กานดา ลุยปี 64เปิด5โครงการ ยอดขาย3.2พันล.
“กานดา พร็อพเพอร์ตี้” กางแผนรุก-รับอสังหาฯปี 64 ผุด 5 โครงการบ้านแนวราบ พร้อมลุยตลาดเมืองพัทยา วางเป้าเติบโตอย่างมั่นคงโดยนำที่ดินในมือมาพัฒนา ชะลอซื้อที่ดินใหม่ ตั้งเป้าขายทะลุ 3,200 ล้านบาท เดินหน้าปรับกลยุทธ์รับมือตลาดแข่งขันสูง แย้มแผนเจาะตลาดบ้านต่ำกว่า 1.6 ล้าน
นายหัสกร บุญยัง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ในปี 64 บริษัทได้ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ สร้างการเติบโตที่ต่อเนื่อง โดยในปี63 ได้ขยายทำเลโดยการเปิดโครงการใหม่เพิ่มที่โซนเทพารักษ์-บางบ่อ ได้แก่ ไอลีฟ พรีม่า เทพารักษ์-บางบ่อ ทั้งในส่วนที่เป็นทาวน์โฮม “ไอลีฟ ทาวน์” และบ้านเดี่ยว-บ้านแฝด “ไอลีฟ พาร์ค” ทั้งนี้แม้ว่าในปี 63 เศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงต้นปี แต่บริษัทยังทำไปได้มากกว่า 3,000 ล้านบาท และมีรายได้จากการโอน 1,950 ล้านบาทต่ำกว่าเป้า เล็กน้อย
สำหรับปี 64 นี้ ภาพรวมของเศรษฐกิจไม่น่าจะแย่กว่าปี 63 เชื่อว่าประสบการณ์การ Lock Down ในปีก่อนจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แต่ละบริษัทในการบริหารจัดการ ประคับประครองสถานะการเงินและบุคลากรของบริษัทได้อย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และคาดว่าเศรษฐกิจในปี 64 จะชะลอตัวในครึ่งปีแรก และฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
โดยตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบในปี 64 ความต้องการคงไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่มีกลุ่มซื้อคอนโดมิเนียมเปลี่ยนมาซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบมากขึ้น ผู้เล่นในตลาดมากขึ้น การแข่งขันในแต่ละทำเลจะสูงขึ้น แต่ละบริษัทจะมีการจัดแคมเปญ โปรโมชันที่เข้มข้นมากขึ้น เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด ซึ่งจะทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ทั้งนี้ ในปี 64 บริษัทเน้นการเติบโตอย่างมั่นคง และมีสถานะการเงินที่แข็งแรง ชะลอการซื้อที่ดินใหม่ และนำที่ดินที่มีอยู่มาพัฒนา โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 3,300 ล้านบาท เป้ารายได้ 2,200 ล้านบาท และมีแผนเปิดโครงการใหม่ 5 โครงการ มูลค่ารวม 3,631 ล้านบาท คือ 1. ไอลีฟ ไพร์ม ประชาอุทิศ 90 ทาวน์โฮม 211 ยูนิต มูลค่า 441 ล้านบาท 2. ไอลีฟ ไพร์ม 2 พระราม ๒ กม. 14 บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 228 ยูนิต มูลค่า 805 ล้านบาท 3. ไอลีฟ พัทยา-จอมเทียน ทาวน์โฮม 384 ยูนิต มูลค่า 875 ล้านบาท บนทำเลใหม่ในปีนี้ 4. ไอลีฟ ไพร์ม 2 ประชาอุทิศ 90 ทาวน์โฮม 268 ยูนิต มูลค่า 541 ล้านบาท และ 5. ไอลีฟ ไพร์ม 2 วงแหวน-รังสิตคลอง 4 ทาวน์โฮม 460 ยูนิต มูลค่า 969 ล้านบาท
”เมื่อรวมกับโครงการที่อยู่ระหว่างการขายก่อนหน้าในปี 64 กานดาฯ จะมี 17 โครงการ ใน 9 ทำเล มูลค่ารวมกว่า 9,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังมีที่ดินรอการพัฒนาในอนาคตมูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท”
นายหัสกร กล่าวว่า อีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยสร้างการเติบโตให้กับบริษัท คือการขยายกลุ่มลูกค้าเพิ่ม จากเดิมผลิตภัณฑ์จะอยู่ในระดับราคา 2 ล้านบาทขึ้นไปเป็นหลัก ขณะนี้กำลังศึกษาความเป็นไปได้ที่จะขยายกลุ่มลูกค้าในตลาดที่ราคาต่ำกว่า 1.6 ล้านบาทลงมา ซึ่งเป็นตลาดที่ยังมีความต้องการซื้อสูง แต่ยังติดปัญหาเรื่องของต้นทุนการพัฒนาโครงการในปัจจุบันที่เพิ่มสูงขึ้น หัวใจหลัก คือ ต้นทุนที่ดินต้องถูก ซึ่งจะต้องขยับออกมานอกเมือง แต่ต้องมีแหล่งงานรองรับ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเรื่องของการขยายกลุ่มลูกค้าในเร็วๆ นี้
Reference: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา