พร้อมเดินหน้าต่อ โครงการรถไฟฟ้ารางเบาภูเก็ต

          โครงการรถไฟฟ้ารางเบาภูเก็ต พร้อมเดินหน้าต่อ คาดใช้ได้ปี 2569 แต่ต้องปรับปรุงรูปแบบให้สอดรับกับสภาพพื้นที่ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาผู้ร่วมลงทุนที่เหมาะสม พร้อมเสนอ ครม.พิจารณาภายในปี 64

          ว่าที่ ร.ต.วิกรม จากที่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการจัดระบบการจราจรทางบกจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 1/2563 ณ ห้องประชุมคอซิมบี้ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต โดยมีคณะอนุกรรมการ ซึ่งเป็นผู้แทนจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และอนุกรรมการระดับจังหวัดทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

          ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าโครงการสำคัญๆ ของจังหวัดภูเก็ต เช่น โครงการรถไฟฟ้ารางเบา จังหวัดภูเก็ต โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต โครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต โครงการทางหลวงแนวใหม่สายบ้านเมืองใหม่-บ้านเกาะแก้ว

          สำหรับความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้ารางเบาจังหวัดภูเก็ต ผู้แทนจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และผู้แทนจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ชี้แจงความคืบหน้า ว่า ขณะนี้ทาง รฟม. ได้รับผลการศึกษาและงานออกแบบที่ สนข.ดำเนินการเสร็จแล้ว โดยมีการปรับปรุงรูปแบบให้สอดรับกับสภาพพื้นที่ที่เปลี่ยนแปลงไป ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาผู้ร่วมลงทุนที่เหมาะสม ตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการภาครัฐ พ.ศ.2562

          โครงการรถ ไฟฟ้ารางเบาจังหวัดภูเก็ตเป็นโครงการ ที่สอดคล้อ งกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนระบบการคมนาคมขนส่งของประเทศ มีเป้าหมายที่จะเพิ่มประสิทธิภาพ อำนวยความสะดวกให้เกิดความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมให้ภูเก็ตเป็นเมืองต้นแบบ หรือเป็นเมืองอัจฉริยะ Smart City

          สำหรับโครงการรถไฟฟ้ารางเบา มีระยะทาง 58.8 กิโลเมตร มี 24 สถานี แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 จากท่าอากาศยานภูเก็ต ถึงห้าแยกฉลอง ระยะทาง 41.7 กิโลเมตร มีจำนวนสถานี 21 สถานี ระยะที่ 2 จากบ้านท่านุ่นถึงบ้านเมืองใหม่ ระยะทาง 11.1 กิโลเมตร มีสถานี 3 สถานี

          เมื่อ รฟม. ได้ศึกษาวิเคราะห์การให้เอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบ ppp ตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ ปี 2562 แล้ว จะต้องนำเสนอเข้าที่ประชุม ครม. พิจารณาให้ความเห็นชอบในรูปแบบที่ศึกษาไว้ ภายในปี 2564 จะได้เริ่มคัดเลือกผู้ร่วมลงทุนซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2566 และแล้วเสร็จใช้งานได้ปี 2569

          สำหรับโครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตองจังหวัดภูเก็ต ผู้แทนจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ชี้แจงความคืบหน้า ว่า หลังจากที่เทศบาลเมืองป่าตองได้ศึกษาความเหมาะสมของโครงการดังกล่าวแล้ว กทพ. ได้ศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดโครงการ พร้อมจัดทำรายงาน PPP และส่งรายงาน EIA ให้ สผ.พิจารณา โดยผ่านการประชุมคณะกรรมการ คชก. จำนวน 9 ครั้ง

          ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2563 กรมป่าไม้ ได้อนุญาตให้ใช้พื้นที่ป่าเรียบร้อยแล้วโดย กทพ. จะได้ดำเนินการดำเนินการตามขั้นตอน PPP ต่อไป คาดว่าจะสามารถนำเสนอเข้าที่ประชุม ครม. เพื่ออนุมัติให้ กทพ. ลงนาม ในสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชนได้ภายในปี 2565 ภายหลัง ลงนามในสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชน จะได้ดำเนินการก่อสร้างและเปิดให้บริการได้ในปี 2570

          ขณะที่โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตองจังหวัดภูเก็ต มีระยะทาง 3.98 กิโลเมตร เริ่มต้นที่ตำบลป่าตอง บริเวณถนนพระเมตตา เป็นทางยกระดับข้ามถนนพิศิษฐ์กรณีย์ จนถึงเขานาคเกิด ระยะทาง 0.9 กม. จากนั้นจะเป็นอุโมงค์ ระยะทาง 1.85 กม. ต่อด้วยทางยกระดับระยะทาง 1.23 กม.สิ้นสุดโครงการที่ตำบลกะทู้บริเวณจุดตัดกับทางหลวงหมายเลข 4029

          อย่างไรก็ตาม หากโครงการนี้แล้วเสร็จจะช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัด ลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น อีกทั้งเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของพี่น้องประชาชน พัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้น ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการ ท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต

Reference: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา