ธนารักษ์เล็งเปิด เฟส2 ที่พักผู้สูงอายุ
“กรมธนารักษ์” เผย ยอดจองซีเนียร์คอมเพล็กซ์พุ่ง พบขอซื้อเงินสดกว่า 60% เล็งเดินหน้าเฟส 2 ต่อทันที พร้อมมอบที่ดิน 141 ไร่ ให้สาธารณสุข พัฒนาโครงการยกระดับ ท่องเที่ยวภูเก็ตสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก
นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดี กรมธนารักษ์เปิดเผยความคืบหน้า โครงการซีเนียร์คอมแพล็กซ์ หรือ “ที่พักอาศัยผู้สูงอายุรามาฯ-ธนารักษ์” ที่กรมธนารักษ์ร่วมดำเนินการกับ โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดจองเมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ มียอดจอง ทั้งสิ้น 1.2 พันราย โดยทุกราคาห้องพัก มียอดจองเต็มแล้ว เหลือเพียงราคา 1.99 ล้านบาท โดยกรมฯจะปิดจองที่พัก ผู้สูงอายุในวันที่ 4 ธ.ค.นี้ เพื่อตรวจสอบ คุณสมบัติผู้ที่ยื่นจองที่พักผู้สูงอายุ เข้ามาต่อไป
สำหรับห้องพักในโครงการผู้สูงอายุ รามาฯ-ธนารักษ์ มีทั้งหมด 5 ราคา คือ 1.82 ล้านบาท จองเกินยอด 150% ราคา 1.99 ล้านบาท ยอดจองใกล้เต็ม 100% แล้ว ราคา 2.10 ล้านบาท จองเกินยอด 200% ราคา 2.80 ล้านบาท ยอดจองเกิน 300% และราคา 2.99 ล้านบาท ยอดจองเกิน 1,500%
”หลังจากปิดจองที่พักผู้สูงอายุแล้ว ทางโรงพยาบาลรามาธิบดีจะดำเนินการ ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสุขภาพผู้สูงวัย ที่จองซื้อถึงบ้านพักผู้สูงอายุ หรือนัดให้มา ตรวจสุขภาพในโรงพยาบาลที่ใกล้บ้าน หลังจากนั้นจะดูสถานะการเงิน ซึ่งเมื่อ มีหลักฐานครบถ้วนก็จะนำรายชื่อเหล่านั้น มาจับสลากอีกรอบว่าใครจะได้สิทธิในโครงการที่พักผู้สูงอายุไป เพราะบ้านพักทุกราคา มียอดจองเกินกว่าที่กำหนด”
อย่างไรก็ตามจากการสำรวจพบว่า
ผู้ที่เข้ามาจองซื้อบ้านรามาธิบดี-ธนารักษ์ ต้องการจ่ายเงินสดถึง 60% ในขณะที่ ต้องการของสินเชื่อจากสถาบันการเงิน เพียงแค่ 40% เท่านั้น ทั้งนี้ คาดว่าโครงการนี้ จะเริ่มตอกเสาเข็มในเดือนเม.ย.2564 และเริ่มเปิดให้บริการได้ช่วงปลายปี2565 ส่วนโครงการที่พักผู้สูงอายุ ระยะที่ 2 นั้น กรมฯจะมีการจัดประชุมคณะกรรมการร่วม ประกอบด้วย โรงพยาบาลรามาธิบดี และ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ในวันที่ 8 ธ.ค.2563 เพื่อสรุปว่า จะดำเนินการ ที่พักผู้สูงอายุโครงการระยะ 2 หรือไม่ โดยจะพิจารณายอดจอง เฟสแรกประกอบการตัดสินใจด้วย
สำหรับขณะนี้ กรมฯเตรียม ที่ดินไว้สำหรับสร้างระยะ 2 แล้วประมาณ 50 ไร่ ซึ่งอยู่ติดกับ โครงการในระยะแรก
วานนี้ (3 ธ.ค.) กรมธนารักษ์ ได้จัดพิธีมอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ภก.153 (บางส่วน) จังหวัดภูเก็ต ระหว่าง กรมธนารักษ์ กระทรวง การคลัง กับกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 141 ไร่ เพื่อดำเนินโครงการ จัดสร้างศูนย์บริการทางการแพทย์ และสาธารณสุขระดับนานาชาติ ครบวงจร อาทิ ศูนย์อภิบาลสุขภาพ ผู้ป่วยสูงอายุนานาชาติ ศูนย์ใจรักษ์ และศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูครบวงจร เพื่อยกระดับท่องเที่ยวภูเก็ตสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก
Reference: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
