เอพีเดินหน้าแนวราบ 12 โครงการส่งท้ายปี 2564
เอพี ไทยแลนด์ ลุยโค้งสุดท้ายปีนี้ เปิดแนวราบ 12 โครงการ รวมมูลค่า 8,570 ล้านบาท เผย 9 เดือนแรกทำกำไร 3,549 ล้านบาท คาดปลายปีสถานการณ์ต่างๆ เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น หนุนมาตรการผ่อนคลายแอลทีวี ช่วยกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์โค้งสุดท้ายของปี 2564 นั้น ปีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องเผชิญกับความท้าทายและภาวะผันผวนที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาด โดยเฉพาะมาตรการการล็อกดาวน์ที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา แต่ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีคาดว่าสถานการณ์ต่างๆ จะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ทั้งกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เริ่มดีขึ้น และจากการผ่อนคลายมาตรการ LTV ไปถึงปีสิ้นปี 2565 ถือเป็นสัญญาณบวกที่ดี ที่นอกจากจะกระตุ้นภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้ฟื้นกลับแล้ว ยังช่วยขับเคลื่อนภาคธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้อีกด้วย โดยบริษัทสามารถสร้างยอดขายรวม ณ สิ้นเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา ได้มากถึง 31,210 ล้านบาท คิดเป็น 88% จากเป้าหมายยอดขาย 35,500 ล้านบาท เป็นสัดส่วนยอดขายจากโครงการแนวราบ 28,594 ล้านบาท ขณะเดียวกันสินค้าแนวราบยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี อีกจำนวน 12 โครงการ มูลค่ารวม 8,570 ล้านบาท แบ่งเป็นทาวน์โฮม 9 โครงการ มูลค่ารวม 5,010 ล้านบาท ด้วยจุดขาย “พลิกแนวคิดชีวิตแนวตั้ง” กับทาวน์โฮมแบรนด์บ้านกลางเมือง และพลีโน่ พร้อมบ้านเดี่ยวแบรนด์เซนโทร (CENTRO) 3 โครงการใหม่ มูลค่า 3,560 ล้านบาท กับการเน้นย้ำจุดยืน “บ้านที่เข้าใจชีวิต”
ทั้งนี้ปี 2564 ถือเป็นอีกปีที่ซูเปอร์สตาร์ของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คือสินค้ากลุ่มแนวราบ สะท้อนได้จากตัวเลขทั้งยอดขายและยอดโอนของบริษัทที่ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเป็นการเติบโตแบบ Organic Growth ที่สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพขององค์กรได้อย่างชัดเจน ถึงแม้ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาเราทุกคนจะต้องเผชิญกับการล็อกดาวน์ที่ส่งผลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจอย่างมาก บริษัทยังคงรักษาสถานะการเติบโตได้อย่างคงที่ ส่วนผลการดำเนินงาน 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวมจากสินค้าแนวราบ กลุ่มคอนโดมิเนียม (รวม 100% JV) และธุรกิจอื่นๆ รวมทั้งสิ้น 30,324 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิมากถึง 3,549 ล้านบาท ด้านสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนอยู่ในระดับต่ำมากเพียง 0.56 เท่า ซึ่งทั้งหมดล้วนสะท้อนถึงความสามารถ ในการบริหารจัดการภายในองค์กร ควบคู่ไปกับการบริหารพอร์ตสินค้า และการบริหารกระแสเงินสดที่รัดกุมและมีประสิทธิภาพท่ามกลางภาวะผันผวนที่เกิดขึ้น
ด้านสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนอยู่ในระดับต่ำมากเพียง 0.56 เท่า ซึ่งทั้งหมดล้วนสะท้อนถึงความสามารถในการบริหารจัดการภายในองค์กรควบคู่ไปกับการบริหารพอร์ตสินค้าและบริหารกระแสเงินสดที่รัดกุมและมีประสิทธิภาพท่ามกลางภาวะผันผวน เอพี มีแผนพัฒนาโครงการใหม่ในปี 2564 รวมทั้งสิ้นจำนวน 24 โครงการ มูลค่าประมาณ 27,550 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นโครงการแนวราบจำนวน 22 โครงการ มูลค่าประมาณ 19,650 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมจำนวน 2 โครงการ มูลค่าประมาณ 7,900 ล้านบาท ซึ่งเปิดตัวไปแล้วทั้งสิ้น 12 โครงการ มูลค่า 18,980 ล้านบาท คงเหลือเปิดตัวอีกจำนวน 12 โครงการ มูลค่ารวม 8,570 ล้านบาท
Reference: หนังสือพิมพ์ดอกเบี้ยธุรกิจ