กนอ. เล็งงัดโปรฯ พิเศษดึงลงทุน
น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กนอ.ที่มีนายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานมีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมและผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่ประสบกับปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบัน ประกอบกับเป็นการจูงใจให้ผู้ประกอบการมาลงทุนหรือขยายการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งประกอบด้วย 1.การลดค่าบำรุงรักษาที่ กนอ.เรียกเก็บกับผู้ใช้ที่ดินทุกรายในอัตรา 10% เป็นระยะเวลา 4 เดือน (มิถุนายนกันยายน 2563) 2.การยกเว้นการจัดเก็บค่าบริการอนุญาตการประกอบกิจการในนิคมอุตสาหกรรมทั้งหมด 11 รายการ เป็นระยะเวลา 4 เดือนเช่นกัน และ 3.การยกเว้นหรือลดหย่อนค่าเช่าที่ดินและอาคาร แบ่งเป็น 2 กรณี คือ กรณีผู้เช่าที่ชำระค่าเช่าเป็นรายเดือน ยกเว้นค่าเช่า ระยะเวลา 3 เดือน (เมษายน-มิถุนายน) และกรณี ผู้เช่าที่ชำระค่าเช่าเป็นรายปี ลดหย่อนค่าเช่าอัตรา 25% ของค่าเช่าปี 2563 เป็นระยะเวลา 3 เดือนเช่นกัน
น.ส.สมจิณณ์กล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรม โดยลดหย่อนค่ากำกับบริการ อัตรา 10% ของค่ากำกับบริการปี 2563 และมาตรการสนับสนุนอื่นๆ อาทิ การขยายระยะเวลาการชำระค่าบริการและค่าธรรมเนียมที่ กนอ.เรียกเก็บจากเดิมที่ต้องชำระภายใน 20 วัน นับจากวันได้รับใบแจ้งหนี้ เป็น 60 วัน นับจากวันได้รับใบแจ้งหนี้ ขยายระยะเวลาการชำระค่าเช่าที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมได้จนถึงเดือนกันยายน 2563 และสามารถแบ่งชำระได้โดยจะต้องชำระให้ครบถ้วนภายในเดือนกันยายน 2563 ไม่มีดอกเบี้ย ขณะที่ ผู้เช่าที่ดินหรือทรัพย์สิน กนอ. สามารถขอคืนหลักประกันสัญญาเช่าที่ดินส่วนที่เป็นเงินสด โดยนำหนังสือค้ำประกันของธนาคารภายในประเทศในมูลค่าที่เท่ากันมาวางแทน ทั้งนี้ ผู้เช่าต้องที่มีระยะเวลาการเช่าไม่น้อยกว่า 5 ปี และปรับลดอัตราเงินเพิ่มพิเศษเนื่องจากการชำระล่าช้ากว่ากำหนด จากอัตรา 15-18% เป็นอัตรา 6% ต่อปี
”เร็วๆ นี้ กนอ.ยังเตรียมออกโปรโมชั่น ใหม่และข้อเสนอพิเศษให้กับนักลงทุนมากขึ้นเพื่อดึงดูดการลงทุนเข้ามาในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน (เอสอีแซด) เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและรองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการลงทุนที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต” น.ส. สมจิณณ์กล่าว
Reference: หนังสือพิมพ์มติชน