เตือนเปิดคอนโดล้านต้นๆ เสี่ยงแบงก์ไม่ปล่อยสินเชื่อ
นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยว่า การที่ปีนี้มีผู้ประกอบการหลายรายปรับกลยุทธ์โดยเปิดตัวคอนโดมิเนียมในราคาระดับแมสประมาณ 1 ล้านบาทต้น ๆ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายขึ้นนั้นอยากเตือนให้ระวังการปฏิเสธสินเชื่อของธนาคารและส่งผลกระทบในการโอนภายหลังจนลูกค้าขายคืนห้อง ปล่อยขายดาวน์ เนื่องจากขณะนี้ทางธนาคารยังคงเข้มงวดด้านการปล่อยสินเชื่อ โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อยในกลุ่มอาชีพที่เสี่ยงตกงาน อาทิ ผู้ที่ทำงานด้านโรงแรม ท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
“ในช่วงที่เกิดวิกฤติโควิด-19 ทางธนาคารแทบจะสวมหมวกกันน็อกปฏิเสธลูกค้า และในช่วงนี้เริ่มผ่อนคลายลงไปบ้างแต่ก็ยังเข้มงวดกว่าปีก่อน ๆ ทำให้มองว่าผู้บริโภคระดับแมสยังได้รับผลกระทบในการยื่นเรื่องขอสินเชื่อ แต่ในกลุ่มระดับกลางคอนโดมิเนียมราคา 2-3 ล้านบาท พบว่าเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นจากปลายเดือน ม.ค. 64 ที่ผ่านมา เนื่องจากเหลือเฉพาะผู้ที่มีกำลังซื้อตัวจริง โดยเฉพาะโครงการพร้อมอยู่ติดรถไฟฟ้าสายสีเขียวมีผลตอบรับดีขึ้น”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาที่ผู้ประกอบการออกมาประกาศแผนงานประจำปี 64 จะเห็นได้ว่ายังคงเปิดตัวคอนโดมิเนียมต่อเนื่องแม้จะลดปริมาณการเปิดลง และส่วนใหญ่ปรับกลยุทธ์หันมาจับตลาดแมสราคา 1 ล้านบาทต้น ๆ จำนวนมาก โดยให้เหตุผลว่าจะมุ่งตอบสนองกำลังซื้อระดับแมส ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และเชื่อว่าความต้องการที่อยู่อาศัยในกลุ่มดังกล่าวยังมีอีกมาก
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แสนสิริ กล่าวว่า บริษัทได้ปรับแผนใหม่เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมในราคา 1 ล้านบาทต้น ๆ ถึง 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกลับมาใช้แผนงานดังกล่าวอีกครั้งในรอบ 10 ปี ซึ่งขณะนี้มีทำเลที่แน่ชัดแล้วคือ ม.เกษตรศาสตร์, รามคำแหง, รัชดาฯ และบางนา เพื่อช่วยสร้างสีสันให้กับตลาดและตอบโจทย์กับลูกค้าส่วนใหญ่ที่มองหาที่อยู่อาศัยในระดับราคาที่เข้าถึงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
น.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวว่า ปีนี้ เสนาจะบุกคอนโดมิเนียมราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท เปิด 6 โครงการใหม่ เพราะมองว่าตลาดผู้ซื้อมีความต้องการคอนโดฯ ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทถือเป็นกลยุทธ์หลักและไฮไลต์ที่เสนาจะผลักดัน เนื่องจากประเมินว่ากำลังซื้อที่ยังไม่กลับมาปกติ ดังนั้นตลาดบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ซึ่งมีราคาสูงอาจไม่เหมาะกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ที่แม้ว่าคนจะชะลอการใช้จ่าย แต่ในการซื้อที่อยู่อาศัยยังเป็นสิ่งจำเป็น เพราะเป็นปัจจัยสี่ ดังนั้นกลุ่มฐานรายได้ที่ไม่มากนักและต้องการมีที่อยู่อาศัยจะเลือกซื้อคอนโดฯ ที่ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท
Reference: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์