ผุดรถไฟสีม่วงใต้ปลุกอสังหาฯ8หมื่นล.
รฟท.ชงบอร์ดประมูลสถานีกลางบางซื่อ
ศูนย์วิจัยฯกรุงไทยชี้ โครงการรถไฟฟ้าสีม่วงใต้ กระตุ้นตลาดอสังหาฯไม่ต่ำกว่า 8 หมื่นล้าน คอนโด-ทาวน์เฮาส์ ต่ำ 3 ล้านรับอานิสงส์ รถไฟชงบอร์ดเคาะประมูลพื้นที่พาณิชย์ สถานีกลางบางซื่อ 18 ต.ค.นี้
นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า การลงทุนโครงการพัฒนารถไฟฟ้าสายสีม่วงตอนใต้ (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) เม็ดเงินกว่า 1.1 แสนล้านบาทของภาครัฐ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการก่อสร้างราว 5 ปี ส่งผลบวกต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ธุรกิจจำหน่ายและติดตั้งงานระบบรถไฟฟ้า รวมถึงเกิดการลงทุนของภาคเอกชน โดยเฉพาะธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย คาดมีมูลค่าการพัฒนาไม่ต่ำกว่า 80,000 ล้านบาท
นายกณิศ อ่ำสกุล นักวิเคราะห์ กล่าวว่า การมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีม่วง ตอนใต้จะเป็นปัจจัยบวกสำคัญให้ยอดขายที่อยู่อาศัยในพื้นที่เตาปูนราษฎร์บูรณะมีแนวโน้มสูงขึ้น 25% จากปีละ 7,700 ยูนิต ในช่วงปี 2561-2563 เป็น 9,600 ยูนิต โดยคอนโดมิเนียมทำเลบางซื่อ และคลองสาน รวมถึงทาวน์เฮาส์ในทำเลประชาอุทิศ-พุทธบูชา ระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ต่อยูนิต และ 3-5 ล้านบาทต่อยูนิต มีโอกาสได้ประโยชน์มากที่สุด
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผย ว่า ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. วันที่ 18 ตุลาคมนี้ จะเสนอขออนุมัติออกประกาศเชิญชวนการจัดประโยชน์พื้นที่เชิงพาณิชย์ และป้ายโฆษณา บริเวณอาคารสถานีกลางบางซื่อ และสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง กว่า 5 หมื่นตารางเมตร (ตร.ม.) อีกครั้ง หลังให้จัดทำข้อมูลเพิ่มเติม โดยบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด บริษัทลูกดูแลบริหารทรัพย์สินของ รฟท.เป็นผู้ดำเนินการ “ได้นำแนวทางการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ของสนามบิน ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) มาปรับใช้ เป็นต้นแบบการทำธุรกิจในเชิงจัดสรรผลประโยชน์เท่านั้น ไม่ใช่เรื่องของราคา และไม่ได้ให้เอกชนเข้าบริหารพื้นที่ทั้งหมด จะมีพื้นที่ที่ รฟท.บริหารเอง” นายนิรุฒกล่าว และว่า เบื้องต้นมีแผนนำพื้นที่แปลง A บางส่วนทำเป็นศูนย์อาหารโดยเชื่อมต่อกับสถานีกลางบางซื่อ จำหน่ายอาหารและ เครื่องดื่มราคาปกติ
แหล่งข่าวจาก รฟท. เปิดเผยว่า คาดว่าจะให้เอกชนยื่นข้อเสนอภายในเดือนตุลาคมนี้ และเข้าบริหารพื้นที่ต้นปี 2565 โดยมีเป้าหมายพัฒนาพื้นที่ในรูปแบบช้อปปิ้งมอลล์
Reference: หนังสือพิมพ์มติชน