อสังหาฯชู เซฟเฮเว่น ดึงกำลังซื้อหลังโควิด
”แสนสิริ -โนเบิล” ประสานเสียง คาดหลังโควิด ต่างชาติ หันซื้ออสังหาฯไทย จุดเด่น”เซฟเฮเว่น” บ้านหลังที่สองยามวิกฤติ หลังไทยคุมระบาดโควิดได้ดี
นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ประเมินสถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยว่า หลังโควิดกำลังซื้อจากลูกค้าต่างชาติ จะเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ตลาด อสังหาฯไทยฟื้นตัวเร็วขึ้น และจากความสำเร็จในการควบคุมสถานการณ์ ระบาดโควิด-19 ของไทย จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างชาติในการ ที่เข้ามาซื้ออสังหาฯไทยให้เป็น “เซฟเฮเว่น” (Safe Haven) ที่สามารถพึ่งพาได้ยามที่เกิดวิกฤติ โดยเฉพาะกลุ่มคนจีนแผ่นดินใหญ่
“ลำพังกำลังซื้อจากจีน แผ่นดินใหญ่เจ้าเดียวก็ล้นแล้ว ไม่นับรวมกลุ่มคนจีนจากฮ่องกง ไต้หวัน และประเทศอื่นๆ ที่ชื่นชอบ ประเทศไทยในมิติอื่นที่มีความ โดดเด่นอยู่แล้วคือการท่องเที่ยว น่าจะกลับมา รวมทั้งอสังหาฯที่เขาจะเข้าซื้อเพื่อเป็นที่พักพิงในอนาคตเพราะเชื่อมั่นในเรื่องความปลอดภัยทางสาธารณสุขของประเทศไทย ที่ได้รับการยอมรับ “
นายวันจักร์ ยังกล่าวว่า ขณะนี้ แสนสิริได้คุยกับโบรกเกอร์ เพื่อเตรียมความพร้อมในการติดต่อกับลูกค้าที่สนใจเข้ามาดูโครงการ ได้ทันทีที่สถานการณ์ปกติ รวมทั้งการที่ทีมงานจะเดินทางไปแนะนำโครงการในต่างประเทศ คาดว่าจะเริ่มมีกิจกรรมได้ใน3-4 เดือนข้างหน้า โดยอาจเริ่มต้นออนไลน์ก่อน ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นจีนกับฮ่องกง ตามด้วย สิงคโปร์ มาเลเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน
“จุดเด่นของแสนสิริ คือโลเคชั่น ที่ดีมีโครงการที่หลากหลาย ตั้งแต่ เดอะไลน์ ดีคอนโดจนถึง เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าหลายระดับ ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่เองและปล่อยเช่า
ด้านนายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม และกรรมการผู้จัดการ บริษัทโนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยถือว่าเดินมาถูกทาง ในการสกัดการระบาดโควิด-19 จากจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ที่ลดลงต่อเนื่อง ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี ในการเพิ่มความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย เพราะคนต่างประเทศ โดยเฉพาะคนจีนที่มองว่าประเทศไทยปลอดภัยมีระบบสาธารณสุขที่ดีสามารถรองรับคนไข้ได้ดี ซึ่งเป็นผลดีต่อการทำตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในแง่การเป็นบ้านหลังที่สองของชาวต่างชาติ
“ตอนนี้คนจีน มองว่าไทยเหมาะที่จะเป็นบ้านหลังที่สอง ในยามเกิดปัญหา โรคระบาด ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมา เราจะเริ่มเจาะตลาดออนไลน์ลูกค้าจีนมากขึ้น โดยสัดส่วนยอดขายลูกค้าต่างชาติมีสัดส่วน 40% ส่วนใหญ่ มาจากฮ่องกงกับจีนแผ่นดินใหญ่เริ่มมีดีมานด์คอนโดในราคาตั้งแต่ 3-10 ล้านบาทในกรุงเทพฯเป็นหลัก”
Reference: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ