อสังหาฯปี64เร่งระบายสต็อกเก่า
นายแสนผิน สุขี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม(ประเทศไทย) จำกัด ในเครือเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2564 มีแนวโน้ม กระเตื้องขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อน่าจะฟื้นตัวดีขึ้น ขณะที่การแข่งขันตลาด แนวราบยังรุนแรง มีการจัดโปรโมชั่นที่ดุเดือดเพราะทุกบริษัทต้องการเติบโต ดังนั้นการพัฒนาโครงการในแต่ละทำเลจะต้องมีความรอบคอบและแม่นยำ ต้องปรับตัวและตอบรับให้ทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป จึงเป็นยุค ของมืออาชีพอย่างแท้จริง ดังนั้นดีเวลลอปเปอร์ จะต้องปรับตัวด้วยการนำเสนอสินค้าที่ตอบโจทย์ ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อ ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 บริษัทมุ่งพัฒนาโครงการที่กลุ่มลูกค้ามีอำนาจซื้อสูงแทนที่จะเป็นกลุ่มลูกค้าระดับล่าง อาทิ โครงการ"ซิตี้ โฮม"ในพื้นที่รอบนอกศูนย์กลางธุรกิจ ย่านวิภาวดี, พระราม9 และสาธุประดิษฐ์ ซึ่งเป็นบ้าน 3 ชั้น โดยแต่ละโครงการจะใช้ที่ดิน 20 ไร่ ในระดับราคา ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อตารางวา เพื่อพัฒนาขนาดตั้งแต่ 35-50 ตารางวา จำนวน 60-70 ยูนิต ในราคา15-40 ล้านบาทจำนวน 3 โครงการ รวมทั้งการทำคอนโดในระดับลักชัวรี่ในปีหน้า
“ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของลูกค้ากลุ่มระดับกลางที่เป็น กลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสายการบิน โรงแรม และการท่องเที่ยว เมื่อลูกค้ายื่นขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน มักถูกปฏิเสธสินเชื่อ ส่งผลให้อัตราการปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้น”
นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด ประเมินว่า ตลาดอสังหาฯ ปี 2564 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่จะยังไม่ฟื้นตัวคาดว่า ต้องใช้ระยะเวลา 2-3 ปี จากนี้ โดยการเร่งระบายซัพพลายเก่าในตลาด ที่ยังมีอยู่ด้วยการลดราคาและจัดโปรโมชั่น ส่งเสริมการขาย ขณะเดียวกันเลื่อนการ เปิดตัวโครงการใหม่ไปปีหน้า และส่วนใหญ่ เน้นการเปิดโครงการแนวราบที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัย ที่มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น เพราะหลังจากเกิด โควิด คนนิยมทำงานที่บ้านเพิ่มขึ้น
นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯ คาดว่า จะเห็นภาพฟื้นตัวในไตรมาส 4 จากเรียลดีมานด์ในตลาดที่ยังมีอยู่ ประกอบกับเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการยังมีการจัดโปรโมชั่น อย่างต่อเนื่อง จึงถือว่าเป็นจังหวะที่ดีในการซื้อหาที่อยู่อาศัย ส่วนสถานการณ์ในปีหน้า ตลาดอสังหาฯน่าจะดีขึ้น หากรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
