พลัส คว้างานบริหารนิติบุคลคอนโค-หมู่บ้าน 9 โครงการ
จากวิฤติโควิด-19 ยิ่งย้ำให้เห็นว่าทีมบริหารจัดการนิติบุคคลในโครงการคอนโดมิเนียมและหมู่บ้านจัดสรร มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการช่วยดูแลความปลอดภัยและสุขอนามัยในพื้นที่ส่วนกลาง ช่วยคัดกรองและกำกับดูแลมาตรการควบคุมโรคระบาดในพื้นที่ส่วนกลางในโครงการ
นางสาวนฤมล อาภรณ์ธนกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารอาคารที่พักอาศัย บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ระบุว่า แม้ปีนี้ภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์จะยังไม่ฟื้นตัวกลับมาสู่ภาวะปกติ และยังได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ แต่ในส่วนของตลาดธุรกิจดูแลที่พักอาศัยของพลัสฯ ยังคงเติบโตได้ เนื่องจากการดูแลโครงการยังคงมีความต้องการ
ล่าสุด พลัสฯ ได้รับความไว้วางใจเข้าดูแลบริหารโครงการที่พักอาศัยใหม่ จำนวน 9 โครงการ แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 6 โครงการ ได้แก่ โครงการ ดีฟายน์ บาย เมย์แฟร์ สุขุมวิท 50, โครงการ เดอะรีเซิร์ฟ เกษมสันต์ 3, โครงการ เดอะ ฮัดสัน สาทร 7, โครงการคิว ชิดลมเพชรบุรี, โครงการ สาทร เฮ้าส์ คอนโดมิเนียม และโครงการ ดีคอนโด อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ บูก้าน โยธินพัฒนา, โครงการ นาราสิริ ไฮด์อเวย์ และโครงการ สิริเพลส บางนา เทพารักษ์ โดยตั้งเป้าหมายปี 2564 ดูแลโครงการที่พักอาศัยรวมทั้งสิ้น 270 โครงการ โดยมีเป้ารายได้กว่า 800 ล้านบาท เติบโตขึ้นมากกว่า 15% จากปี 2563
ธุรกิจบริหารจัดการโครงการที่พักอาศัย ถือเป็นธุรกิจหลักของพลัสฯ ที่สร้างรายได้และความแข็งแกร่งให้บริษัทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพลัสฯ ก็ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว ทั้งด้านแผนธุรกิจและการยกระดับคุณภาพงานบริการอย่างต่อเนื่อง ผ่านการพัฒนาบุคลากรด้วยการเพิ่มทักษะความชำนาญจาก PLUS Eduplex สถาบันภายในที่ช่วยกำกับมาตรฐานการทำงานอย่างมืออาชีพ และเสริมทักษะความสามารถเพิ่มเติมเพื่อให้บริการอย่างรอบด้าน ผสานกับการพัฒนาเทคโนโลยีและระบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพเสริมการปฏิบัติงานให้ดียิ่งขึ้น เพื่อส่งมอบงานบริการที่ดีที่สุดอย่างมืออาชีพ ที่เข้าใจความต้องการด้านการอยู่อาศัยและดูแลลูกบ้านเหมือนคนในครอบครัว เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำอันดับ 1 ด้านธุรกิจบริหารโครงการที่พักอาศัย ที่ลูกค้าพึงพอใจและไว้วางใจให้ดูแลโครงการในระยะยาว
ในยุคปัจจุบันที่คนมีพฤติกรรมด้านการอยู่อาศัยและความต้องการด้านการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ธุรกิจบริหารโครงการที่พักอาศัยต้องปรับตัว ปรับกลยุทธ์ให้ทันเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง เพราะการดูแลโครงการที่พักอาศัยจะไม่ใช่เพียงการดูแลพื้นที่ส่วนกลางโดยทั่วไปเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการดูแลด้านการใช้ชีวิตและความเป็นอยู่ของลูกบ้านในทุกๆวัน และตอบสนองต่อเทรนด์การใช้ชีวิตยุคใหม่
Reference: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ