ลูกค้ารอ!อสังหาฯอัดโปรเด็ด เร่งยอดโอนก่อนหมดมาตรการรัฐ จับตา จีน-ฮ่องกง ขอเลื่อนชำระ
อสังหาริมทรัพย์
เข้าสู่หมวดโค้งส่งท้ายของปี 2563 ซึ่งเป็นปีที่ “สาหัสสากรรจ์” เมื่อเจอการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เปรียบได้กับ “ไวรัสล้างโลก” เศรษฐกิจทั่วโลกเข้าสู่ภาวะการหดตัวอย่างรุนแรง ขณะที่ประเทศไทย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอ่อนตัวมาอย่างต่อเนื่อง และยิ่งมาเจอฝันร้าย ถูกแรง ซัดจากพิษโควิด-19 กระหน่ำ ซ้ำ ส่งผลให้ในปี 63 เศรษฐกิจไทยจะติดลบประมาณ 8.1% และจะกลับมาพลิกฟื้นได้ในปีถัดไป ซึ่งเป็นมุมที่ภาครัฐมอง!
ขณะที่เซกเตอร์อสังหาริมทรัพย์ โดยภาพรวม ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างชัดเจน บวกกับภาระหนี้ครัวเรือนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 83.8% และการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อสังหาริมทรัพย์พุ่งเป็น 4.07% ภาคสถาบันการเงินแม้จะมีความแข็งแกร่งในด้านทุนสำรอง กลับต้องระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น มีการประเมินสินทรัพย์ ในระดับที่ลดต่ำลง ส่งผลให้ลูกค้าได้รับวงเงินกู้ที่ลดต่ำลงมาก จนอาจจะเป็นเหตุให้ตัดสินใจยกเลิกการซื้อ ที่อยู่อาศัย เนื่องจากไม่มีเงินสดที่เพียงพอ ซึ่งสื่อให้เห็นถึงกำลังซื้อโดยรวมที่ยังคงเปราะบาง จากรายได้ต่อครัวเรือนที่ลดลงและความเสี่ยงการเลิกจ้างที่สูงขึ้น ประกอบกับปัจจัยทางการเมืองที่กำลังส่งผลต่อความเชื่อมั่น ของภาคธุรกิจและผู้บริโภคด้วย
9 เดือน แนวราบเปิดใหม่รับโควิด มูลค่า 1.52 แสนล.
ท่ามกลางในวิกฤตเรื่องโควิด-19 ได้ส่งผลให้ ผู้ซื้อหันเปลี่ยนพฤติกรรมมาเลือกและมองหาที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นทาวน์เฮาส์ หรือบ้านเดี่ยว ให้ความสำคัญกับฟังก์ชันของพื้นที่ หรือซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังที่ 2 รองรับในกรณีเกิดการระบาดรอบ 2 และผลจากโควิด-19 ทำให้ลูกค้าได้มีเวลาและตัดสินใจที่เร็วและตรงความต้องการ ซึ่งตามรายงานวิจัยของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่แห่งหนึ่ง ระบุว่า ภาพรวมมูลค่าตลาดที่อยู่อาศัยกรุงเทพฯและปริมณฑล รอบ 9 เดือนแรกอยู่ที่ 208,994 ล้านบาท ลดลง -31% ซึ่งกลุ่มคอนโดมิเนียมลดลงมากที่สุดถึง -51%
โครงการเปิดใหม่แนวราบมีมูลค่าใกล้เคียงกับ ปีก่อน สวนทางกับคอนโดฯที่ลดลงมาก ตลาดทาวน์ เฮาส์ มียอดขายรวม 52,478 ล้านบาท ลดลง-13% แต่มีมูลค่าโครงการเปิดใหม่ค่อนข้างสูงรวม 63,449 ล้านบาท, ตลาดบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด มียอดขาย 74,706 ล้านบาท ลดลงน้อยมากเพียง -0.4% และมียอดขายดีขึ้นในไตรมาสที่ 2 และ 3 ขณะที่มูลค่าโครงการเปิดใหม่สวนทาง เพิ่มขึ้นมาจากปีก่อน โดยมีมูลค่ารวม 89,097 ล้านบาท ดังนั้น เมื่อรวมตลาดแนวราบ จะมีมูลค่าการเปิดโครงการใหม่ช่วง 9 เดือน 152,546 ล้านบาท ส่วนคอนโดฯ มียอดขายรวม 78,243 ล้านบาท ลดลงถึง -51% มีการเปิดโครงการใหม่เพียง 56,146 ล้านบาท
ซัปพลายทะลักพุ่ง 1.1 ล้านล. AP ทำได้ดีตลาดบ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮาส์
วิจัยฯยังระบุว่า ในส่วนของแนวโน้มซัปพลายในตลาดช่วง 9 เดือน พบว่า 1.1 ล้านล้านบาท เนื่องจาก ผู้ประกอบการมีการโหมจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ลดราคาเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจของผู้บริโภค เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้คืนกลับมาสู่องค์กรให้มากที่สุด ท่ามกลางวิกฤตที่ยังไม่มีความชัดเจนของการฟื้นตัว มียอดขายที่สามารถทำได้ประมาณ 208,994 ล้านบาท ขณะที่ซัปพลายของโครงการเปิดใหม่ เป็นไปตามภาวะตลาด ผู้ประกอบการชะลอและเลื่อนโครงการไปเปิดในช่วงปลายปี และต่อเนื่องในปี 2564 รวมถึงบริษัทอสังหาฯในตลาด หลักทรัพย์หลายแห่ง ประกาศขายที่ดินในส่วนที่รอการพัฒนาและที่ดินส่วนที่ยกเลิกเปิดโครงการใหม่และคืนเงินให้กับลูกค้า เนื่องจากยอดขายไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมาย ที่วางไว้ ซึ่งจะเสี่ยงในเรื่องของการขอสินเชื่อพัฒนาโครงการจากสถาบันการเงิน และเป็นการบริหารกระแสเงินสดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 3 ทาวน์เฮาส์ บ้านแฝด บ้านเดี่ยว มีการเปิดตัวค่อนข้างมาก โดยทาวน์เฮาส์จะทำราคาเจาะกลุ่มในตลาด 2-3 ล้านบาท และ 3-5 ล้านบาท มีสัดส่วนสูงถึง 83% มี Take Up ขยับมาเป็น 20%, บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว ส่วนใหญ่เปิดราคาในกลุ่ม 3-5 ล้านบาท และ 5-7 ล้านบาท มี Take Up ขยับมาเป็น 15% และที่น่าสังเกต ตลาดคอนโดฯ ผู้ประกอบการ ปรับทิศมาพัฒนาโครงการอยู่ในกลุ่ม 1.5-2 ล้านบาท และ 2-3 ล้านบาท เพื่อรองรับกลุ่มกำลังซื้อระดับทำงาน ค่อนข้างประสบความสำเร็จ ในไตรมาสนี้ มียอดขายขึ้นมาเป็น 43%
แต่การโหมมารุกเปิดตลาดแนวราบอย่างต่อเนื่อง ก็ยังผลถึงซัปพลายที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน (Unsold Supply) ของตลาดที่อยู่อาศัยกรุงเทพฯและปริมณฑล ช่วง 9 เดือน ตลาดทาวน์เฮาส์มีซัปพลายเพิ่มขึ้นมากถึง +9% บ้านเดี่ยว เพิ่มขึ้น 2.3% ขณะที่คอนโดฯซัปพลายลดลง -4.3%
“ในด้านมาร์เกตแชร์ในตลาดรวม ยังคงเป็นของ ผู้เล่นรายใหญ่อยู่ โดย AP ทำได้ดีขึ้นในตลาดบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ จากการเปิดโครงการใหม่รวม 26 โครงการ ค่ายแสนสิริ ที่ช่วงที่ผ่านมา เล่นกลยุทธ์เรื่องระบาย สต๊อกจนมีกระแสเงินสดในมือหมื่นกว่าล้านบาท จาก การระบายสต๊อกคอนโดฯและทาวน์เฮาส์ ส่วนค่ายแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีการปรับกลยุทธ์ เพิ่มดีไซน์ในกลุ่มตลาดทาวน์เฮาส์ออกสู่ตลาด และที่น่าสนใจ คือ ศุภาลัย มารุกเจาะกลุ่มคอนโดฯในระดับกลางและล่าง” แหล่งข่าวกล่าวและว่า
ในช่วงที่เหลือของปีนี้และต่อเนื่องปี 64 ประเด็นเรื่องการดูดซับ ยังคงมีอัตราลดลงต่อเนื่อง อันเป็น ผลจากกำลังซื้อของลูกค้า และการยังไม่พลิกฟื้นของกำลังซื้อใหม่จากภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงประเด็น คอนโดฯ ในกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่ยังไม่สามารถเดินทางเข้ามาประเทศไทยได้ ทำให้การโอนกรรมสิทธิ์อาจจะมีตัวเลขลดลง และอาจะทำให้บางรายยกเลิกห้องชุด
ลูกค้า ‘จีน-ฮ่องกง’ ขอเลื่อนชำระเลิกจองคอนโดฯ
สอดคล้องกับมุมมองของนายแฟรงค์ ข่าน กรรมการ บริหารและหัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาด้านโครงการที่พักอาศัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด อ้างจากผลสรุปจากการพูดคุยกับตัวแทนนายหน้าอสังหาฯจากต่างประเทศหลายแห่ง ทั้งในจีนและฮ่องกงที่มีต่อตลาดอสังหาฯ ในประเทศไทย ตลาดอสังหาฯในประเทศไทยได้รับ ผลกระทบจากจำนวนนักลงทุนจีนที่ลดลงในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเป็นผลกระทบเชิงลบจากโรคระบาดและความไม่แน่นอนในทั่วโลก ผู้ซื้อส่วนใหญ่มีความกังวลเป็นอย่างมากและเลือกชะลอการทำธุรกรรมต่างๆ นักลงทุนชาวจีนและชาวฮ่องกงบางส่วน ต้องการเลื่อนชำระยอดคงเหลือ ตามข้อตกลงการซื้อโครงการที่อยู่อาศัยออกไปอีก 1- 2 ปี และบางรายถอดถอนการจองโครงการที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ (off-plan) โดยทั่วไปแล้วนักลงทุนชาวฮ่องกงและชาวจีนมักจะเข้าชมสถานที่จริงก่อนตัดสินใจซื้อ แต่นักลงทุนไม่สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ เนื่องจากข้อจำกัดด้านการเดินทาง ซึ่งนี้เป็นสาเหตุหลักในการเลื่อนชำระ
ขณะที่ ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่า อัตราดูดซับต่อเดือนของบ้านจัดสรร คาดว่า จะลดลงมาอยู่ที่ 2% ในครึ่งหลังปี 2563 และเพิ่มขึ้น เป็น 2.4% ในครึ่งแรกปี 64 ส่วนอัตราดูดซับต่อเดือน ของอาคารชุด คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 1.7% ในครึ่งหลังปี 2563 และเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 1.8% ในครึ่งแรกปีหน้า
อสังหาฯโกยยอดโอนก่อนสิ้นมาตรการภาษี
สำหรับในช่วงโค้งส่งท้ายของปีนี้ ผู้ประกอบการ ทุกค่ายเร่งโหมจัดแคมเปญกระตุ้นยอดขายและยอดโอนฯ เพื่อเร่งการตัดสินใจของลูกค้า ประกอบกับปีนี้จะมีความพิเศษ ในเรื่องที่มาตรการภาครัฐช่วยเหลือภาคอสังหาฯ ผ่านการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลือรายการละ 0.01% ซึ่งจะสิ้นสุดภายในวันที่ 24 ธันวาคมนี้ เป็นตัวเร่งให้ผู้ประกอบการ “จัดเต็ม” ในการส่งเสริมให้ลูกค้าตัดสินใจโอนเพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทัน นอกเหนือจาก แคมเปญที่แต่ละค่ายกระหน่ำจัดกระตุ้นในช่วงโค้งส่งท้ายปี ลด แลก แจก แถม รวมถึงการคืน Cash back ให้ลูกค้าซึ่งจะเป็นอีกวิธีในการเพิ่มกำลังซื้อให้ลูกค้า
“ลูกค้าต้องการมากที่สุด คือ ซื้อบ้านแล้วมีเงินสดเหลือ จะเห็นว่า ช่วงนี้จะหนัก ผู้ประกอบการจะยอมหั่นราคาขาดทุนกำไร เพื่อเอาเงินสดเข้ากระเป๋าให้มากที่สุด กระแสเงินสดเป็นสิ่งสำคัญในยามเกิดวิกฤต ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่กรุงเทพฯหรือต่างจังหวัด เรื่องราคายังสามารถดึงลูกค้าเข้าโครงการได้ดี บางรายมีนโยบายให้ส่วนลดแตกต่างกัน เช่น เพดานกำหนดไว้ 5 แสนบาท แต่ในช่วงที่การแข่งขันไม่สูง การให้ส่วนลดจะไม่ชนเพดาน ต่างกับปัจจุบันต้องยอมให้ชนเพดาน และให้ของแถมพิเศษกับผู้ซื้อ"ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่อยู่ในพื้นที่ อีอีซี กล่าว
นายศุภชัย รุจิเรืองโรจน์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์สงขลา ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท ปุณณกัณฑ์ วัลเลย์ จำกัด กล่าวยอมรับว่า กำลังซื้อที่อยู่อาศัยในจังหวัดสงขลาหลังสถานการณ์โควิด-19 อยู่ที่เรื่องความเชื่อมั่นของลูกค้า เรื่องราคาบ้านแพงหรือซื้อไม่ได้ ไม่ใช่เป็นประเด็นใหญ่ เท่ากับเรื่อง “อารมณ์ยังไม่ไหว” เพราะต้องการรอโปรโมชันจากผู้ประกอบการเพิ่มเติม
“ข้อดีของโควิด-19 ส่วนหนึ่งทำให้โครงการมียอดจองช่วงพรีเซลเยอะขึ้น ลูกค้ารักษาเงิน พยายามไม่ทิ้งเงินดาวน์มากนัก แต่สิ่งที่เราพบ ลูกค้ารอซื้อของราคาถูก วิธีการที่เราทำ คือ การปรับราคาขึ้นในสินค้าที่คงเหลืออยู่ เพื่อจัดโปรโมชันส่วนลดพิเศษ โดยผู้ประกอบการจะมีภาระในส่วนของภาษีเต็มจำนวนที่เสนอขาย” นายศุภชัยกล่าว
‘เสนาฯ-’ จัดรับ Cash back สูงสุด 1 ลบ.
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) กล่าวว่า แม้บรรยากาศการซื้อขายและการโอนฯโครงการในช่วงนี้จะยังชะลอตัวออกไปบ้าง ตามสถานการณ์ความไม่แน่นอนในปัจจุบันก็ตาม ซึ่งทางบริษัทมีการวางกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายในโค้งสุดท้ายของ ปี 2563 เพื่อให้ได้ยอดขายตามเป้ามากที่สุด โดยได้จัดโปรโมชันกับโครงการใหม่ และโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ภายใต้แคมเปญโกยยอดขายปลายปี “หยุดที่โปรนี้” ชื้อตอนนี้รับ Cash back สูงสุด 1 ล้านบาท ครอบคลุมทุกโครงการใหม่และพร้อมเข้าอยู่ทุกระดับราคา รวม 22 โครงการกรุงเทพฯและปริมณฑล ราคา 8 แสนกว่า - 13 ล้านบาท เริ่ม 1 พ.ย. - 30 ธ.ค. 2563
ในด้านการตลาดทางออนไลน์นั้น เสนาฯยังมีแคมเปญพิเศษ ร่วมกับทาง Shopee 11.11 Big sale ซื้อ Voucher 11 บาท รับส่วนลดสูงสุด 20,000 บาท สุดคุ้ม! อีกครั้งสำหรับแฟนคลับ Shopee รับเพิ่ม 500 Shopee Coins สำหรับ 11 ยูนิตแรกที่โอนกรรมสิทธิ์ โดยตั้งเป้ายอดขายแคมเปญดังกล่าวไว้ที่ 1,000 ล้านบาท
ศุภาลัยผุด 9 แนวราบมูลค่า 6,600 ล. เปิดโอนคอนโดฯซูเปอร์ลักชัวรีหมื่นล.
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯเตรียมส่งโปรโมชันแรง!! “ศุภาลัย ลดไฟลุก รับไฟแล่บ...ลดมากกว่าที่คิด รับแรงกว่าทุกครั้ง เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า เรียลดีมานด์ที่มองหาที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ลดสูงสุด 2 ล้านบาทฟรี! ทุกค่าใช้จ่ายวันโอนฯพิเศษ! กู้ไม่ผ่านยินดีคืนเงิน สำหรับโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอนฯ จองตั้งแต่วันนี้และโอนฯ ภายในวันที่ 18 ธ.ค.นี้
อนึ่ง ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะเปิด 9 โครงการใหม่แนวราบ มูลค่า 6,600 ล้านบาท รวมถึงการเร่งยอดโอนโครงการ Flagship ภายใต้ชื่อ ‘ศุภาลัย โอเรียนทัล สุขุมวิท 39’ ซูเปอร์ลักชัวรีที่เสร็จสมบูรณ์ มีมูลค่าโครงการสูงถึง 10,000 ล้านบาท
เมเจอร์ฯซื้อ 1 ฟรี 1-ฟรีมูลค่าส่วนกลาง 10 ปี
นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ กรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (MJD) กล่าวว่า ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ บริษัทจัดแคมเปญลดราคาครั้งใหญ่ภายใต้ชื่อ “MAJOR SALE” ลด จัดใหญ่ ให้ได้ให้ เพื่อคืนกำไรให้ลูกค้าให้ได้รับข้อเสนอ ที่ดีที่สุด สำหรับพร้อมเริ่มต้นชีวิตใหม่ในปี 2564
“แม้ในภาพรวม ผู้บริโภคจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่ในความเป็นจริงผู้บริโภคยังคงมีความต้องการที่อยู่อาศัย สังเกตได้ว่าภาพรวมตลาดอสังหาฯทั้งปีนี้ ทุกบริษัทยังคงมียอดขายเข้ามาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง แคมเปญ MAJOR SALE ครั้งนี้ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงโครงการที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น ตัวแคมเปญดีลสุดพิเศษ จะแล้วแต่ละโครงการ อาทิ ซื้อ 1 ฟรี 1, ฟรีค่าส่วนกลางสูงสุด 10 ปี, Welcome Pack บริการครอบคลุม 3 ด้าน ได้แก่ บริการขนย้ายสินค้าจาก Lalamove, บริการทำความสะอาดพ่นฆ่าเชื้อโรคจาก Vesta by Roys, Voucher บริการซักอบรีดจาก Sin Chai Hua และส่วนลดสุดพิเศษสำหรับบางโครงการถึง 50%
ปัจจุบันบริษัทฯ มีสต๊อกคงเหลือ 8,500 ล้านบาท เนื่องจากมีโครงการแล้วเสร็จพร้อมอยู่หลายโครงการ
‘แพทโก้ กรุ๊ป’ เปิดแบรนด์ใหม่’ ‘ทรอฟี บ้านโพธิ์’
ดร.สืบวงษ์ สุขะมงคล ประธานกรรมการบริหาร แพทโก้ กรุ๊ป กล่าวว่า ช่วง 2 เดือนที่เหลือ บริษัท มารวย เรียลเอสเตท จำกัด นำ 2 โครงการ คือ บ้านมารวย ริเวอร์ไซด์ และบ้านมารวย โสธร 4 จัดโปรโมชัน ส่งท้ายปี “YEAR END SALE โปรแรงส่งท้ายปี” สิทธิพิเศษ กว่าครึ่งล้าน จองเพียง 900 บาท ราคาพิเศษ 2.99 ล้านบาท จากราคาปกติ 3.4 ล้านบาท ฟรีทุกค่าใช้จ่ายวันโอน
พร้อมเปิดตัวโครงการใหม่ ทรอฟี บ้านโพธิ์ ทาวน์เฮาส์สไตล์อังกฤษ ราคาเริ่มต้น 1.99 ลบ. โดยจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไตรมาส 1 ปี 64 นอกจากนี้สำหรับโครงการบ้านมารวยสระแก้ว และบ้านมารวยอรัญ บริษัทใช้โปรโมชัน Final Call สิทธิพิเศษสูงสุด 500,000 บาท ราคาพิเศษแปลงพิเศษ
‘แสนสิริ’ สกรีนลูกค้ากู้อย่างน้อย 3 แบงก์
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ส่งแคมเปญ “ผ่อนไร้ดอก 24 เดือน” รับเพิ่ม 150,000 บาท สำหรับลูกค้า ที่จอง ทำสัญญา และโอนกรรมสิทธิ์ ถึงวันที่ 30 ธ.ค.นี้ เงื่อนไขต้องยื่นขอสินเชื่อธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงไทย และเลือกแบบอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดเท่านั้น การรับโบนัสจะได้รับในงวดที่ 13 เมื่อลูกค้าชำระค่างวดเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีแคมเปญ “ผ่อน 0 บาท กู้ไม่ผ่านคืนเงิน” สำหรับลูกค้าที่จองและทำสัญญาภายในวันที่ 31 ธ.ค.เท่านั้น ต้องยื่นเอกสารล่วงหน้าอย่างน้อย 60 วัน ก่อนวันโอนกรรมสิทธิ์ และยื่นสินเชื่อกับธนาคารที่เข้าร่วมแคมเปญ อย่างน้อย 3 ธนาคาร กรณีขอคืนเงิน ต้องมีหนังสือปฏิเสธการอนุมัติสินเชื่อจากธนาคารทั้ง 3 แห่ง มาแสดงเป็นหลักฐาน กรณีกู้ไม่ผ่านคืนเงิน ผู้จองต้องตกลงให้บริษัทหักค่าใช้จ่ายก่อนคืนเงิน 1% ของราคา ห้องชุดสุทธิ หักค่าใช้จ่ายรายการส่งเสริมการขายที่ผู้จองได้รับไปแล้ว
บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) จัดแคมเปญส่งท้ายปี 2563 “โค้งสุดท้ายปลายปี ลดเป็นล้าน” จำนวน 11 โครงการ
บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) อัดแคมเปญภายใต้ชื่อ ลดจริง ไม่มีแกง!!! โปรแร๊งแรง ส่งท้ายปี พบข้อเสนอพิเศษสุด 14-15 พ.ย.นี้ ทุกโครงการรับส่วนลดสูงสุด 2 ล้านบาท ฟรี!! iPhone12 ทุกยูนิต พร้อมผ่อนดาวน์เบาๆ เริ่มเพียง 2,999 บาท/เดือน เริ่มต้น 2.69-16 ล้านบาท
ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา