เอ็มบีเคปั้น ริเวอร์เดลดิสทริค ชู มารีน่า บูมท่องเที่ยวทางน้ำ

           เอ็ม บี เค เร่งต่อจิ๊กซอว์อาณาจักรเมือง 1.5 พันไร่ “ริเวอร์เดล ดิสทริค” ปักหมุดแลนด์มาร์คริมแม่น้ำเจ้าพระยา เจาะกำลังซื้อโซนกรุงเทพฯ ตะวันตก ชูธง  ”มารีน่า ท่าเรือยอร์ช” ครบวงจร จุดเช็คอินใหม่ ปลุกสีสันท่องเที่ยวทางน้ำ กว้านพันธมิตรรัฐ-เอกชน บูมลักชัวรีทราเวล เล็งลงทุน ต่อเนื่องคอนโด โรงพยาบาล โรงเรียน เสริมแกร่งสนามกอล์ฟ โรงแรม แอพเพิล ออโต้ ออคชั่น ไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้ “เดอะไนน์”

          การขยายตัวของเมืองสร้างดีมานด์เกิดขึ้นในทุกมิติ โดยเฉพาะโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รูปแบบต่างๆ นับเป็นจังหวะและโอกาสของ ริเวอร์เดล ดิสทริค (Riverdale District) บิ๊กโปรเจคแห่งใหม่ในเครือเอ็ม บี เค บนที่ดินกว่า 1,500 ไร่ ที่รวมธุรกิจในเครือเอ็ม บี เค มาตั้งอยู่พื้นที่เดียวกัน และกำลังขยายอาณาจักร ต่อยอด ความเป็นเมืองครบวงจร ซึ่งประกอบด้วย ที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์ โครงการ เดอะริเวอร์เดล เรซิเดนส์ โครงการพาร์ค ริเวอร์เดล สนามกอล์ฟมาตรฐานโลก ริเวอร์เดล กอล์ฟ คลับ และ บางกอก กอล์ฟ คลับ โรงแรมทินิดี โฮเต็ล แอท บางกอก กอล์ฟ คลับ ศูนย์ประมูลรถยนต์มือสองครบวงจร แอพเพิล ออโต้ ออคชั่น และ “ริเวอร์เดล มารีน่า ท่าเรือยอร์ช” จุดเช็คอินแห่งใหม่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ล่าสุด โมเดิร์น ไลฟ์สไตล์ คอมมูนิตี้มอลล์ “เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์” ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เมื่อ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา

          นายสมพล ตรีภพนารถ กรรมการ ผู้จัดการธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์ เป็นหนึ่งจิ๊กซอว์เสริมความครบวงจรให้อาณาจักร ริเวอร์เดล ดิสทริค ซึ่งในอนาคตยังจะมีพันธมิตรและการพัฒนาองค์ประกอบต่างๆ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน ฯลฯ ซึ่งเปิดกว้างพาร์ทเนอร์ที่จะเข้ามา ส่งเสริมซึ่งกันและกันในการสร้างปริมาณลูกค้าหมุนเวียนทั้งวันทำงานและวันหยุด จากกำลังซื้อย่านติวานนท์ บางกะดี ปากเกร็ด ปทุมธานี และดอนเมือง

          ทั้งนี้ เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์ ทำหน้าที่เป็นจุดนัดพบแห่งใหม่ในการมาใช้ชีวิต ลงทุนกว่า 500 ล้านบาท ภายใต้คอนเซ็ปต์ Neighborhood Backyard ความสุขใกล้บ้าน เป็นโมเดิร์น ไลฟ์สไตล์ คอมมูนิตี้มอลล์ แบบโอเพ่นแอร์ บนพื้นที่กว่า 30,000 ตร.ม.ท่ามกลางบรรยากาศเอ็กซ์คูลซีฟกับวิวพาโนรามามองเห็น สนามกอล์ฟบางกอก กอล์ฟ คลับ เป็นจุดขาย ที่แตกต่างและสร้างความแปลกใหม่ให้ลูกค้าและทำให้มีผู้เข้าใช้บริการต่อเนื่อง

          “ย่านติวานนท์มีการขยายตัวของเมืองและกำลังซื้อเติบโตอย่างต่อเนื่อง ลูกค้าหลักเป็นกลุ่มครอบครัว พนักงานออฟฟิศ นิคมอุตสาหกรรม ข้าราชการ และนักศึกษา คาดว่าหลังจากเปิดศูนย์การค้าฯ อย่างเป็นทางการ ทราฟฟิกภาพรวมเติบโตขึ้น”

          จุดพลุ “มารีน่า” ลงทุน3เฟส

          นายอภิมงคล กิจวัตร์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายพัฒนาทรัพย์สิน บริษัท พี อาร์ จี พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด ผู้บริหารริเวอร์เดล มารีน่า ท่าเรือยอร์ช กล่าวว่า ได้วางแผน 3-5 ปีจากนี้ ในการพัฒนามารีน่าครบวงจรแห่งแรกบนแม่น้ำเจ้าพระยา รองรับเรือ สปีดโบ๊ท ริเวอร์ยอร์ช  สามารถจอดเรือได้ทั้งในน้ำ บนบก ดูแลจัดการล้างและซ่อมบำรุงเรือ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง บริการอะไหล่ ไปจนถึงมารีน่า พลาซ่า และ อะคาเดมี สอนขับเรือ จด-ต่อทะเบียนเรือ ออกไลเซ่นส์ ภายใต้ความร่วมมือกับ กรมเจ้าท่า

          นอกจากนี้จะมี “โชว์รูมเรือ” ซึ่งได้ร่วมกับพันธมิตร มิลเลนเนียลกรุ๊ป เปิดตัวแบรนด์ใหม่ ริเวอร์โบ๊ทจากสหรัฐ  “Chris Craft ในเดือน ส.ค.นี้  ราคาราว 3 ล้านบาทสำหรับขนาด 17 ฟุต จนถึง 37 ฟุต  ราคา 14-15 ล้านบาท

          ทั้งนี้การพัฒนาบนพื้นที่ราว 77 ไร่ แบ่งเป็น 3 เฟสหลัก  โดยเฟสแรกลงทุนกว่า 200 ล้านบาท เปิดตัวเดือน มี.ค.บริการรับฝากเรือ   เฟส 2 โชว์รูม ร้านอาหารริมแม่น้ำ และลานกิจกรรม ลงทุนราว 150 ล้านบาท ทยอยเปิดให้บริการตั้งแต่เดือน ส.ค.และเฟสสุดท้าย พัฒนาคอนโดมิเนียม ริมแม่น้ำ ซึ่งรอดูถสถานการณ์และดีมานด์ตลาดในห้วงเวลานั้นๆ ด้วย

          ผนึกรัฐ-เอกชนบูมท่องเที่ยวทางน้ำ

          ริเวอร์เดล มารีน่า ได้หารือและ ดำเนินการร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐ และเอกชน อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว สมาคมท่องเที่ยวต่างๆ รวมทั้ง ไอคอนสยาม จัดทำเส้นทางที่จอดเรือแบบ “ไพรเวทโบ๊ท” โดยเริ่มแล้วที่ไอคอนสยาม ให้สมาชิกสามารถจอดเรือเทียบท่าได้ ซึ่งจากริเวอร์เดล ดิสทริค ถึงไอคอนสยาม  ใช้สปีดโบ๊ทเดินทางราว 1 ชั่วโมง 15 นาที ที่อัตราวิ่ง 18 น็อต

          “เราทำเซอว์เวย์ช่วง 1 ปีที่ผ่านมาเพื่อ ต้องการทำมารีน่าที่ดีที่สุด พบว่าแม่น้ำเจ้าพระยา มีสปีดโบ๊ทกว่า 300 ลำจอดอยู่ตามโรงแรม เป็นโอกาสในการวางเส้นทางท่องเที่ยวรองรับเจ้าของเรือเหล่านี้ที่ต้องการเส้นทาง และท่าจอดเรือจุดหมายปลายทางรองรับเช่นกัน”

          พร้อมกันนี้ ริเวอร์เดล มารีน่า ได้ผนึกเป็นหนึ่งของริเวอร์เดล ดิสทริค โดยสร้าง “มารีน่า คอมเพล็กซ์” ร่วมกับสนามกอล์ฟ และ โรงแรม รองรับนักท่องเที่ยวเกาหลี ญี่ปุ่นที่มาพำนักใช้บริการตีกอล์ฟ สามารถจัดทริปนำเที่ยวอยุธยา ซึ่งมีไพรเวทโบ๊ท 4 ที่นั่งรองรับในแพ็คเกจซันเซ็ตครูท  ชั่วโมงละ 5,000 บาท เป็นต้น นอกจากนี้มี “บิ๊กโบ๊ท” ซึ่งร่วมกับเรือด่วนเจ้าพระยา จัดแพ็คเกจท่องเที่ยวรองรับทั้งชาวไทยและต่างชาติ

          ริเวอร์เดล มารีน่า ยังต่อยอดความร่วมมือกับพันธมิตรหลากหลายรูปแบบ เช่น ทริปแม่น้ำถึงมหาสมุทร โดยร่วมกับโอเชี่ยน มารีน่า หรือเรียกว่า (ริเวอร์ทูซี) หรือการท่องเที่ยวจากแม่น้ำสู่คลอง ย่านปทุมธานี นนทบุรี เป็นต้น

          “เราได้เปรียบในอีโคซิสเท็มที่ใช้โครงสร้างเดิมมาปรับ เรามีแวร์เฮ้าสเก่ามาทำโรงจอดเรือ โรงซ่อมบำรุง สตูดิโอ ฮอลล์ อนาคตตรงนี้จะเป็นเดสทิเนชั่นการท่องเที่ยว ทำลิงก์เกตไปอยุธยา ไอคอนสยาม เป็นโบ๊ทชาแนล  เพิ่มท่องเที่ยวทางน้ำให้มีชีวิตชีวา สร้างลักชัวรีทราเวลเพิ่มขึ้น จะมีการเชื่อมต่อ กับวัดโพธิ์ ตลาดยอดพิมาน ปากคลองตลาด ที่กำลังทำท่าใหม่ รวมไปถึงวันอรุณฯ เชื่อว่า เส้นทางริมแม่น้ำเจ้าพระยาจะแจ้งเกิด ร้านอาหารริมน้ำ เส้นทางท่องเที่ยวใหม่เป็นจำนวนมากหลังจากนี้”

          ปลุกตลาดประมูลรถยนต์มือสองคึกคัก

          นายอนุชาติ ดีประเสริฐ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท แอพเพิล ออโต้ ออคชั่น (ไทยแลนด์) กล่าวว่า การเปิดบริการศูนย์ประมูลรถยนต์มือสองครบวงจร”แอพเพิล”ลงทุนราว 200 ล้านบาทบนพื้นที่กว่า 50 ไร่ รองรับรถที่จะเข้ามารอการประมูลได้ 3,500 คัน ปัจจุบันเปิดให้มีการประมูลทุกวันอังคารและศุกร์แบบออฟไลน์รวมทั้งออนไลน์มีกลุ่มลูกค้าทั้งผู้ประกอบการเต้นท์รถมือสอง ลูกค้าทั่วไปเข้าร่วมประมูลจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนรายได้มาจากการขายผ่านออนไลน์ 70% ออฟไลน์ 30%

          “เรามีฐานลูกค้าทั่วประเทศ เวลานี้เปิดประมูลออนไซต์เฉพาะติวานนท์ ทุกวันอังคารและวันศุกร์ ต่างจังหวัดออนไลน์ 100% เวลานี้ นโยบายภาครัฐผ่อนผันการปรับโครงสร้างหนี้ในช่วงโควิดทำให้วอลุ่มรถที่เข้ามาน้อย แต่ตลาดก็ยังพอไปได้ด้วยดี เราเน้นไปเพิ่มจากบริษัทรถเช่า หรือองค์กรต่างๆ เปลี่ยนแหล่งที่มาจากเดิม 80% มาจากสถาบันการเงิน 15% รถเช่า และ 5% เอ็นยูสเซอร์ทั้งนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา”

          สำหรับการแข่งขันตลาดประมูล รถมือสอง ถือว่าเป็นตลาดผู้เล่นน้อยราย มีผู้ประกอบการ 7-8 ราย ซึ่งธุรกิจนี้ต้องใช้ทุนสูง มีพื้นที่รองรับไม่ต่ำกว่า 20-30 ไร่ ขึ้นไปเพื่อสามารถจอดรถได้ระดับหนึ่ง จึงเป็นโอกาสของแอพเพิลภายใต้จุดแข็งทางด้าน “เซอร์วิส” บริการประทับใจ เกรดรถ มาตรฐาน ไม่มีย้อมแมว

Reference: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ