ออริจิ้น ปูพรมอสังหาฯทุกตลาด-เซกเมนต์ ผุดบ้าน-คอนโด-มิกซ์ยูส-รร.-ออฟฟิศ 80,000 ล.
ออริจิ้นฯ ประกาศแผนธุรกิจปี 66 สร้างการเติบโตไร้ลิมิต “Origin Infinity” ลุยขยายอาณาจักรสินค้า-บริการครอบคลุมทั่วประเทศ ประกาศเปิดตัว โครงการ อสังหาฯ ทุกเซกเมนต์ มูลค่า 80,000 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้าน-คอนโดฯ 42 โครงการ มูลค่า 50,000 ล้านบาท โรงแรม-อาคารสำนักงาน-มิกซ์ยูส มูลค่า 25,500 ล้านบาท โครงการโลจิสติกส์ และคลังสินค้า 4,500 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 45,000 ล้านบาท รายได้ 19,000 ล้านบาท
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวว่า จากวิสัยทัศน์การขยายธุรกิจ ไม่ใช่เพียงกลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย แต่ครอบคลุมถึงเมกะเทรนด์ และธุรกิจใหม่ๆ เพื่อให้ครอบคลุมทุกมิติการใช้ชีวิตของผู้บริโภค โดยปี 66 ORI เดินหน้าแผนธุรกิจภายใต้แนวคิด “Origin Infinity” สร้างการเติบโตและการดูแลผู้บริโภคแบบไม่สิ้นสุด สู่Well-Being Lifetime Company องค์กรที่มีธุรกิจครอบคลุมการดูแลผู้บริโภคตลอดช่วงชีวิต ผ่านการขับเคลื่อน 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1.การขยายสินค้าและบริการให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ โดยให้ธุรกิจในเครือจะกระจายสู่ต่างจังหวัดในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เริ่มจากกลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 42 โครงการ มูลค่า 50,000 ล้านบาท ในพื้นที่ 13 จังหวัดทั่ว แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 22 โครงการ มูลค่า 27,500 ล้านบาท และบ้านจัดสรร 20 โครงการ มูลค่า 22,500 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน จะเริ่มพัฒนาโครงการโรงแรม อาคารสำนักงาน และศูนย์การค้าใหม่ในปีนี้ มูลค่า REIT ประมาณ 25,500 ล้านบาท โครงการกลุ่มโลจิสติกส์และคลังสินค้ามูลค่า REIT ประมาณ 4,500 ล้านบาท พร้อมทยอยนำธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ทั้งธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้อง กับอสังหาฯ ครบวงจรในเครือบริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) ธุรกิจบริการสุขภาพภายใต้ออริจิ้น เฮลท์แคร์ ไปให้บริการในต่างจังหวัด
“ไฮไลต์ของปีนี้ คือการนำหลายแบรนด์ กลับมารุกตลาด เพื่อให้ครอบคลุมลูกค้าหลากเซกเมนต์และสอดคล้องกับสภาพความต้องการของตลาดในปีนี้ เช่น แบรนด์ดิ ออริจิ้น กลับมาเจาะตลาดคอนโด เพื่อคน Gen Z และกลุ่มที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานหรือ First Jobber แบรนด์เบลกราเวีย กลับมาเจาะตลาดบ้านเดี่ยวลักชัวรี ขณะเดียวกัน ปีนี้จะมีการบุกไปยัง จังหวัดใหม่ๆ รวมโครงการไฮไลต์ เป็นโครงการมิกซ์ยูส กระจายตัวในหัวเมืองใหญ่หลายจังหวัด เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ ขอนแก่น โคราช ผสมผสานหลากหลายสูตร เช่น บ้าน คอนโดฯ โรงแรม ศูนย์การค้า บริการสุขภาพ ต่อยอดความสำเร็จของการพัฒนาโครงการออริจิ้น ดิสทริค แหลมฉบัง-ศรีราชา และออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง”
2. การขยายธุรกิจใหม่ ต่อยอดจากแผน Origin Multiverse ในปี 65 ด้วยการขยายธุรกิจนอกเหนือจากที่อยู่อาศัยให้ครอบคลุมการดูแลคนทุกเจเนอเรชั่น ทุกแพลตฟอร์ม ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ นำพาบริษัทย่อยที่ดูแลธุรกิจใหม่ๆ เติบโตเข้าจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์อย่างต่อเนื่องปีละ 1 บริษัท ซึ่งตามแผนงานในปี 66 มีแผนส่งบริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด เป็นธุรกิจถัดไป ตามด้วยบริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด บริษัท ออริจิ้น เฮลท์แคร์ จำกัด และบริษัท ยูไนเต็ด โปรเจคต์ แมเนจเมนท์ จำกัด โดยวัน ออริจิ้น จะมีโครงการสร้างเสร็จใหม่ในปีนี้ทั้งโรงแรม อาคารสำนักงาน อย่างต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มเฮลท์แคร์จะเริ่มวางรากฐานเปิดตัวธุรกิจใหม่ๆ อาทิ คลินิกทันตกรรม คลินิกความงาม คลินิก สัตว์เลี้ยง คลินิกเส้นผม กระจายตัวไปพร้อมกับโครงการที่อยู่อาศัยและมิกซ์ยูสเครือ ออริจิ้น โดยมีแผนเปิดสาขารวมทั้งหมด 25 แห่ง ในสิ้นปี 66
3. การดูแลสังคม ร่วมใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมในหลากหลายมิติ เพื่อสร้างสังคมที่ดีขึ้น ได้แก่ ด้านการพัฒนาบุคลากร จับมือกับสถาบันการศึกษาต่างๆ สร้าง Origin Valley ร่วมกับสถาบันการศึกษาพัฒนาทักษะคน รุ่นใหม่ให้มีความรู้ความสามารถที่ตรงกับความต้องการขององค์กรและตลาดแรงงาน รวมถึงแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อพัฒนาบุคลากร ในเครือ
“จากแผนงาน Origin Infinity มั่นใจว่าจะช่วยสร้างให้เกิดการเติบโตที่แข็งแกร่งในทุกมิติ และเป็นการกระจายการเติบโตพร้อมรับมือทุกสภาวะเศรษฐกิจ โดยปี 66 นี้ ตั้งเป้าว่า จะมียอดขายรวม 45,000 ล้านบาท และเป้ารายได้รวมอยู่ที่ 19,000 ล้านบาท”
Reference: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา