ผวาโควิดเมินซื้อคอนโดฯ
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้คนไทยเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเลือกซื้อที่อยู่อาศัย จากเดิมนิยมซื้อคอนโดมิเนียม หันมาซื้อบ้านจัดสรร เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และทาวน์โฮมเพิ่มขึ้น เพราะวิตกกังวลว่าการอยู่คอนโดมิเนียมและอาศัยอยู่รวมกันจำนวนมาก อาจทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 เห็นได้จากยอดการโอนซื้อขายที่อยู่อาศัยในไตรมาสแรก คอนโดมิเนียม ลดลงเหลือ 28,107 หน่วย หรือติดลบ 1.9% ขณะที่บ้านจัดสรรขายได้ 60,917 หน่วย เพิ่มขึ้น 4.7%
“ความนิยมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของคนไทยเริ่มปรับเปลี่ยนอีกครั้ง จากช่วง 9 ปีก่อนสมัยเกิดน้ำท่วมใหญ่ปี 54 ขณะนั้นคนไทยเลือกขายบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และย้ายไปอยู่คอนโดมิเนียมเพื่อหนีน้ำท่วม ทำให้คอนโดฯ ขายดีได้รับความนิยมมาก แต่ตอนนี้สถานการณ์สลับกัน พอเกิดโรคโควิด-19 ระบาด คนไทยก็เริ่มหันมาเลือกซื้อบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ แทน เพื่อเว้นระยะห่างทางสังคมมากขึ้น โดยเฉพาะบ้านใหม่ตามชานเมืองได้รับความนิยมค่อนข้างมาก”
สำหรับแนวโน้มราคาที่อยู่อาศัยในปีนี้เชื่อว่า บ้านจัดสรรจะมีราคาขยับขึ้นได้มากกว่าคอนโดมิเนียม เนื่องจากที่ผ่านมาความต้องการคอนโดมิเนียมเริ่มชะลอตัวประกอบกับมีโครงการเก่าที่เหลือค้างสต๊อกอยู่มาก โดยไตรมาสแรกราคาคอนโดฯ ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ก็ติดลบ 0.3% และทั้งปีไม่น่าจะปรับขึ้น ส่วนราคาบ้านจัดสรรยังน่าจะเพิ่มได้อยู่ โดยไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 0.6% โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวราคาขยับขึ้นสูง สุด เนื่องจากความต้อง การที่สูง และต้นทุนราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากการประเมินสถานการณ์ภาพรวมจากสถิติข้อมูลทั้งในด้านอุปสงค์และอุปทาน ศูนย์ข้อมูลฯคาดการณ์ว่าในปี 63 แม้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศจะชะลอตัว แต่ในส่วนของตลาดที่อยู่อาศัยจะไม่เกิดปัญหารุนแรงเช่นที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 41 เนื่องจากมีการปรับตัวทั้งในด้านอุปสงค์และอุปทาน ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค และในช่วงนี้ถือเป็นจังหวะดีของผู้ซื้อที่จะได้เลือกซื้อที่อยู่อาศัยราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับ 2-3 ปีก่อนหน้านี้ที่ราคาขยับขึ้นเยอะ
นายวิชัย กล่าวว่า ส่วนโครงการที่อยู่อาศัยเปิด ขายใหม่ในปี 63 ศูนย์ข้อมูลฯ ประเมินว่า เฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล จะมีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ทุกประเภทรวม 79,408 หน่วย เป็นโครงการบ้านจัดสรรเปิดตัวใหม่ประมาณ 35,734 หน่วย และอาคารชุดเปิดขายใหม่ประมาณ 43,674 หน่วย ลดลง 19.9% เมื่อเทียบกับปี 62
ส่วนการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารที่อยู่ อาศัยทั่วประเทศในปี 63 อยู่ที่ 256,601 หน่วย ลดลง 16.5% เมื่อเทียบจากปี 2562 โดยในพื้นที่กรุงเทพฯปริมณฑล จะมีการออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยจำนวน 97,441 หน่วย ลดลง 20.7% ในส่วนภูมิภาคคาดว่าจะมีการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารที่อยู่อาศัยจำนวน 154,160 หน่วย ลดลง 22.7%.
Reference: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์