ริชี่เพลซ เร่งระบายสต็อกคอนโด
ลงทุนรีเทล ต่อยอด “เวลเนส” รับเมดิคัล ทัวร์ริสซึม
“ริชี่เพลซ” ประเมินเศรษฐกิจ ปี 65 “ฟื้น” พลิกคอนโดโต 10-15% เร่งระบายสต็อกพร้อมโอนมูลค่า 6 พันล้าน เปิด 2 รีเทลย่านเพลินจิต-นานา ศรีนครินทร์ เล็งลงทุน ย่านอีอีซีต่อเนื่อง พร้อมผุด 4 โครงการแนวราบ- แนวสูง ดันยอดขายทะลุ 2.3 พันล้าน โต 65%
นางอาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริชี่เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2565 น่าจะปรับตัวดีขึ้น หากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์ โอมิครอน “คงที่” ไม่ทะลุถึงหลักหมื่นคนต่อวัน เศรษฐกิจไทยขยายตัว 3-4% ตามคาดการณ์ รวมถึงปัจจัยบวกจากมาตรการรัฐ อาทิ ลดค่าธรรมเนียมโอนสำหรับอสังหาฯ ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท การผ่อนปรนมาตรการแอลทีวี และอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ จะผลักดันธุรกิจอสังหาฯ เริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมกลับมาเติบโต 10-15% จากปีที่ผ่านหดตัว 30%
นับเป็นโอกาสที่ดีของบริษัท ซึ่งมีสินค้าพร้อมโอนกว่า 6,000 ล้านบาท ที่พร้อมจะรับรู้รายได้ทันที โดยบริษัทได้กระตุ้นตลาดต่อเนื่องผ่านแคมเปญฉลองครบรอบ 20 ปี “ลดทันที 20%” ให้ส่วนลดสูงสุด 1 ล้านบาท คาดว่าจะทำให้ตลาดคึกคัก ผลักดันรายได้เติบโตตามเป้า
ริชี่เพลซ ยังเตรียมเปิดตัวค้าปลีก 2 แห่งในโครงการเดอะริช เพลินจิต-นานาและเดอะริช ศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นมิกซ์ยูส ที่พักอาศัยและรีเทล รองรับความต้องการของลูกบ้านและชุมชนใกล้เคียง คาดทำรายได้ จากค่าเช่าในปีนี้ 31 ล้านบาท และปี 2566 เพิ่มขึ้น 59 ล้านบาท
“อนาคตมีแผนขยายการลงทุน มิกซ์ยูสที่มีโรงแรมและรีเทลในโซนอีอีซี เพิ่มขึ้น รองรับนักท่องเที่ยวและกลุ่มคนที่ทำงานย่านนั้น เพื่อสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) จากปัจจุบันที่มีสัดส่วน 5% ขยับขึ้น 10% ใน 2-3ปี ข้างหน้า”
นอกจากนี้ มีแผนเปิดเซอร์วิสเรสซิเดนท์ ในโครงการ เดอะริช นานา ไตรมาส 2 หากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย เนื่องจากอยู่ในทำเลทอง “เมดิคัล ทัวร์ริสซึม” ใกล้โรงพยาบาลที่รองรับชาวต่างชาติ ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการต่อยอดธุรกิจเวลเนสในอนาคต
ในปี 2565 ยังมีแผนเปิดตัว 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการริชตัน พัฒนาการ สวนหลวง ทาวน์โฮม 2 ชั้น สไตล์ยูโรเปี้ยน 131 ยูนิต มูลค่า 500 ล้านบาท โครงการริชตัน ดอนเมือง เพิ่มสิน เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น 163 ยูนิต มูลค่า 500 ล้านบาท และ 2 คอนโดใหม่ มูลค่า 5,000 ล้านบาท ย่านพระราม 9
บริษัทได้เปิดช่องทางการรับชำระเงินค่าสินค้าด้วยสกุลเงินดิจิทัลกับบิทคับโดยรับ 4 สกุลเงิน คือ Bitcoin, Ethereum, USDT และ KUBCOIN ซึ่งขณะนี้สินทรัพย์ดิจิทัลได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับของ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น ล่าสุดมีผู้สนใจเข้ามาซื้อคอนโดด้วยเงินดิจิทัลแล้ว 1 ราย
ทั้งนี้บริษัทได้เพิ่มงบโฆษณาส่งเสริมการขายเพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ เพิ่มช่องทาง สื่อสารออนไลน์ และจัดกิจกรรมกระตุ้นลูกค้าเก่ากลับมาซื้อซ้ำ หรือบอกต่อ รวมถึง ขยายฐานลูกค้าในกลุ่มนักลงทุน คาดว่าสิ้นปีนี้บริษัทจะมียอดขาย 2,300 ล้านบาท เติบโต 63%
อนาคตมีแผนขยายการลงทุนมิกซ์ยูสโดยมีโครงการโรงแรมและรีเทลมุ่งโซนอีอีซี รองรับนักท่องเที่ยว คนทำงาน และสร้างรายได้ประจำ
Reference: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ