อสังหาฯหาแลนด์แบงก์ปั้นพอร์ตแนวราบ

02 มี.ค. 2564 497 0

          ตลาดอสังหาฯไทยยังไร้ทิศทางฟื้นตัว จากปัจจัยลบที่รุมเร้าทั้งในต่างประเทศ ทำให้ดีมานด์หดตัวต่อเนื่อง ขณะที่ซัปพลายยังล้นตลาด ด้านดีเวลลอปเปอร์พยายามปรับตัว หันลงทุนในตลาดบ้านแนวราบ เซ็นจูรี่ 21 ขยับปรับพอร์ตรองรับ

          นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานและผู้ก่อตั้ง บริษัท เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงทิศทางการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในปี 2564 ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยจะยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัวไปอย่างน้อยอีก 1-2 ปี เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจทั่วโลก

          ขณะที่ไทยยังต้องพึ่งพิงการส่งออก และการท่องเที่ยวจากต่างชาติ เมื่อภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกยังไม่ฟื้นตัว และยังไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก ประกอบกับวัคซีนยังไม่สามารถทำให้เกิดความเชื่อมั่นได้ทันที ซึ่งต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง ทำให้กำลังซื้อต่างชาติไม่ว่าจะซื้อเพื่อการลงทุน หรือซื้อเพื่ออยู่อาศัย ในขณะนี้ต้องถือว่าเป็นศูนย์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดคอนโดมิเนียมโดยตรง

          ภาพการฟื้นตัวของกำลังซื้อในภาคอสังหาฯจะยังคงไม่ชัดเจนไปอีก 2 ปีนับจากนี้ และจะไม่สามารถกลับไปเฟื่องฟูเหมือนเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกยังชะลอตัว ในขณะที่ภาระหนี้ครัวเรือนยังสูง ประกอบกับความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินจะเพิ่มมากขึ้น”

          นายกิติศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในภาวะที่ตลาดคอนโดยังคงชะลอตัวระยะยาว เพราะการฟื้นตัวกลับมาคงต้องใช้เวลา ซึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาตลาดคอนโดถือว่าอยู่ในราคาที่สูงสุดแล้ว เวลานี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ราคามีโอกาสที่จะลดลง ซึ่งคาดว่า Price War ในตลาดคอนโดจะยังมีต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้

          ส่วนตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบ ยังคงมีความต้องการซื้อจริง (Real Demand) อยู่ตามทำเลต่างๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะผลักดันราคาที่ดินสำหรับการพัฒนาโครงการขึ้นได้ทั้งตลาด โดยจะปรับขึ้นเฉพาะในทำเลที่มีความต้องการสูง ทำให้ราคาที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการแนวราบโดยภาพรวมไม่ได้แกว่งตัวมากนัก

          หลายคนอาจจะมองว่าเมื่อภาวะตลาดอสังหาฯ ชะลอตัว แต่ทำไมราคาที่ดินถึงไม่ลดลงเหตุผลสำคัญของการจะลดราคาหรือไม่ลดขึ้นอยู่กับเจ้าของที่ดินจะยอมลดจากราคาที่ตั้งไว้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความจำเป็นทางด้านการเงินของคนที่เป็นแลนด์ลอร์ด แต่ในบางทำเลก็ได้มีการปรับราคาลงมาบ้างแล้วจากที่เคยตั้งราคาขายราคาสูงๆ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ก็เริ่มลดลง หลายแปลงที่บริษัททำดีลจบไปในราคาที่ลดลง 20-30% โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาบริษัทสามารถปิดการขายที่ดินสำหรับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบไปได้มูลค่า 4,000-5,000 ล้านบาท”

          สำหรับในปีที่ผ่านมา ยอดการซื้อขายที่ดินของบริษัทลดลงมากกว่า 50-60% เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แต่ละบริษัทอยู่ในระหว่างการปรับตัว

          ทั้งนี้ ผู้ประกอบการอสังหาฯ ได้ปรับกลยุทธ์โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการที่มีความเฉพาะมากขึ้น โดยจะเป็นการซื้อที่ดินตามวัตถุประสงค์มากกว่าที่จะซื้อมาเก็บไว้ก่อน โดยในปี 2564 ความต้องการที่ดินในการพัฒนาโครงการกว่า 70% จะเป็นทื่อยู่อาศัยแนวราบ ประเภท บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม ราคาระดับ 3-7 ล้านบาท.

ที่มา:

คลิกเครื่องหมาย เพื่อเพิ่มลงตะกร้าเก็บทรัพย์ที่สนใจ หรือกดอีกครั้งเพื่อลบออก
คลิกเพื่อเลือก บ้านที่ต้องการแล้วกดปุ่ม "เปรียบเทียบ" ได้เลย