อสังหาฯล้างไพ่แห่โละสต็อกจ้างนายหน้าอิสระหั่นกำไรชิงลูกค้า

08 May 2020 510 0

         แม้ตัวเลขผู้ป่วยโควิดในไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ภาคธุรกิจยังคงต้อง “เร่งชิง” กำลังซื้อจากลูกค้าตัวจริง (เรียลดีมานด์)  โดยเฉพาะธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ “เปิดเกมรุก” ระบายสต็อกสินค้าร้อนแรง  ผ่านหลายช่องทางการขายทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ หนึ่งในนั้น คือ การขายผ่านนายหน้าอิสระ โดยบางค่ายยอมขาดทุนกำไร หนักกว่านั้นคือหั่นราคาต่ำกว่าทุน เพื่อผลักดันยอดขาย ให้มีกระแสเงินสด เข้ามา หล่อเลี้ยงองค์กรให้เร็วที่สุด

          จากการรวบรวมของกรุงเทพธุรกิจ เมื่อต้นปี 2563 พบว่าโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2563 ของหลายบริษัทอสังหาฯมีจำนวนไม่น้อย โดยค่าย อนันดา มีมูลค่า 20,000 ล้านบาท เอสซี แอสเสท 15,000 ล้านบาท ออริจิ้น 8,000 ล้านบาท แสนสิริ 24,000 ล้านบาท  เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ 26,297 ล้านบาท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ 4,000 ล้านบาท แอล.พี.เอ็น.10,000 ล้านบาท พฤกษา 10,000 ล้านบาท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค 8,800 ล้านบาท และชีวาทัย 975 ล้านบาท เป็นต้น

          เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า การรับสมัคร นายหน้าอิสระเป็นวิธีการระบายอย่างหนึ่ง ซึ่งกลุ่มคนที่ทำอาชีพนี้อาจได้รับผลกระทบ จากโควิด จึงต้องการหารายได้ โดยนายหน้ากลุ่มนี้จะเข้ามาช่วยขายสินค้าในโครงการของเสนาฯ ทั้งหมด 17 โครงการ อาทิ โครงการ นิช ไอดี แอท ปากเกร็ด สเตชั่น, นิช ไอดี เพชรเกษม-บางแค, นิช ไอดี พระราม 2-ดาวคะนอง, นิช ไอดี เสรีไทย-วงแหวน, นิช โมโน รัชวิภา, นิช โมโน สุขุมวิท-แบริ่ง โครงการ เดอะ คิทท์ พลัส พหลโยธิน-คูคต, เสนาแกรนด์โฮม รังสิต-ติวานนท์, พัทยาคันทรีคลับ โฮม แอนด์ เรสซิเด้นท์ เป็นต้น หากสามารถขายได้จะรับค่าคอมมิชชั่นสูงสุด 5%

          เกษรา ยอมรับว่า การเพิ่มช่องทางการขายผ่านการใช้นายหน้าอิสระเป็นช่องทางหนึ่งในการเพิ่มยอดขาย จะกำหนดระยะเวลา ขายที่ชัดเจน โดยนายหน้าอิสระจะรับค่านายหน้าได้ก็ต่อเมื่อลูกค้าโอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว เรื่องที่สองคือต้องทำแพ็คเกจหรือราคาที่เหมาะสมกับความต้องการและกำลังซื้อของผู้บริโภคในกลุ่มเรียลดีมานด์ เพื่อทำให้ตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น

          ”ช่วงนี้มีหลายบริษัทเปิดรับสมัครนายหน้าอิสระให้เข้ามาช่วยขายสินค้าในโครงการ โดยมีค่าแนะนำให้กับ นายหน้าอิสระ ซึ่งมักจะใช้วิธีนี้ในช่วงวิกฤติเท่านั้น เพราะบริษัทจะมีรายจ่ายเพิ่มให้กับนายหน้าอิสระ ขณะเดียวกันในกลุ่มลูกค้าเก่าบริษัทจะเข้าไปดูแลใกล้ชิด เพื่อให้ได้รายได้เข้ามาหลังจากที่ลูกค้าโอนกรรมสิทธิ์”

          นลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวว่า ในไตรมาส 2 ของปี 2563 คาดว่าจะยังไม่เห็นการเปิดตัว โครงการใหม่ หรือถ้าเปิดก็คงจะน้อยมาก ทำให้คาดว่าภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ตลอดทั้งปีจะมีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมไม่เกิน 30,000 ยูนิต โดยจะเป็นปีแห่ง การระบายสต็อกเก่าออกที่ยังมีอยู่มากกว่า 60,000 ยูนิต

          ”ภาวะตลาดเช่นนี้ จะเกิดการสร้าง สมดุลตลาดอสังหาฯ อีกครั้ง จากที่เคยกังวลเกี่ยวกับเรื่องซัพพลายล้นตลาด แต่ตอนนี้ ซัพพลายกำลังถูกดูดซับออกไป ขณะที่ซัพพลายใหม่ ก็ยังเพิ่มขึ้นไม่มาก ส่งผลให้ เกิดการปรับฐานใหม่ของตลาดอสังหาฯ โดยเฉพาะคอนโดอีกครั้ง”

          ขณะเดียวกัน ทางบริษัทได้จัด แคมเปญ “รวมพลคอนโด หั่นราคา ต่ำกว่าทุน” เพื่อตอบรับความต้องการของ ทั้งฝั่งผู้ซื้อและผู้ขาย โดยผู้ซื้อสามารถเข้ามาหาคอนโดกว่า 1,500 ยูนิต 80 โครงการ จาก 40 ผู้ประกอบการอสังหาฯทั้งทำเล กรุงเทพฯ, พัทยา และหัวหิน มีตั้งแต่ระดับ ราคา 750,000 บาท - 83 ล้านบาท ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า ทุกระดับราคากับส่วนลดสูงสุด 40% อาทิ โครงการจากชาญ อิสสระ ให้ส่วนลดสูงสุด 6 ล้านบาท, โครงการในเครืออนันดา ให้ส่วนลด 38% หรือ โครงการ เอสเพน ลาซาล  มีโปรโมชั่นซื้อห้องตัวอย่าง ในราคาห้องเปล่าและลดเพิ่มอีก 20% พร้อมของแถม เป็นต้น

          ส่วนค่ายเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น ได้จัดโปรโมชั่นผ่อนหนักให้เป็นฟรี “SC Super Free” กับ 45 โครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ และคอนโดมิเนียม ของบริษัท ในราคาเริ่มต้น 2.39 - 60 ล้านบาท  โดยให้ลูกค้ารับสิทธิ์อยู่ฟรีสูงสุด 24 เดือนหรือฟรีค่าส่วนกลาง 5 ปี เมื่อจองโครงการตั้งแต่วันนี้ - 31 พ.ค. นี้และโอนกรรมสิทธิ์ภายในวันที่ 30 มิ.ย.นี้

Reference:

Click icon to remove from or add to favorite list
Click to choose and click "Compare" button