ให้สินเชื่อส่งเสริมการจ้างงาน
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK ได้เข้าร่วมสนับสนุน “โครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน” ของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน ในวงเงินรวม 30,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่สถานประกอบการ สามารถดำรงอยู่ได้ รวมทั้งสามารถรักษาการจ้างงานเพื่อผลิต และจำหน่ายสินค้าได้อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจปี 2563 ส่งผลให้แรงงานในสถานประกอบการยังคงมีงานทำ และอยู่ในระบบประกันสังคมได้ต่อไป
โดยสถานประกอบการที่ขึ้นทะเบียนกับ สปส. สามารถขอรับบริการ “สินเชื่อเอ็กซิมเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน” ได้ภายใต้วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท โดยมีให้เลือก 2 ทางคือ 1.สินเชื่อเอ็กซิมเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน Series 1 เงินกู้ระยะเวลา 3 ปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 อยู่ที่ 3% ต่อปี กรณีมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และ 2.สินเชื่อเอ็กซิมเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน Series 2 เงินกู้ระยะเวลา 7 ปี ดอกเบี้ยปีที่ 1-3 อยู่ที่ 3% ต่อปี ปีที่ 4-7 ดอกเบี้ยอยู่ที่ -1.25% ต่อปี หรือ 4.5% ต่อปี โดยสามารถใช้หนังสือค้ำประกันของบรรษัทสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เป็นหลักประกันร่วมได้ ทั้งนี้ติดต่อขอรับบริการได้ที่ EXIM BANK ตั้งแต่บัดนี้-30 ธ.ค.63 สอบถามโทร. 0-2617-2111 ต่อ 3510-2
ด้านนายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยใน กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ในไตรมาส 1 ปีนี้ พบว่า ลดลงจากไตรมาสที่แล้วที่ค่าดัชนีอยู่ที่ 44.4 จุด เหลือ 41.2 จุด ซึ่งเป็นค่าดัชนีที่ต่ำที่สุดในรอบ 32 ไตรมาส นับตั้งแต่ปี 55 หลังเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่กรุงเทพฯ ในปี 54 “สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการมีความกังวลต่อปัจจัยลบต่างๆมากขึ้นทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19”
ทั้งนี้ เมื่อแยกกลุ่มผู้ประกอบการตามประเภทพบว่า ความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันของกลุ่มบริษัทจดทะเบียนมีค่าดัชนีเท่ากับ 41.7 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ 44.6 จุด ซึ่งต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 อีกครั้ง หลังเคยมีค่าดัชนีต่ำกว่า 50 ในไตรมาสที่ 2 ปี 62 ซึ่งเป็นช่วงที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศใช้มาตรการควบคุมการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ส่วนผู้ประกอบการกลุ่มบริษัททั่วไปมีค่าดัชนีเท่ากับ 40.5 จุด ลดลงจากเดิมที่มีค่า 44.1 จุด
Reference: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ