คอนโดฯ คนรักสัตว์ โตเงียบ อสังหาฯรายใหญ่ - เล็กขยับลงทุนรับดีมานด์ หลังเทรนด์คนรุ่นใหม่เลี้ยงสัตว์แก้เหงามาแรง
อสังหาริมทรัพย์
ในอดีตที่ผ่านมาการเลี้ยงสัตว์ในคอนโดมิเนียมหากจะเรียกว่าเป็นข้อห้ามเลยก็คงไม่ผิด เพราะปัญหาที่ตามมาจากการเลี้ยงสัตว์นั้น สร้างความรำคาญให้กับผู้อยู่อาศัยในคอนโด และเดือดร้อนให้แก่ผู้อยู่อาศัยร่วมในคอนโดฯด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้อง เสียงเห่าหอน หรืออุจจาระ สิ่งปฏิกูลที่เกิดจากการถ่าย หรือสิ่งปฏิกูลจากขนของสัตว์เลี้ยงที่ร่วงหล่นตามพื้น หรือทางเดิน ประกอบกับการอยู่อาศัยที่กับแบบครอบครัวทำให้พื้นที่ในการสำหรับสัตว์เลี้ยงไม่เพียงพอ ดังนั้น นิติบุคคลอาคารชุด จึงมักตั้งกฎและข้อห้ามในการนำสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงในคอนโดฯ
แต่ในปัจจุบันพฤติกรรม และไลฟสไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไปจากอดีตอย่างมาก จากที่เคยอาศัยอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว ก็แยกตัวมาอยู่อาศัยอยู่ตัวคนเดียว หรือหากอยู่ร่วมกับคู่ชีวิตก็จะไม่นิยมมีลูก ซึ่งไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมดังกล่าว นอกจากจะทำให้แนวโน้มจำนวนประชากรในประเทศลดลงแล้ว ยังก่อเกิดพฤติกรรม และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่นิยมเลี้ยงสัตว์แทนการมีลูก
สำหรับแนวโน้มการลดลงของจำนวนประชากรในประเทศ จากการมีบุตรน้อย หรือไม่นิยมมีบุตรของคนรุ่นใหม่นั้น เริ่มมีให้เห็นมากขึ้นในสังคม ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทย แต่ได้เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก อาทิ ประเทศญี่ปุ่น ประเทศเกาหลีใต้ และประเทศในฝั่งยุโรป ซึ่งสถานการณ์การเกิดใหม่ของเด็กไทยนั้น มีรายงานว่าในปี 64 สำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า ประเทศไทยมีจำนวนเด็กเกิดใหม่อยู่ที่ 544,570 คน ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่มีการเก็บสถิติ โดยอัตราการเกิดลดลงอย่างน่าใจหายเมื่อเทียบกับ 28 ปีก่อน หรือในช่วง 36-37 ที่อัตราการเกิดเกิน 950,000 คน พบว่าอัตราการเกิดของประเทศไทยนั้นลดลงไปมาก
ทั้งนี้ คนหนุ่มสาวยุคปัจจุบันมีลูกลดลงถึง 400,000 คน ต่ำสุดในรอบ 28 ปี ดูแล้วเป็นสถิติที่น่าตกใจไม่น้อย และอาจจะลดลงได้เรื่อยๆ หรือไม่ ปัญหาคนรุ่นใหม่มีลูกลดลงนี้ มีมาสักระยะหนึ่งแล้ว และถึงแม้ว่าในปี 63 แม้ว่ารัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนการมีบุตร ถึงขั้นที่ว่าต้องออกมาตรการส่งเสริมการมีบุตร ที่เรียกว่า “ปั๊มลูกเพื่อชาติ” โดยให้แรงจูงใจต่างๆ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้อัตราการเกิดใหม่เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
ซึ่งต้องยอมรับว่าในยุคนี้ค่านิยม ทัศนคติ และการเปลี่ยน แปลงทางสังคม ภาวะเศรษฐกิจ เป็นปัจจัยส่งผลให้หนุ่มสาวนิยมอยู่เป็นโสดกันมากขึ้น บ้างก็แต่งงานช้า แต่งงานช้า ความกังวลเรื่องความมั่นคงในหน้าที่การงาน หรือการที่ผู้หญิงยุคใหม่ มีการศึกษาดี หน้าที่การงานดี ไม่อยากทิ้งอนาคตหน้าที่การงานเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูก จึงชะลอการมีลูก ขณะที่กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ปี 64 ถือเป็นปีแรกที่อัตราการเกิดและตายเท่าๆ กัน จากนั้นในปีต่อๆ ไปอัตราการเกิดจะน้อยกว่าอัตราการตาย หากอัตราการเกิดบ้านเรายังต่ำเช่นนี้ คาดการณ์ว่าอีก 20 ปีข้างหน้า ประชากรไทยจะเหลือเพียง 36 ล้านคน
ปัญหาหนึ่งที่ทำให้จำนวนประชากรไทยในอนาคตลดลง คือ แนวโน้มโครงสร้างสังคมไทย ที่มีแนวโน้มเป็น “ครอบครัวเดี่ยว” และ “อยู่คนเดียว” มากขึ้น เห็นได้จากหลายคนเมื่อเข้าสู่วัยทำงาน มีรายได้ของตนเอง ก็แยกจากครอบครัวใหญ่ ออกมาซื้อคอนโดมิเนียมอยู่เอง ประกอบกับ “โลเกชัน” ของคอนโดมิเนียมโครงการต่างๆ ติดรถไฟฟ้า ทำให้สะดวกต่อการเดินทาง ส่งผลให้รูปแบบการอยู่อาศัยของคนที่ใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ กลายเป็น “Vertical Living” เพิ่มขึ้น
จากแนวโน้มโครงสร้างสังคมไทยที่จะกลายเป็นครอบครัวเดี่ยว มากขึ้นมีผลให้เทรนด์การอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม เปลี่ยนไป เพราะต้องยอมรับว่าการอยู่คนเดียว หรือสองคนในคอนโดมิเนียม ทำให้หลายคน หรือหลายๆ ครอบครัวรู้สึกเหงา.ทางออกของคนกลุ่มนี้ คือ การเลี้ยงสัตว์ หรือ “สัตว์เลี้ยง” มาอยู่เป็นเพื่อน ไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือแมว ด้วยเหตุนี้เองทำให้ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง มีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันทำให้เทรนด์การพัฒนาคอนโดมิเนียม เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มเฉพาะเจาะจงขยายตัวมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนรักสัตว์ หรือต้องการเลี้ยงสัตว์เพื่อคลายเหงา หรือทดแทนการมีลูก
โดยเทรนด์ดังกล่าวทำให้ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาผู้ประกอบ การอสังหาฯ หันมาพัฒนาคอนโดฯเลี้ยงสัตว์ได้ เพิ่มมากขึ้น การพัฒนาคอนโดมิเนียมที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้จึงเป็นการฉีกกรอบ และอุปสรรคสำคัญในการเลี้ยงสัตว์ของผู้อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมในอดีตอย่างสิ้นเชิง ทั้งนี้ การขยายตัวของดีมานด์กลุ่มคนรักสัตว์ทำให้ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา มีโครงการคอนโดฯเลี้ยงสัตว์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปัจจุบันมีโครงการคอนโดฯที่เลี้ยงสัตว์ที่เปิดตัวไปแล้วไม่น้อยกว่า 35-40 โครงการหรือประมาณ 6,000-8,000 หน่วย
สำหรับโครงการคอนโดฯที่เลี้ยงสัตว์ได้นี้ มีทั้งบริษัท อสังหาฯรายใหญ่และรายเล็กในตลาดทยอยก้าวเข้ามาพัฒนาโครงการใหม่เพื่อรองรับดีมานด์ที่เติบโตขึ้น เช่น บมจ.เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ บมจ.ออริจิ้น ดีเวลลอปเม้นท์ บมจ.ศุภาลัย บมจ.แสนสิริ บมจ.ไรมอนแลนด์ บมจ.อนันดา ดีเวลทอปเม้นท์ บมจ.ไซมิส แอสเสท จำกัด ฯลฯ
การพัฒนาคอนโดฯทางเลือก “Pet Lovers” เพื่อรองรับความต้องการลูกค้าที่อยากดูแลสัตว์เลี้ยงของตนเอง นับว่าเป็นการตอบโจทย์ลูกค้าที่มองหาคอนโดมิเนียมที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้อย่างเปิดเผย ซึ่งดีมานด์ในกลุ่มนี้มีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่องจนทำให้บริษัทอสังหาฯหลายๆ ค่ายมองเห็นแนวโน้มการขยายตัวของดีมานด์ และขยับเข้ามาพัฒนาคอนโดฯตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้อย่างจริงจัง โดยผู้นำคอนโดฯเลี้ยงสัตว์ได้ในปัจจุบัน ที่มีการพัฒนาโครงการตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้อย่างจริงๆ จังๆ เป็นรายแรกๆ คือบริษัท เมเจอร์ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
”เมเจอร์ฯ” นับว่าเป็นบริษัทอสังหาฯรายแรกๆ ที่ริเริ่มการพัฒนาคอนโดฯในคอนเซ็ปต์ “Pet-Friendly Residences” เพื่อตอบโจทย์คนรักสัตว์ ไปพร้อมๆ กับการพัฒนาสิ่งแวดล้อม และสิ่งอำนวยความสะดวก รองรับการดูแลสัตว์เลี้ยงภายในคอนโดฯ ทั้งการกำหนดน้ำหนักของสัตว์เลี้ยงให้เหมาะสมกับพื้นที่ภายในห้อง คือไม่เกิน 15 กิโลกรัมต่อพื้นที่ 50 ตารางเมตร จัดพื้นที่ส่วนกลางให้วิ่งเล่น และกำหนดกฎเกณฑ์สำหรับผู้ที่ต้องการเลี้ยงสัตว์ไว้ โดยเฉพาะ เพื่อให้ลูกบ้านทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เช่น การตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยงและลงทะเบียนก่อนเข้าพักอาศัยประจำปี รวมถึงระเบียบการใช้พื้นที่ส่วนกลางต่างๆ ของสัตว์เลี้ยง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นฟังก์ชันที่ตอบโจทย์และรองรับการเลี้ยงสัตว์สำหรับลูกค้าในโครงการคอนโดฯ
นอกจากนี้ เมเจอร์ฯ ยังได้ทำคลิปวิดีโอการแนะวิธีการดูแลสัตว์เลี้ยงสำหรับลูกค้าบ้านในโครงการ อย่างมาอย่างต่อเนื่องโดยล่าสุดได้ปล่อย “ฮ่อง.ฮ่อง The Series By Major Develop ment” วิดีโอซีรีส์ 8 ตอน นำแสดงโดย “บูตะ” และ “คากิ” เฟรนช์ บูลด็อกสายฮา ปนความน่ารัก รับหน้าที่ให้คำแนะนำ Tips การเลี้ยงน้องหมาในคอนโดฯเพื่อให้เจ้าของสัตว์เลี้ยง และคนทั่วไปได้เข้าใจว่าการเลี้ยงสัตว์ในคอนโดฯที่ดีนั้นต้องทำอย่างไร สอนการขับถ่าย ใช้สายจูง หรือการเล่นของเล่นในคอนโดฯแบบง่ายๆ เป็นต้น
ขณะที่ บริษัท ออริจิ้น คอนโดมิเนียม จำกัด คือ บริษัท อสังหาฯรายล่าสุดที่รุกเข้าตลาดนี้อย่างต่อเนื่อง โดย อภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า พฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่ม Gen Y และ Gen Z ในปัจจุบัน มีความเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตค่อนข้างมาก โดยเฉพาะแนวโน้มเรื่องการมีบุตร ที่คนรุ่นใหม่มีแนวโน้มมีบุตรช้าลง หรือไม่มีบุตรเลย และหันมาเลี้ยงสัตว์แทนการมีบุตร กลายเป็นเมกะเทรนด์ Pet Humanization หรือการเลี้ยงสัตว์เสมือนสมาชิกในครอบครัว ส่งผลให้วิถีชีวิตและความต้องการในที่อยู่อาศัยเปลี่ยนแปลงตาม
”เราในฐานะที่เป็นผู้นำตลาดคอนโดมิเนียม Gen Y และ Gen Z เราจึงให้ความสำคัญกับตลาดคอนโดฯสำหรับ Pet Lover อย่างมาก เพื่อเป็นคอนโดมิเนียมทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค เราศึกษา Insight ของผู้บริโภค สิ่งที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตและเลี้ยงสัตว์ในคอนโดมิเนียม ตลอดจนแนวทางการออกแบบ พร้อมทั้งพัฒนาโครงการกระจายตัวต่อเนื่องในทุกทำเล” อภิสิทธิ์ ระบุ
ปัจจุบัน ออริจิ้นพัฒนาคอนโดมิเนียมสำหรับ Pet Lover รวม 6 โครงการ ครอบคลุมรถไฟฟ้าหลากหลายสายทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล อาทิ ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ รามอินทรา (Origin Plug & Play Ramintra) ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ อี 22 สเตชั่น(Origin Plug & Play E22 Station) ออริจิ้น เพลย์ ศรีอุดม สเตชั่น (Origin Play Sri Udom Station) บริกซ์ตัน เพ็ท แอนด์เพลย์ พหล 50 สเตชั่น (Brixton Pet & Play Phahol 50 Station) โดยมี 2 โครงการที่ได้รับการตอบรับอย่างยอดเยี่ยมจน Sold Out คือออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ สิรินธร (Origin Plug & Play Sirindhorn) และบริกซ์ตัน เพ็ท แอนด์ เพลย์ สุขุมวิท 107 (Brixton Pet & Play Sukhumvit 107)
ด้วยความเข้าใจและใส่ใจลูกค้า Pet Lover ออริจิ้น จึงสร้างสรรค์ 3 สิ่ง เพื่อมัดใจผู้บริโภคตลาดนี้ ได้แก่ Pet Lover Design ออกแบบโดยคัดเลือกวัสดุที่คำนึงถึงการใช้ชีวิตของ ทั้งคน และสัตว์เลี้ยง อาทิ พื้นที่ถนอมข้อต่อสัตว์เลี้ยง, Pet Con sole ชั้นคอนโซลแบบ 2-in-1 ปรับฟังก์ชันให้เป็นบ้านของสัตว์เลี้ยงได้, เฟอร์นิเจอร์ทนรอยขีดข่วน ก๊อกน้ำเตี้ยสำหรับอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยง Air Tight Rubber ยางรองกรอบประตูปิดสนิท แน่นหนา ช่วยกันเสียงสัตว์เล็ดลอด และ CCTV ให้เจ้าของสามารถคุยและดูสัตว์เลี้ยงได้แบบเรียลไทม์
Pet Solution มีพื้นที่ส่วนกลางตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนและสัตว์เลี้ยง เช่น Cat Club, Dog Yard, Walking Track, Pet Park และเพิ่มบริการดูแลสัตว์เลี้ยงภายในโครงการ ทั้งบริการ Pet Taxi บริการอาบน้ำตัดขน Pet Hotel Pet Con cierge รับฝากสัตว์เลี้ยง บริการรับส่งไปรักษาที่โรงพยาบาล รวมถึงเตรียมเปิดให้บริการคลินิกสัตว์เลี้ยงภายใต้การดูแลของ ออริจิ้น เฮลท์แคร์ภายในปีหน้า
Pet Privilege ออริจิ้นยังร่วมกับโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกบ้าน เช่น สิทธิ์ในการเป็นสมาชิกอัตโนมัติในระดับ Gold Member ส่วนลดแพกเกจตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยงและค่าบริการต่างๆ พร้อมจัดกิจกรรม Pet Lover บริการตรวจสุขภาพให้กับน้องหมาน้องแมว บริการฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าให้กับลูกบ้าน และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างถูกวิธี โดยทีมสัตวแพทย์จากโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ
นอกจากคอนโดฯที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ทั้งอาคาร ในคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์บางโครงการ เรายังเปิดทางเลือกแบบ Mix คือแบ่งสัดส่วนผสมผสาน ให้มีทั้งอาคารที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ และไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์ แต่ถูกใจทำเลศักยภาพ ใกล้รถไฟฟ้าของโครงการคอนโด มิเนียมเครือออริจิ้น สามารถอาศัยอยู่ร่วมกันได้ ทั้งคนไม่เลี้ยงสัตว์ คนที่เลี้ยงสัตว์ และสัตว์เลี้ยง
หลังจากนี้ ออริจิ้น ยังเตรียมจะเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมสำหรับ Pet Lover อีกอย่างน้อย 4 โครงการ กระจายอยู่ในทำเลรามคำแหง และหลากทำเลฝั่งธนบุรี เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในตลาดนี้ทุกทำเล และเตรียมพร้อมพัฒนาสิ่งใหม่ๆ สำหรับตลาดนี้อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด “ออริจิ้น คอนโดมิเนียม” ยังคงเดินหน้าบุกตลาดคอนโดมิเนียมสำหรับกลุ่ม Pet Lover อย่างต่อเนื่อง โดยใน ครึ่งแรกปี 66 บริษัทมีแผนเปิดตัวคอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้โครงการใหม่ถึง 5 โครงการ ภายใต้ 3 แบรนด์ดัง ได้แก่ ออริจิ้น เพลส (Origin Place) ดิ ออริจิ้น (The Origin) และ ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play) มูลค่าโครงการรวมประมาณ 9,360 ล้านบาทครอบคลุมทำเลรถไฟฟ้าหลากสาย ทั้งสายสีเขียว สายสีน้ำเงิน สายสีส้ม สายสีเหลือง และครอบคลุมพื้นที่ทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล
สำหรับ 5 คอนโดมิเนียม Pet Lover ดังกล่าว ประกอบด้วย 1. ออริจิ้น เพลส พหลฯ 59 สเตชั่น (Origin Place Phahol 59 Station) 2. ออริจิ้น เพลส รามคำแหง 153 (Origin Place Ramkhamhaeng 153) 3. ออริจิ้น เพลส เพชรเกษม (Origin Place Phetkasem) 4. ดิ ออริจิ้น บางแค (The Origin Bangkae) และ 5. ออริจิ้น เพลย์ ศรีลาซาล สเตชั่น (Origin Play Sri Lasalle Station) โดยราคาเริ่มต้น อยู่ที่เพียง 1.2 ล้านบาท
สำหรับเทรนด์การเลี้ยงสัตว์ในคอนโดฯในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รักสัตว์ และนิยมเลี้ยงสัตว์แทนมีลูกนั้น มีปัจจัยหลากหลายปัจจัยที่ทำให้แนวโน้มดีมานด์ในกลุ่มนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คือ เลี้ยงสัตว์ ค่าใช้จ่ายไม่สูงและมีข้อผูกมัดน้อย สาเหตุหลักๆ ที่คนสนใจเลี้ยงสัตว์ ส่วนหนึ่งด้วยหน้าตาสุดน่ารักและนิสัยแสนขี้อ้อนที่ทำให้เหล่าทาสรู้สึกแฮปปี้ที่ได้ใกล้ชิด หากมองถึงดีเทลลึกลงไปอีกยังพบว่าสัตว์เลี้ยง เป็นเหมือนเพื่อนเล่นคลายเหงาและช่วยเยียวยาจิตใจให้กับเจ้าของไปในตัว ซึ่งทำให้พวกผู้เลี้ยงรู้สึกมีชีวิตชีวาและบรรเทาความเครียด เมื่อพูดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายการเลี้ยงสัตว์ เช่น เลี้ยงสุนัขต้องมีเงินอย่างน้อย 600-10,000 บาท/เดือน/ตัว หรือเลี้ยงแมวควรมีเงินอย่างน้อย 350-2,600 บาท/ เดือน/ตัว เมื่อเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงเด็กคนหนึ่งต้องใช้เงินมากกว่าหลายเท่าตัว เฉลี่ยอยู่ในช่วงประมาณ 3,000-20,000 บาท/เดือน/คน รวมถึงค่าเล่าเรียนทั้งหมด (ขั้นต่ำ) ที่ต้องจ่ายทุกเทอมหลายสิบปีตั้งแต่เด็กจนโตประมาณ 1.5 ล้านบาท ซึ่งในยุคที่เศรษฐกิจซบเซา เกิดความไม่แน่นอนในสังคมและสภาพแวดล้อมอาจทำให้คนรู้สึกว่า ตัวเองน่าจะรับมือไหวกับค่าใช้จ่ายเลี้ยงสัตว์มากกว่าเด็ก
อีกปัจจัยหนึ่งคือ ‘เวลา’ เนื่องจากไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่รักอิสระในการใช้ชีวิต การเลี้ยงสัตว์ตอบโจทย์พวกเขาในการได้ทำสิ่งที่ชอบ และยังพอมีเวลาอิสระทำในสิ่งที่รักอย่างอื่น เช่น แมวสามารถจัดการชีวิตตัวเองได้ อย่างเวลาจะกิน ขับถ่าย หรือทาสแอบไปเที่ยวข้างนอกก็ยังอยู่ได้ แต่การเลี้ยงลูก คนเป็นคุณพ่อคุณแม่ต้องคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง อาจทำให้มีเวลาอิสระส่วนตัวในการทำสิ่งที่ต้องการน้อยลง
สภาพแวดล้อมไทยไม่เอื้อแก่การมีลูก ไม่เพียงทั่วโลกที่เป็นโสดมากขึ้น คนไทยเองก็เป็นเช่นกัน รวมทั้งครอบครัวคนรุ่นใหม่ก็มีแนวโน้มที่จะไม่มีลูก เนื่องด้วยข้อจำกัดต่างๆ ดังกล่าว รวมไปถึงสภาพแวดล้อมทางสังคมและเศรษฐกิจของไทยเองอาจจะไม่ได้เอื้ออำนวยมากนัก เนื่องด้วยสวัสดิการที่ส่งเสริมการมีบุตรไม่เพียงพอต่อค่าครองชีพ ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา หรือการใช้ชีวิตในเมืองที่ไม่ปลอดภัย
ด้วยปัจจัยต่างๆ ดังกล่าวทำให้ในปัจจุบัน เทรนด์หรือ แนวโน้ม และโครงสร้างครอบครัวไทยในเมืองใหญ่ มีสภาพเป็นครอบครัวเดี่ยว หรือครอบครับไม่นิยมมีลูก แต่หันมาเลี้ยงสัตว์เป็นเพื่อนแก้เหงา หรือเลือกเสมือนลูกเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ได้ส่งผลโดยตรงกับการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มดังกล่าวมีการเติบโตอย่างเช่นในปัจจุบัน และยังมีแนวโน้มจะขยายตัวสูงขึ้นในทุกๆ ปี สังเกตได้จากการก้าวเข้ามาพัฒนาคอนโดฯเลี้ยงสัตว์ได้ ของผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ ในตลาดที่เพิ่มมากขึ้น โดย บมจ.ศุภาลัย คือหนึ่งในผู้พัฒนาโครงการคอนโดฯเลี้ยงสัตว์ได้รายล่าสุด