อสังหาฯยังกระอักQ2ราคาร่วง4%
นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยรายงานข้อมูลด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ ไทยแลนด์ ล่าสุด พบว่าดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ในไตรมาสสองของปีนี้ ปรับตัวลดลง 4% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ขณะที่ดัชนีอุปทาน หรือความต้องการที่อยู่อาศัย ลดลง 15% เมื่อเทียบไตรมาสแรกของปีนี้ สะท้อนว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของตลาดอสังหาฯทั้งฝั่งของผู้ประกอบการและฝั่งของผู้บริโภค
นางกมลภัทรกล่าวว่า ผู้ประกอบการ อสังหาฯได้ชะลอหรือหยุดการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม หันไปพัฒนาโครงการแนวราบในเขตชานเมืองหรือหัวเมืองต่างจังหวัดแทน รวมถึงให้น้ำหนักการขายบ้านผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ขณะที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะชะลอการซื้อที่อยู่อาศัย เลือกถือครองเงินสดไว้กับตัวแม้ว่าผู้ประกอบการจะหันมาแข่งขันจัดโปรโมชั่นด้านราคา ทั้งลดแลกแจกแถมเพื่อจูงใจก็ตาม เพราะผู้บริโภคยังเกิดความรู้สึกไม่มั่นใจกับสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันเพราะยังรู้สึกถึงความไม่แน่นอน มีความผันผวนเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
นางกมลภัทรกล่าวคาดการณ์ว่า ในไตรมาส 3 ปีนี้ ผู้ประกอบการอสังหาฯยังคงชะลอเปิดตัวโครงการใหม่ต่อไป โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายกลางและรายเล็กจะเน้นการเร่งระบายสต๊อกสินค้าคงค้างที่มีอยู่ในตลาดให้หมดก่อน ส่วนผู้ประกอบการรายใหญ่จะพัฒนาโครงการแนวราบเป็นหลัก ทั้งทาวน์เฮาส์ บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว เพื่อรองรับกำลังซื้อของผู้บริโภคในระดับราคาหลังละ 3 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนคอนโดคาดว่าจะหยุดพัฒนาโครงการไปอีกระยะหนึ่ง จากล่าสุดพบว่าดัชนีราคาคอนโดลดต่ำลง 4% จากไตรมาสแรกปีนี้ และลดลง 9% ในรอบ 1 ปี ซึ่งเป็นดัชนีราคาอสังหาฯ ที่ต่ำที่สุด “ช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ถือว่าตลาดอสังหาฯได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ราคาปัจจุบันยังคงมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยสำคัญคือการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลถึงสภาพเศรษฐกิจที่ต้องการเวลาในการฟื้นตัว ขณะที่หนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูงกระทบถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง” นางกมลภัทรกล่าว
Reference: หนังสือพิมพ์มติชน