รีบย้ายจ่ายเวนคืนไฮสปีด3สนามบิน6เท่า

29 Oct 2020 1,011 0

           นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคมเปิดเผยภายหลังประชุมคณะทำงานเร่งรัดการส่งมอบพื้นที่และการรื้อย้ายสาธารณูปโภคโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) เชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภาว่า การดำเนินงานในส่วนพื้นที่สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภาทั้ง 3 ส่วน ได้แก่ 1.เวนคืนที่ดิน 2. ย้ายผู้บุกรุกออกจากพื้นที่ และ 3.รื้อย้ายสาธารณูปโภคยังเป็นไปตามกรอบเวลาที่วางไว้คาดว่าจะส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนได้ทั้งหมดไม่เกินเดือน ส.ค. 64 ตามสัญญาที่ต้องส่งมอบพื้นที่ให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี หรือเดือน ต.ค. 64

          นายชยธรรม์กล่าวต่อว่า เพื่อไม่ให้การส่งมอบพื้นที่เกิดปัญหาระหว่างดำเนินงาน จึงมอบแต่ละหน่วยไปจัดทำรายละเอียดลงลึกแต่ละจุดให้ชัดเจนว่าตรงไหนจะทำได้หรือไม่และจะมีปัญหาอะไรหรือไม่ ใครรับผิดชอบจะได้ตามถูกจุด โดยให้นำเสนอที่ประชุมครั้งหน้าเดือน พ.ย.นี้ คณะทำงานชุดนี้มีหน้าที่กำกับ ดังนั้นต้องไม่ล่าช้า (ดีเลย์) ทั้งนี้เอกชนได้แจ้งความคืบหน้าการเข้าพัฒนารถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรล ลิงก์ ด้วยว่า ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินรถจากประเทศอิตาลีเดินทางถึงไทยแล้วอยู่ระหว่างกักตัว เมื่อแล้วเสร็จจะลงพื้นที่พัฒนาทันที เบื้องต้นให้นโยบายไปว่าการพัฒนาทุกด้านต้องดีกว่าเดิมประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด

          รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งว่าขณะนี้ได้จัดทำรายละเอียดการเวนคืนที่ดินแล้วเสร็จ และแจ้งผู้ถูกเวนคืนรับทราบเบื้องต้นแล้วมีผู้ได้รับผลกระทบทั้งสิ้น 679 หลังคาเรือน 923 ไร่ 931 แปลง เวลานี้เหลือเพียงการกำหนดราคาชดเชยให้ผู้ถูกเวนคืนทุกรายโดยอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการ 3 ชุด ที่มีนายอำเภอแต่ละพื้นที่เป็นประธานคาดว่าประมาณกลางเดือน พ.ย.นี้ จะประกาศราคาที่จะชดเชยออกมาได้ จากนั้นในเดือน ธ.ค. การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะเชิญผู้ถูกเวนคืนมาทำสัญญา จะเริ่มทยอยจ่ายเงินชดเชยได้ภายในกลางเดือน ม.ค. 64 เป็นต้นไป

          รายงานข่าว แจ้งอีกว่า เดิมกรอบวงเงินที่ใช้เวนคืนประมาณไว้ที่ 3,500 ล้านบาท ใช้เวนคืนที่ดินในเมืองแล้ว 400 ล้านบาท เหลือ 3,100 ล้านบาท อาจไม่เพียงพอจึงต้องของบฯ เพิ่มประมาณ 3,000 ล้านบาท ยอมรับว่าการจ่ายเงินชดเชยผู้ถูกเวนคืนครั้งนี้ให้ราคาสูงกว่าราคาประเมิณ 3-6 เท่า เพราะมองว่าหากให้ราคาต่ำเกินไป ผู้ถูกเวนคืนจะไม่ยอมย้ายออก ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา และให้เดินหน้าโครงการต่อไปได้จึงให้ราคาที่ชาวบ้านได้รับความยุติธรรมมากที่สุด

          ส่วนการย้ายผู้บุกรุกออกจากพื้นที่  302 หลังคาเรือนนั้น ขณะนี้เคลียร์จบไปแล้ว 276 หลังคาเรือน เหลือเพียง 26 หลังคาเรือน ซึ่ง รฟท. ยืนยันว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร ขณะที่การรื้อย้ายสาธารณูปโภค 756 จุด ก็ไม่น่ามีปัญหาเช่นกัน เอกชนรายงานด้วยว่ามีแผนปรับเปลี่ยนสถานี 2 จุดบริเวณ จ.ชลบุรี และฉะเชิงเทรา ได้เร่งรัดให้เอกชนจัดทำรายละเอียดและกลับมาเสนอการประชุมครั้งหน้า โดยต้องให้ รฟท. พิจารณาอนุมัติด้วยว่าการย้ายจุดทำได้หรือไม่เมื่อย้ายแล้วจะส่งผลกระทบต่อแนวเวนคืนมากน้อยอย่างไร

Reference:

Click icon to remove from or add to favorite list
Click to choose and click "Compare" button