อนันดาฯ แจงปมร้อน แอชตัน อโศก ยันถูกต้อง-รวมลูกบ้านร้องอุทธรณ์ศาลฯ
ซีอีโออนันดาฯ พร้อมทีมผู้บริหาร ฝ่ายกฎหมาย แถลงข่าวแจงโต้แย้งคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างโครงการ “แอชตัน อโศก” คอนโดฯ สูง 50 ชั้น ยันทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย บริสุทธิ์ โปร่งใส ผ่านการพิจารณาเห็นชอบจาก 8 หน่วยงาน มี 9 ใบอนุญาต ยอมรับพิพากษาเหมือนเราโดนเสียบหัวใจเลย โยนเผือกร้อน! มีโครงการในลักษณะคล้ายแอชตัน อโศก กว่า 13 โครงการ เฉพาะของ รฟม.มี 6 โครงการ จับตา!รวมลูกบ้าน ร้องอุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุด แบงก์เริ่มกังวลเคลียร์ลูกค้าผ่อนชำระ
สืบเนื่องจากที่ศาลปกครองกลาง เมื่อวันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม 2564 ได้มีคำพิพากษาโครงการแอชตัน อโศกว่า ที่ดินที่ใช้เป็นที่ตั้งของอาคารโครงการ ไม่มีด้านหนึ่งด้านใดของที่ดินยาวไม่น้อยกว่า 12 เมตร ติดถนนสาธารณะที่มีเขตทางกว้างไม่น้อยกว่า 18 เมตรยาวต่อเนื่องกันโดยตลอด จนไปเชื่อมต่อกับถนนสาธารณะอื่นที่มีเขตทางกว้างไม่น้อยกว่า 18 เมตร ตามที่กำหนดไว้ในข้อ 2 วรรคสอง ของกฎกระทรวง ฉบับที่ 33 (พ.ศ. 2535) ออกตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 นั้น
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีคำพิพากษาศาลปกครองกลางที่มีเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียม แอชตัน อโศก ว่า ที่ผ่านมา บริษัทฯดำเนินงานอย่างระมัดระวัง รอบคอบให้ความสำคัญอย่างยิ่งในเรื่องของการซื้อที่ดินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีการศึกษาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการใช้ทางเข้าออก ของ รฟม.จากโครงการอื่นๆ ซึ่งโครงการ แอชตัน อโศก ไม่ใช่รายแรกที่ใช้ทางเข้า-ออกของ รฟม.ปัจจุบันก็มีโครงการในลักษณะคล้ายกับเรา (แอชตัน อโศก) กว่า 13 โครงการ เฉพาะของ รฟม. ก็มีประมาณ 6 โครงการ
รวมถึงเรื่องการดำเนินงานขออนุมัติใบอนุญาตต่างๆ ทุกขั้นตอนอย่างถูกต้องภายใต้กฎระเบียบและข้อบังคับของภาครัฐอย่างเคร่งครัดเสมอมา และได้ผ่านการพิจารณาเห็นชอบจาก 8 หน่วยงาน ได้ใบอนุญาต 9 ฉบับ ขอความเห็นก่อนดำเนินการไม่น้อยกว่า 7 หน่วยงาน ผ่านการพิจารณาคณะกรรมการ 5 คณะกรรมการ และอนันดาฯรับผิดชอบทางผ่านให้รฟม.เกือบ 100 ล้านบาท ทำให้บริษัทฯ มั่นใจอย่างยิ่งว่า ในกระบวนการดำเนินโครงการแอชตัน อโศก ที่ผ่านมาทั้งหมด ตั้งอยู่บน พื้นฐานความถูกต้องและสุจริต ชอบด้วยกฎหมายทุกขั้นตอน
”ต้องบอกว่าวันศุกร์ที่ผ่านมา(30 ก.ค. 64) ชาวอนันดาฯ อยู่ไม่เป็นสุข ซึ่งบริษัทอนันดาฯยืนยันในความถูกต้อง สุจริตในการทำ โปร่งใส่ในการดำเนินโครงการแอชตัน อโศก มาตลอด ซึ่งบริษัทฯพร้อมที่จะเดินหน้า #SaveAshtonAsoke และเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ที่จะคุ้มครองสิทธิของประชาชนผู้ได้รับความเสียหาย ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการ และมั่นใจว่าเราจะสามารถชนะคดีนี้ได้อย่างแน่นอน”
ทั้งนี้ โครงการแอชตัน อโศก เปรียบเสมือน “เรือธง” ของอนันดาฯ เหมือนเราโดนเสียบหัวใจเลย และเราอยากสร้างโครงการที่ให้ประโยชน์สูงสุดทั้งประชาชนโดยรอบ และตัวลูกบ้านโครงการเอง ให้ได้อยู่ใกล้รถไฟฟ้ามากที่สุด เรามีการสอบถามเขตทาง มีการหารือเกี่ยวกับใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมากกว่า 20 ครั้ง แม้แต่ทางผู้ร่วมทุน มิตซุยจากประเทศญี่ปุ่น ก็เข้ามาตรวจสอบและเข้มงวดเรื่องพวกนี้มาตลอด โดยการขออนุญาตใช้ประโยชน์ที่ดินของรฟม. ก็รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินของรฟม.เป็นทางผ่าน ขณะที่เราก็ได้ความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกา สามารถนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ โดยไม่กระทบต่อวัตถุประสงค์ของการเวนคืน
อนันดาฯ เชิญชวนลูกบ้าน ร้องอุทธรณ์ศาลฯลูกค้าเงินกู้คอนโดฯ เริ่มลังเล ผ่อนต่อหรือไม่!
นายชานนท์ กล่าวว่า บริษัทยังรับทราบถึงความเดือดร้อน ความเสียหาย ความทุกข์ใจของลูกบ้าน เจ้าของร่วม 578 ครอบครัว ที่ได้เข้าอยู่อาศัยในโครงการฯ มากว่า 2 ปี ซึ่งรวมถึงครอบครัวชาวต่างชาติอีก 140 ครอบครัวจาก 20 ประเทศ ที่ต้องแบกรับภาระต่างๆ รวมถึงผล กระทบอันเนื่องมาจากระยะเวลาในการพิจารณาตามกระบวนการของศาลปกครองสูงสุดซึ่งอาจจะต้องใช้เวลานาน 3-5 ปี บริษัทฯ ทราบและตระหนักถึงความยากลำบาก ที่ลูกบ้านเจ้าของร่วมต้องเผชิญ บริษัทฯ พร้อมให้คำมั่นว่าจะยืนหยัดเคียงข้างต่อสู้ไปด้วยกันกับลูกบ้านเจ้าของร่วมและจะสู้อย่างเต็มกำลังความสามารถจนถึงที่สุด บริษัทมั่นใจว่าเราจะผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกันและเราจะได้ใช้ชีวิตปกติสุขในโครงการฯสืบไป
”เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหมือนเราโดนเสียบหัวใจเลย เราพยายามคิด แต่คิดอยู่ แต่คิดไม่ออก เราได้รับข้อความจากเจ้าร่วม ลูกค้ากังวล จะกู้แบงก์อย่างไร รีไฟแนนซ์อย่างไร ระหว่างรอคำพิพากษาจากศาลปกครองสูงสุด ควรจะผ่อนกับแบงก์ต่อหรือไม่ ขณะที่นักลงทุนก็กังวล เรามีการหารือกับลูกบ้าน ผมขอลูกบ้านไปคุยกับภาครัฐ อยากจะชวนไปอุทธรณ์ เราคนไทยด้วยกัน บ้านใหญ่คือ ภาครัฐ เราเป็นลูกบ้านในบ้านใหญ่ และเรา(โครงการ)ก็ต้องดูแลลูกบ้านต่อ เราไปคุยกับภาครัฐดีกว่าไหม”
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดาฯ กล่าวว่า “เคสนี้ จะโดมิโน่เอฟเฟกต์ทุกวงการ ทุกภาคธุรกิจด้วย ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม คอนโดมิเนียม ห้างสรรพสินค้า รวมถึงบ้านจัดสรรทั้งหมด ที่มีการเชื่อมทางกับรัฐ จุดยืนเรายืนเคียงข้างลูกค้า แบบนี้ มันกระทบกับเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของประเทศอย่างชัดเจน แต่พี่ยืนยัน อนันดาฯจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ถ้าเราดูแลลูกค้าได้ดี เราอาจจะมีผล กระทบในช่วงสั้นบ้าง แต่ในระยะยาว เราดูแลลูกค้าสุดกำลังความสามารถ ถ้าเราทำเคสนี้ได้ดี ลูกค้าก็พร้อมมา สนับสนุนอนันดาฯให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ และยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ได้”
Reference: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา