เซ็งแซ่มาตรการอสังหาฯแนะผ่อนคลาย แอลทีวี
นายอธิป พีชานนท์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยถึงกรณีที่รัฐบาลมี 3 มาตรการช่วยอสังหาริมทรัพย์ ว่ามาตรการทั้งหมด ถือเป็นการให้ยาพาราใช้รักษาโรคมะเร็งที่มีดีกว่าไม่มี แต่ควรเน้นสร้างแรงจูงใจไปที่ฐานลูกค้าที่มีกำลังซื้อที่อยู่อาศัยระดับ 3 ล้านบาทขึ้นไปมากกว่าเพราะปัจจุบันการปล่อยสินเชื่อของธนาคารเข้มงวดมากกลุ่มกำลังซื้อน้อยถึง 80% ที่กู้ไม่ผ่านทำให้ผู้ประกอบการต้องเสียเวลาในการกระตุ้นยอดขายใหม่
“ดังนั้นการลดค่าโอนและจดจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิม 1% เหลือ 0.01% กรณีซื้อบ้านหลังละ 3 ล้านบาท เดิมจะต้องเสียค่าโอนและจดจำนองสูงถึง 60,000 บาทจะลดเหลือ 300 บาทนั้นควรเพิ่มกลุ่มบ้านราคาเกิน 3 ล้านบาทเข้าไปด้วยเช่นบ้านหลังละ 5 ล้านบาท รัฐบาลช่วยลดค่าโอดจดจำนองที่วงเงิน 3 ล้านบาทตามนโยบาย จากนั้นอีก 2 ล้านบาทให้ผู้ซื้อชำระเอง เป็นต้น”
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี กล่าวว่ามาตรการที่ออกมายังไม่ตรงกับสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการที่แท้จริง เพราะส่วนใหญ่ต้องการกระตุ้นยอดขายใหม่ ด้วยการผ่อนคลายมาตรการแอลทีวีจากปัจจุบันสถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อมากเกินไปทำให้ผู้บริโภคได้รับการอนุมัติน้อยลง
ทั้งนี้ มาตรการที่ได้รับการอนุมัติมาแล้วนั้นมีดีกว่าไม่มี แม้การลดภาษีที่ดินสิ่งปลูกสร้าง 90% ผู้ประกอบการได้รับอานิสงส์เพียงเล็กน้อย เพราะปัจจุบันมีบางรายเท่านั้นที่จะสะสมที่ดิน เพราะส่วนใหญ่ซื้อมาเพื่อพัฒนาแล้วขายออก จะไม่นิยมสะสมและโดยปกติแล้วหากซื้อที่ดินมาพัฒนาในมาระยะ 3 ปีแรกได้รับการยกเว้นภาษีอยู่แล้วแต่กลุ่มที่ได้รับประโยชน์ที่แท้จริงคือเจ้าสัวที่สะสมที่ดินหรือได้รับมรดกบางพื้นที่ยังไม่ทำการเพาะปลูกหรือสร้างเชิงพาณิชย์
ส่วนมาตรการลดภาษีค่าจดจำนองเป็นมาตรการเดิมที่ต่อเนื่องจากปี 63 จึงไม่น่าตื่นเต้นมากนักช่วยให้คนที่ซื้ออสังหาฯตัดสินใจเร่งโอนได้เร็วขึ้นช่วยให้ผู้ประกอบการมีรายได้และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นแต่ไม่ช่วยในเรื่องของการกระตุ้นยอดขายโครงการใหม่ ๆ เลย
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
