ชง 3 แนวค่าตั๋วบีทีเอสสีเขียว 2 สาย
ศาลาว่าการกทม.- เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าว ตามที่สภากรุงเทพมหานคร มีมติให้กทม.เร่งรัดจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย ช่วงหมอชิต- สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ หลังจากเปิดให้บริการเดินรถเต็มระบบตั้งแต่วันที่วันที่ 16 ธ.ค.2563 ซึ่งบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) ได้ว่าจ้างบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (บีทีเอส) บริหารจัดการเดินรถ โดยยังค้างค่าบริหารจัดการเดินรถเป็นเงินกว่า 1 หมื่นล้านบาท จนนำไปสู่การยื่นฟ้องต่อศาล เพื่อเรียกร้องให้กทม. จ่ายเงินค่าบริหารจัดการเดินรถ
นายสกลธีกล่าวว่า เรื่องนี้ กทม.ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ได้สั่งการให้ สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ศึกษาหาแนวทางการจัดเก็บค่าโดยสาร รถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย ขณะนี้ได้ข้อสรุปแล้ว และเตรียมเสนอผู้ว่าฯ กทม. พิจารณาเห็นชอบ
สำหรับแนวทางการจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จำนวน 16 สถานี และช่วงแบริ่ง-เคหะสมุทรปราการ จำนวน 9 สถานี มี 3 แนวทางคือ 1 ค่าโดยสาร 15 บาทตลอดสาย ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำ จะช่วยลดภาระหนี้สินบางส่วน แต่ยังคงมีหนี้ค้างชำระประมาณ 3,000 ล้านบาท 2.เก็บค่าโดยสารแบบขั้นบันไดอัตรา 15-30 บาท โดย สถานีที่ 1-5 เก็บ 15 บาท สถานีที่ 5-10 เก็บ 20 บาท ตั้งแต่สถานีที่ 11 เป็นต้นไปเก็บ 25 บาท สูงสุดไม่เกิน 30 บาท และ3.เริ่มต้น 15 บาท และปรับเพิ่ม 3 บาท/ สถานี สูงสุดไม่เกิน 30 บาท โดยแนวทางที่ 2 และ 3 จะช่วยลดภาระหนี้ แต่ยังมีหนี้คงค้าง 2,000 ล้านบาท ทั้งนี้เมื่อคำนวณอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งเส้นทางสัมปทานหลัก เก็บอัตรา 16-44 บาท และส่วนต่อขยายตลอดเส้นทาง สูงสุดไม่เกิน 89 บาท
“อัตราค่าโดยสารใหม่ ต่ำกว่าอัตราค่าโดยสารตามประกาศกรุงเทพมหานคร กำหนดอัตราค่าโดยสาร รถไฟฟ้าสายสีเขียว วันที่ 16 ก.พ.2564 ที่จัดเก็บอัตราสูงสุดไม่เกิน 104 บาท ปัจจุบัน กทม.ได้ประกาศชะลอ จัดเก็บไว้ก่อนโดยอัตราค่าโดยสารใหม่ ผู้ว่าฯกทม. พิจารณาเห็นชอบนั้น ต้องออกประกาศและประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนรับทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือนนายสกลธีกล่าว
Reference: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
