นิคมฯอุดรเปิดแน่ปลายปี64

07 Apr 2021 566 0

          น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ร่วมกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เพื่อประชุมติดตามความคืบหน้าการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี ต.โนนสูง อ.เมือง พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม ว่า กนอ.ได้รายงานความคืบหน้าการพัฒนาเฟสแรกในส่วนของระบบในการก่อสร้างสิ่งสาธารณูปโภค พื้นที่กว่า 1,300 ไร่ เช่น การพัฒนาถนนและองค์ประกอบถนน งานระบบระบายน้ำฝน งานระบบน้ำเสีย ฯลฯ ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ 75% ซึ่งตามแผนการกำหนดจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย. 64

          “เชื่อว่าหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายและเปิดประเทศให้มีการเข้า ออกได้ตามปกติ จะมีนักลงทุนเข้ามาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานีมากขึ้น ซึ่งนิคมฯ แห่งนี้ จะเป็นแม่เหล็กดึงดูดการลงทุนในภูมิภาค ที่ทำให้มีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในพื้นที่ประมาณ 22,000 ล้านบาท และเกิดการจ้างงานใน นิคมฯ ไม่ต่ำกว่า 20,000 คน นอกนิคมฯ 60,000 คน และมีโรงงานอุตสาหกรรมเกิดขึ้นประมาณ 100 โรง ขณะเดียวกันจะสามารถสร้างรายได้ด้านภาษีอากรให้กับภาครัฐได้ถึงประมาณ 15,000-20,000 ล้านบาทต่อปีอีกด้วย”

          นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาศูนย์โลจิสติกส์ ปาร์ก พื้นที่ 600 ไร่ เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางการขนส่ง สินค้าทางรางและโลจิสติกส์ในภูมิภาค และยังเป็นศูนย์การขนส่งสินค้าไปยังประเทศในกลุ่มซีแอลเอ็มวี และจีนตอนใต้ รวมถึงการขนส่งทางรางไปยังท่าเรือแหลมฉบัง และพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ขณะเดียวกันในส่วนของการก่อสร้างอาคารคลังสินค้าให้เช่า ซึ่งอยู่ในแผนการพัฒนาระยะที่ 1 (64-65) ล่าสุดอาคารคลังสินค้าทั้ง 3 หลัง รวมพื้นที่ 23,160 ตารางเมตร พร้อมเปิดบริการให้เช่าแล้ว

          ทั้งนี้นิคมอุตสาหกรรมอุดรธานีตั้งอยู่ที่ตำบลโนนสูง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี พื้นที่ประมาณ 2,170 ไร่ มูลค่าการลงทุนโครงการฯ ประมาณ 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 เฟส เฟสแรกมี 1,325 ไร่ มีแผนพัฒนาพร้อมเปิดดำเนินการในปลายปี 64 และเฟส 2 จำนวน 845 ไร่ ที่มีแผนจะพัฒนาในช่วงปี 65-67 โดยอุตสาหกรรมเป้าหมายตามผังแม่บทการใช้ประโยชน์ที่ดินของนิคมฯ ประกอบด้วย อุตสาหกรรมยางพาราขั้นปลาย อุตสาหกรรมแปรรูปเกษตร อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานพาหนะ และประกอบรถยนต์

          “จุดเด่นโครงการฯ คือ อยู่ในทำเลที่ตั้งที่เป็นจุดศูนย์กลางของกลุ่มอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง และจ.อุดรธานี ถือเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นโอกาสและศักยภาพที่ดีในการส่งเสริมให้มีการลงทุนในพื้นที่เพิ่มขึ้น โดยผู้ประกอบการ จะได้รับสิทธิประโยชน์ โดยยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคล 8 ปี และสิทธิประโยชน์ด้านภาษีอากรอื่น ๆ ตามเกณฑ์ที่ตั้ง”

Reference:

Click icon to remove from or add to favorite list
Click to choose and click "Compare" button