อสังหาฯ ระเบิดศึก Q2 โครงการใหม่ ทะลัก5หมื่นล.รับโหมดฟื้นประเทศ
6 ค่ายใหญ่อสังหาฯ โครงการที่อยู่อาศัย บ้าน-คอนโดฯ กระทุ้งตลาดไตรมาส 2 โหมเปิดใหม่ มูลค่ารวมทะลุ 5หมื่นล้าน แสนสิริ, เอพี ขานรับปัจจัยบวก รัฐบาลปรับโหมดฟื้นประเทศ จ่อปลดล็อกระบบ Test&Go ชาวต่างชาติ ปลุกตลาดท่องเที่ยว,ลงทุน ขณะ พฤกษา, เสนา, ศุภาลัย และ LPN ใส่เกียร์เร่ง ส่งแบรนด์ดังท้าชิงเดือด
การเตรียมยกเลิกระบบ Test&Go และการลงทะเบียนเข้าประเทศไทยผ่านระบบ Thailand Pass ปลดล็อก ข้อจำกัดในการเดินทางของต่างชาติ เพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว โดยคาดจะมีผลตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2565 อีกทั้ง นายกรัฐมนตรีประกาศกร้าว สั่งรัฐบาลปรับโหมดฟื้นเศรษฐกิจ หลังจากการควบคุมโรคโควิด-19 เข้าสู่ภาวะผ่อนคลายมากขึ้นนั้น เป็นอีกแรงผลัก ให้เอกชนเกิดความเชื่อมั่น โดยเฉพาะในภาคอสังหา ริมทรัพย์ ‘ตลาดที่อยู่อาศัย’ ซึ่งขณะนี้เห็นสัญญาณเร่งตัวอย่างชัดเจน สำรวจพบ จะเดินหน้าตามแผนธุรกิจอย่างคึกคัก
ดันคอนโดฯ 6พันหน่วยรับเปิดประเทศ
ล่าสุด นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศ ไทย บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ เจาะตลาดคอนโดมิเนียม กทม. ประเมินว่า ช่วงไตรมาสที่ 2 (เม.ย.-มิ.ย.) นี้ จะผู้ประกอบการแห่เปิดขายใหม่โครงการใหม่อีก นับ 6,000 ยูนิต ซึ่งจะส่งผลให้ช่วงครึ่งปีแรก มีซัพพลายปรับตัวขึ้นมามากกว่า 20,000 ยูนิต อีกครั้ง และส่วนใหญ่ยังคงกระจายตัวอยู่ในพื้นที่รอบใจกลางเมืองและพื้นที่กรุงเทพฯชั้นนอก รวมถึงทำเลรอบใจกลางเมืองด้วย หลังจากดีเวลลอปเปอร์ เชื่อมั่น ตลาดคอนโดฯ กทม.และเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญในปีนี้ จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง อีกทั้งหลายโครงการของผู้พัฒนารายใหญ่ ได้รับการตอบรับดี โดยบางโครง การอาจปิดการขายลงในระยะเวลาที่รวดเร็ว
‘แสนสิริ’ ลุยกว่าหมื่นล.รับปลดเงื่อนไขเข้าปท.
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เผย ‘ฐานเศรษฐกิจ’ ระบุ ในช่วงไตรมาส 2 บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ถึง 17 โครงการ มูลค่า 13,700 ล้านบาท หลังจากเห็นปัจจัยบวก ฟื้นความเชื่อมั่นอย่างชัดเจน ทั้งสถานการณ์โควิด-19 ที่จำนวนผู้ติดเชื้อยังสูงอยู่ แต่อาการไม่รุนแรง และกรณีล่าสุด รัฐบาลส่งสัญญาณผ่อนคลายการเปิดประเทศอีกขั้น โดยอาจมีการยกเลิกระบบ Test&Go เช่นเดียวกับประเทศท่องเที่ยวอื่นๆ ในฝั่งยุโรป ซึ่งตนเองเห็นด้วยอย่างมาก
เนื่องจากจะหนุนการเติบโตของจีดีพีนับหลังจากนี้ เป็นแรงบวกให้ธุรกิจโรงแรม, ภาคบริการ, กลุ่มพนักงาน และค้าขายในต่างจังหวัด ให้มีรายได้ฟื้นกลับมา เป็นแรงผลักต่อภาคที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยว ทั้งพัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างเฝ้าดูปัจจัย หากสถาน การณ์พร้อม ก็สามารถจะลุยเปิดโครงการใหม่ในเมืองท่องเที่ยวได้ทันที เพื่อรับโอกาสข้างต้น
‘การเปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยวเข้ามาได้ง่ายขึ้น ถือเป็นแรงบวกต่อภาคอสังหาฯอย่างมากคล้ายอเมริกา ,อังกฤษ ที่มองข้ามเรื่องโควิด และเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะการท่องเที่ยวทำให้คนมีรายได้เพิ่มขึ้น แม้ไทยช้าไปหน่อย แต่ดีกว่าไม่ทำ จึงเห็นด้วยที่รัฐบาลจะเร่งปลดล็อก โดยควบคู่กับแผนรับมือทางสาธารณสุขด้วย’
ทั้งนี้ ล่าสุด บมจ. เตรียมเปิดโปรดักส์ใหม่ ทาวน์โฮมหรูแบรนด์ ‘เดมี สาธุ49’ ในทำเลกลางเมือง ราคาขายเริ่ม 18.9 ล้านบาท สะท้อนความเชื่อมั่นตลาด
‘เอพี’ เชื่อปลุกตลาดลงทุนต่างชาติ
ขณะ บมจ.เอพี ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่สูงสุด นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กร และการสร้างสรรค์ เผยว่า ขณะนี้ กำลังรอดูนโยบายการเปิดประเทศและเงื่อนไขต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ว่ามีความชัดเจนอย่างไรบ้าง แต่มองว่า เมื่อ’โควิด’กลายเป็นโรคประจำถิ่น รวมถึงการฉีดวัคซีนได้ตามเป้าหมาย การเดินหน้าปลดล็อคเงื่อนไขต่างๆ ซึ่งช่วยดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาไทย จะเป็นตัวแปรสำคัญทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจจะยิ่งฟื้นตัวเร็วขึ้น โดยเฉพาะโอกาสการเข้าลงทุนในตลาดอสังหาฯ ของลูกค้าต่างชาติ ซึ่งส่งผลโดยตรงกับธุรกิจอสังหาฯ และ ผู้เช่าต่างชาติที่ห่างหายไป คาดจะทำให้ตลาดนักลงทุนปล่อยเช่ากลับมาคึกคักอีกครั้ง ทั้งนี้ บริษัท เตรียมเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ตามเป้าหมายปี 2565 สูงสุดที่ 65 โครงการ มูลค่า 7.8 หมื่นล้านบาท เฉลี่ยแต่ละไตรมาสราว 2 หมื่นล้านบาท
พฤกษา-ศุภาลัย-เสนา-LPN ลุยตามแผน
ความมั่นใจข้างต้น สอดคล้อง บมจ.พฤกษา ซึ่งระบุว่า ในช่วงไตรมาส 2 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่รวม จำนวน 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการประเภทแนวราบ จำนวน 9 โครงการ โดยจะเน้นโครงการในระดับกลาง-บน และโครงการประเภทคอนโดมิเนียม จำนวน 1 โครงการ ในทำเลรามอินทรา ซึ่งมีมูลค่าโครงการกว่า 1,000 ล้านบาท หลังจาก ประเมินทิศทางหลังเทศกาลสงกรานต์เศรษฐกิจกลับมาคึกคักขึ้น ผู้คนมีความเชื่อมั่นประกอบกับ รัฐสามารถรับมือกับโรคระบาดได้แล้ว ยิ่งเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อ
ขณะ บมจ.ศุภาลัย นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการบริษัท ประเมินว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาฯไตรมาส 2 และช่วงครึ่งปีหลัง 2565 จะเติบโตและมีแนวโน้มดีขึ้น ทั้งดีมานด์กลุ่มลูกค้า และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของรัฐ ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อต่ำ โดยเฉพาะตลาดแนวราบ ส่วนคอนโดฯทั้งในกทม.และหัวเมืองท่องเที่ยว ยังตอบโจทย์ลูกค้าตลาดระดับกลางถึงบน จึงเดินหน้า เปิดตัวโครงการใหม่ ตามแผนงานอีก 7 โครงการ มูลค่า 9,700 ล้านบาท ปูพรมทุกทำเล ทุกระดับราคา ควบคู่กับการปรับตัวตามสถานการณ์ ทั้งนี้ ตามรายงาน ศุภาลัยเตรียมเปิดขายโครงการไฮไลท์ ‘ศุภาลัย ลอฟท์ ภาษีเจริญ’ ที่จะมีจำนวนมากกว่า 1,000 ยูนิต ด้วยราคาขายเฉลี่ยเพียง 6.6หมื่นบาท/ตร.ม.
ส่วน ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับช่วงไตรมาส 2เป็นช่วงเวลา โอกาสและจังหวะที่ดีในการซื้อที่อยู่อาศัย ประกอบกับมาตรการรัฐต่าง ๆ ยังช่วยส่งพลังบวกให้กับตลาดอสังหาฯ ถึงแม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 ยังมีผู้ติดเชื้อมาก แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็ปรับตัวให้คุ้นชินกับสถานการณ์ได้ ทางเสนาคาดว่าภาพรวมตลาดอสังหาฯ และความเชื่อมั่นลูกค้าจะค่อยๆฟื้นตัว ซึ่งบริษัท เตรียมเปิดโครงการใหม่อีก 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2,700 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดฯ 4 โครงการ โดยเฉพาะแบรนด์สำคัญ ‘เสนาคิทท์’ และ แนวราบอีก 1 โครงการ
ทั้งนี้ บมจ. แอล.พี.เอ็น. เพิ่งประกาศเปิดโครงการใหม่ “ลุมพินี เพลส แจ้งวัฒนะ- ปากเกร็ด สเตชั่น” มูลค่าโครงการประมาณ 1,200 ล้านบาท ตึกสูง 26 ชั้น รวมถึง 536 ยูนิต ในราคาเริ่มต้นที่ 2 ล้านบาท โดยจะเริ่มก่อสร้างในเดือน มิ.ย.นี้ และคาดว่าแล้วเสร็จในเดือน ก.พ.2567
“กำลังรอดูนโยบายการเปิดประเทศและเงื่อนไขต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นว่ามีความชัดเจนอย่างไรบ้าง”
Reference: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ