสละสิทธิ์ของผู้ลงทะเบียน วันแรกนั้น ทางธนาคารกรุงไทยจะสรุป ในช่วง เวลา 24.00 น.ของวันที่ 5 พ.ย.นี้
Reference: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
